เทสลา' ปรับขึ้นราคารถไฟฟ้ารุ่น 'Model Y' ในสหรัฐ รถยนต์ไฟฟ้า อินโฟเควสท์
ทั้งนี้ เทสลาได้ปรับขึ้นราคารถไฟฟ้ารุ่นโมเดล วายในสหรัฐอีกประมาณ 250 ดอลลาร์ สู่ 47,740 ดอลลาร์ต่อคัน ขณะที่รถไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ของเทสลาในสหรัฐยังคงมีราคาเท่าเดิม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นการปรับขึ้นราคารถไฟฟ้ารุ่นโมเดล วายเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. โดยในเวลานั้นเทสลาได้ปรับลดราคาเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับรถไฟฟ้าบางรุ่นในสหรัฐ ในเดือนพ.ค. เทสลาได้ปรับขึ้นราคารถไฟฟ้ารุ่นโมเดล เอส , โมเดล เอ็กซ์ และโมเดล วายในสหรัฐเป็นอัตราเปอร์เซ็นต์หลักหน่วย
รายงานระบุว่า เทสลาได้ดำเนินการปรับลดราคารถไฟฟ้าทั่วโลกนับตั้งแต่เดือนม.ค. เพื่อกระตุ้นปริมาณการขายรถไฟฟ้าของทางบริษัท โดยนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลาได้ออกมาระบุว่า บริษัทยินดีที่จะสละผลกำไรเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่ก็พิจารณาที่จะปรับขึ้นราคารถไฟฟ้าให้กลับมามีราคาเท่าเดิมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้มีการปรับขึ้นราคารถไฟฟ้ารุ่นโมเดล วายเมื่อวานนี้ แต่ราคารถรุ่นดังกล่าวก็ยังต่ำกว่าระดับราคาในช่วงก่อนที่เทสลาประกาศปรับลดราคาในเดือนเม.ย.อยู่ราว 4.5%
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ผู้ว่าฯ กทม. จ่อเสนอสภากทม.พิจารณาจ่ายหนี้สายสีเขียวบางส่วน-เร่งรบ.สนับสนุน : อินโฟเควสท์นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมหารือกับนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) และคณะผู้บริหาร ถึงแนวทางในการเดินหน้าและหาทางออกปัญหาเรื่องภาระหนี้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว นายชัชชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ BTS ได้มาหารือเรื่องกรณีค่าจ้างการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ (E&M) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 2 ที่ครบกำหนดชำระ ประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา กทม. ได้เตรียมตัวอยู่แล้ว โดยมีกระบวนการในการดำเนินการทั้งหมด 2 ขั้นตอนที่ต้องไปดำเนินการต่อ คือ 1. เรื่องที่บริษัท กรุงเทพธนาคม (KT) จ้าง BTS เดินรถ ซึ่งขณะนั้น กทม. มอบหมายให้ KT เป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้น ขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการได้คือต้องให้สภากทม. อนุมัติก่อน 2. หากจะชำระเงินก็ต้องใช้เงินที่เป็นเงินสะสมมาจ่ายขาด ซึ่งในสภากทม. […]
อ่านเพิ่มเติม »
ซาอุฯเปรยต้องการร่วมมือกับจีนด้านการค้า-พลังงาน แทนที่จะเป็นคู่แข่ง : อินโฟเควสท์เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียต้องการความร่วมมือกับจีนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในด้านการลงทุนทางการค้าและการไหลเวียนของพลังงาน แทนที่จะแข่งขันกับจีน “เราได้รับรู้ถึงความเป็นจริงในปัจจุบันว่าขณะนี้จีนกำลังนำอยู่ และจะยังคงเป็นผู้นำต่อไป เราไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับจีน เราต้องร่วมมือกับจีน” เจ้าชายบิน ซัลมาน กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ระหว่างการประชุมธุรกิจอาหรับ-จีน เมื่อวันอาทิตย์ (11 มิ.ย.) เจ้าชายบิน ซัลมาน กล่าวเสริมว่า การทำงานกับจีนนั้นมีคุณค่า เพราะจีนเป็นผู้นำในการหาโรงงานผู้ผลิตที่เหมาะสม โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียน “เราจะไม่กลับไปเล่นเกมที่มีฝ่ายใดเป็นผู้ได้หรือเสียอีก” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปกจึงได้มุ่งความสนใจไปที่จีน เจ้าชายบิน ซัลมาน กล่าวว่า เขาเชื่อว่าอุปสงค์ด้านน้ำมันของจีนยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นเรื่องสำคัญที่ซาอุดีอาระเบียจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ทั้งนี้ จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก และซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันให้จีนมากที่สุดในเดือนเม.