'เจ้อเจียง ลีปมอเตอร์' เปิดเทรดแย่สุดในตลาดฮ่องกงปีนี้ หลังหุ้นร่วง 33% ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ว่านอู้อิงค์ เจ้อเจียงลีปมอเตอร์เทคโนโลยีโค อินโฟเควสท์
หุ้นบริษัทเจ้อเจียง ลีปมอเตอร์ เทคโนโลยี โค ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน และหุ้นว่านอู้ อิงค์ ธุรกิจในเครือไชน่า ว่านเคอ โค บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติจีน ได้ทรุดตัวลงอย่างหนักในการเปิดตัวซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังจากทั้งสองบริษัทเพิ่งระดมทุนได้กว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ หุ้นเจ้อเจียง ลีปมอเตอร์ เทคโนโลยี โค ปรับตัวลงมากถึง 33% แตะที่ 32.20 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้นในการเปิดซื้อขายวันแรกในวันนี้ หลังจากบริษัทเพิ่งระดมทุนได้ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์จากการขายหุ้น IPO ที่ราคา 48 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของกรอบราคาที่กำหนดไว้ ขณะที่หุ้นว่านอู้ อิงค์ ธุรกิจจัดการอสังหาริมทรัพย์ของไชน่า ว่านเคอ ปรับตัวลงมากถึง 7.9% แตะที่ 45.45 ดอลลาร์ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวระดมทุนได้ประมาณ 739 ล้านดอลลาร์ผ่านการทำ IPO ที่ราคา 49.
บริษัทจีนทั้งสองแห่งเริ่มต้นการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ซึ่งถือว่าไม่ค่อยดีนักสำหรับการทำ IPO และตลาดหุ้นโดยรวม โดยจนถึงเมื่อวานนี้ บริษัทครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 16 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงในปีนี้หลังเสร็จสิ้นการทำ IPO ที่ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์นั้น ปิดการซื้อขายวันแรกต่ำกว่าระดับ IPO โดยข้อมูลจากบลูมเบิร์กแสดงให้เห็นว่า บริษัทอีก 3 แห่งปิดทรงตัว และอีก 5 แห่งเคลื่อนไหวเหนือระดับราคา...
การเปิดซื้อขายหุ้นใหม่ครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญแรงกดดัน หลังจากการแสดงความคิดเห็นเชิงรุกจากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น และดัชนีดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ส่วนดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 3.4% ในวันพุธ ซึ่งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี
หลังการเปิดตัวของหุ้นลีปมอเตอร์และหุ้นว่านอู้ นักลงทุนจะจับตาการเปิดซื้อขายหุ้นของบริษัทซีเอแอลบี โค ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์แบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในวันที่ 6 ต.ค.นี้ หลังบริษัทเพิ่งระดมทุนได้ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านการทำ IPO ที่ระดับต่ำสุดของกรอบราคาที่กำหนดไว้เมื่อวานนี้
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ค่าเงินเปโซฟิลิปปินส์ดิ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จ่อทะลุ 59 เทียบดอลลาร์ : อินโฟเควสท์ข้อมูลจากสมาคมธนาคารฟิลิปปินส์ระบุว่า ค่าเงินเปโซของฟิลิปปินส์ดิ่งลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ทั้งนี้ เปโซปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 58.99 เทียบดอลลาร์ ต่ำกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้ที่ระดับ 58.50 เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ขณะนี้เปโซอ่อนค่าลงมากกว่า 15% นับตั้งแต่พุ่งแตะระดับ 50.999 เทียบดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2564 ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศระดมพลเพื่อยกระดับการทำสงครามกับยูเครน นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์ชาติอังกฤษเคลื่อนไหวแล้ว! หลังนักลงทุนแห่ขายบอนด์ เหตุวิตกฐานะการคลัง : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แถลงในวันนี้ว่า ทางธนาคารจะทำการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกฤษจำนวนมากเท่าที่มีความจำเป็นตั้งแต่ขณะนี้จนถึงวันที่ 14 ต.ค.เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน “BoE จะทำการซื้อพันธบัตรในขนาดที่มีความจำเป็นเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพในตลาด เนื่องจากหากตลาดยังคงมีความผันผวนต่อไปก็จะสร้างความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพทางการเงินของสหราชอาณาจักร” แถลงการณ์ระบุ ทั้งนี้ นักลงทุนแห่เทขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ รวมทั้งมาตรการเยียวยาภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษจากการก่อหนี้เพิ่มขึ้นของรัฐบาล การแห่เทขายพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าว ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2545 ในวันนี้ นอกจากนี้ BoE ระบุว่า ทางธนาคารจะเลื่อนแผนการขายพันธบัตรที่มีกำหนดเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า และจะทำการขายพันธบัตรทันทีที่ตลาดมีเสถียรภาพ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
เอสซีจี อินเตอร์ฯ วางเป้ายอดขายปีนี้ 5.4 หมื่นลบ.ชู 3 กลยุทธ์สู่ผู้นำพันธมิตรการค้าครบวงจร : อินโฟเควสท์นายอบิจิต ดัตต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า ด้วยภาวะสงครามและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์คาดไม่ถึงและคาดเดาไม่ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกเผชิญหน้ากับวิกฤตการขนส่งสินค้า ราคาพลังงาน และต้นทุนวัตถุดิบผันผวน SCG International จึงได้นำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์และครอบคลุมการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ผ่าน 3 กลยุทธ์ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และธุรกิจ SMEs ได้แก่ End-to-End Supply Chain Solutions, Green Business และ B2B ASEAN E-Marketplace “เราตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ย 6% ในระยะยาว โดยมียอดขาย 54,000 ล้านบาท ในปี 65 มีเป้าหมายเป็นผู้นำพันธมิตรการค้าครบวงจรระดับโลก (Trusted International Supply Chain Partner) เน้นขับเคลื่อนการเติบโต โดยขยายธุรกิจสู่ตลาดที่จะเป็นเมกะเทรนด์ของโลก อาทิ SAMEA เป็นต้น” …
อ่านเพิ่มเติม »
ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 32,001 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 32,001 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 5,054 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 3,143 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 3,477 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.77% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.04% ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันก่อนหน้าประมาณ 2-9 bps. ภายหลังจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 0.75% เป็น 1.00% ต่อปี โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 65 มีแนวโน้มจะขยายตัวที่ 3.3% …
อ่านเพิ่มเติม »
ครม. รับทราบความคืบหน้าเบิกจ่ายงบปี 65 ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 ถึงวันที่ 16 ก.ย. 65 ในภาพรวมมีการเบิกจ่ายแล้ว 90.27% ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยที่ตั้งไว้ 93% โดยเป็นการเบิกจ่ายงบประจำ 96.47% การเบิกจ่ายงบลงทุน 64.21% และการเบิกจ่ายงบกันไว้เบิกเหลื่อมปี 81.82% สำหรับหน่วยงานที่สามารถเบิกจ่ายได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ในส่วนของการเบิกจ่ายภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่มี 1,094 โครงการ สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 97% โดยมีปัญหาเรื่องความล่าช้าในการก่อสร้าง และผู้ประกอบการเข้าข่ายทุจริต และการเบิกจ่ายภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาท …
อ่านเพิ่มเติม »