ย. แม้ว่าน้ำมันรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรจะราคาถูกกว่าก็ตาม ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้ประกาศข้อตกลงโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ 2 ฉบับ ซึ่งจะส่งออกน้ำมัน 690,000 บาร์เรลต่อวัน ให้กับบริษัทหร่งเซิง ปิโตรเคมิคอล (Rongsheng Petrochemical) และบริษัทเจ้อเจียง ปิโตรเคมิคอล (Zhejiang Petrochemical) […]
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดโฆษณาจีนซบเซาชี้เศรษฐกิจภาคการบริโภคฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กลุ่มธุรกิจในจีนใช้จ่ายงบประมาณด้านโฆษณาแบบระมัดระวังในปีนี้ เนื่องจากการบริโภคจีนมีแนวโน้มที่จะยังไม่ฟื้นตัวเร็ว ๆ นี้ แม้รายได้ด้านการตลาดของบริษัทอินเทอร์เน็ตหลายรายในจีนนั้นเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ไม่ใช่สำหรับอาลีบาบา ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่อินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของจีนเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รายงานระบุว่า แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ยังคงระมัดระวังตัว แม้จะใกล้ถึงเทศกาลชอปปิงกลางปี 618 (618 Shopping Festival) ในเดือนนี้ “สำหรับเทศกาล 618 โดยทั่วไปแล้วแบรนด์ต่าง ๆ ก็มีความพยายามทีเดียว แต่ยังน้อยกว่าในอดีต” นางแอชลีย์ ดูแดร์น็อก ผู้ก่อตั้งบริษัทโชจ้าน (ChoZan) บริษัทที่ปรึกษาด้านการผลิตจีนระบุ “เรารู้ว่าทุกวันนี้ต้องใช้เงินเท่าเดิมในการเรียกลูกค้าเข้าร้านของคุณเมื่อเทียบกับปี 2564 แต่ลูกค้าจะซื้อสินค้าน้อยลงประมาณ 30%” นางดูแดร์น็อกกล่าว ธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุในผลสำรวจว่า ในช่วงไตรมาส 1/2566 รายได้ที่ใช้จ่ายได้เฉลี่ยของประชาชนในเขตเมืองในจีนอยู่ที่ 12,175 หยวน (1,739 ดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยประชาชนวางแผนใช้จ่ายเงินในหมวดการศึกษา การดูแลสุขภาพและการเดินทางมากที่สุด “นักวิเคราะห์โดยรวมคาดการณ์ว่าการบริโภคจะเติบโตและฟื้นตัวในปี 2567 ส่วนปีนี้จะเพียงแค่ก้าวออกจากภาวะขาลงเท่านั้น” นางดูแดร์น็อกระบุด้วยว่า กลุ่มบริษัทโฆษณาวางแผนที่จะใช้จ่ายเพื่อทดลองการโฆษณาด้วยเสิร์ชเอนจิ้น โดยปัจจุบันไป่ตู้และ […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักลงทุนเมินตลาดหุ้นจีน แห่เทรดตลาดญี่ปุ่น-อินเดีย หลังเศรษฐกิจจีนซบเซา : อินโฟเควสท์เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้านับตั้งแต่ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นจีนลดลง และพากันมองหาทางเลือกการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งต่างก็ได้ประโยชน์จากการที่ตลาดหุ้นจีนทำผลงานย่ำแย่นับตั้งแต่เปิดประเทศ โดยหลักฐานล่าสุดคือข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดของจีนซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก “ท่ามกลางความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน นักลงทุนได้มองหาโอกาสจากตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นซึ่งทำผลงานโดดเด่นมาก ขณะที่ตลาดหุ้นอินเดียก็กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงงทุนอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา” นายแอนดรูว์ ทิลตัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของโกลด์แมน แซคส์ กล่าว ตลาดหุ้นโตเกียวเข้าสู่ภาวะกระทิงแล้วในขณะนี้ หลังจากดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นกว่า 23% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อของบรรดานักลงทุนต่างชาติ ซึ่งรวมถึงนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ส่วนดัชนี Nifty 50 ตลาดหุ้นอินเดียพุ่งขึ้นเกือบ 7% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ พุ่งขึ้น 18% นับตั้งแต่ต้นปี ความคึกคักของดัชนีตลาดหุ้นทั้ง 3 ตลาดแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตลาดหุ้นจีนที่ถูกเทขายอย่างหนัก โดยดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ร่วงลง 5.29% ตั้งแต่ต้นปีนี้ ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นยังแสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังคงลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนในประเทศยังคงเป็นผู้ซื้อสุทธิพันธบัตรต่างประเทศ รายงานระบุว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมูลค่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
ท่าเรือในฝูเจี้ยนต้อนรับปลาจากแปซิฟิกเหนือชุดแรก : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ เรือประมงเดินสมุทรพร้อมปลาที่จับได้น้ำหนักรวม 2,145 ตัน จอดเทียบที่ท่าเรือนานาชาติหยวนหง นครฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน นับเป็นปลาจากการออกทะเลชุดแรกที่ขนส่งขึ้นท่าเรือดังกล่าวในปีนี้ ทั้งนี้ ปลาซาร์ดีนแช่แข็งและปลาชนิดอื่น ๆ ซึ่งจับได้จากทะเลหลวงของมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ จะถูกขนส่งไปยังคลังสินค้าห้องเย็นของบริษัทฝูเจี้ยน เฟิงต้า กรุ๊ป (Fujian Fengda Group) หลังจากดำเนินการลำเลียงเสร็จสิ้นและเป็นวัตถุดิบสำหรับบริษัทแปรรูปอาหารต่อไป โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ผู้นำนิวซีแลนด์เตรียมเยือนจีนสิ้นเดือนมิ.ย. ถกการค้าระหว่างสองประเทศ : อินโฟเควสท์นายคริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ระบุในวันนี้ (12 มิ.ย.) ว่า เขาจะเดินทางเยือนจีนในช่วงสิ้นเดือนนี้ในฐานะผู้นำคณะผู้แทนการค้า โดยจีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ ด้วยมูลค่าการส่งออกไปยังจีนกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ต่อปี นิวซีแลนด์นั้นไม่ได้เผชิญกับอุปสรรคทางการค้าจากจีนเหมือนออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียประสบกับปัญหาทางการค้ากับจีนจากความขัดแย้งในประเด็นต่าง ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายกฯฮิปกินส์แถลงต่อสื่อมวลชนว่า คณะผู้แทนจากนิวซีแลนด์จะประกอบด้วยผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมการผลิตนม การท่องเที่ยว การศึกษา และเกม “ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับนิวซีแลนด์นั้นถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความสำคัญ หลากหลาย และซับซ้อนที่สุดของนิวซีแลนด์” นายกฯฮิปกินส์กล่าว นิวซีแลนด์เป็นสมาชิกของกลุ่มปัญจเนตร (Five Eyes) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านข่าวกรองและความมั่นคง 5 ประเทศ รวมถึงสหรัฐ แคนาดา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย โดยที่ผ่านมานั้นนิวซีแลนด์ใช้วิธีประนีประนอมกับจีนมากกว่าประเทศพันธมิตร อย่างไรก็ตาม นิวซีแลนด์แสดงความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับจีน ในประเด็นการทำสงครามในแปซิฟิก หลังจากที่จีนขยายอิทธิพลในภูมิภาค นางนาไนอา มาฮูตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์เดินทางเยือนจีนในเดือนมี.ค. โดยเธอได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นทะเลจีนใต้ ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน และสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางภาคตะวันตกของจีน รวมถึงการริดรอนสิทธิและเสรีภาพในฮ่องกง สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นี่จะเป็นการเดินทางเยือนจีนครั้งแรกนับตั้งแต่นายกฯฮิปกินส์ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนม.ค. หลังจากนางจาซินดา อาร์เดิร์นพ้นจากตำแหน่ง โดยปีนี้เขาได้เดินทางเยือนปาปัวนิวกินี […]
อ่านเพิ่มเติม »