'อินเทล' ขาดทุนใน Q4/65 รายได้ลดฮวบ 32% จ่อขาดทุนอีกใน Q1/66 INTEL ชิปคอมพิวเตอร์ ผลประกอบการ อินเทล อินโฟเควสท์
บริษัทอินเทลซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทขาดทุนต่อหุ้น 16 เซนต์ในไตรมาส 4/2565 ขณะที่รายได้ลดลง 32% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.40 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 ไตรมาส เนื่องจากตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ชะลอตัวลง หลังจากที่เคยเฟื่องฟูในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก
ทั้งนี้ อินเทลขาดทุนสุทธิ 664 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2565 สวนทางกับในไตรมาส 4/2564 ที่มีกำไรสุทธิ 4.62 พันล้านดอลลาร์ อินเทลคาดการณ์ว่า บริษัทจะขาดทุนอีกในไตรมาส 1/2566 โดยจะขาดทุน 15 เซนต์ต่อหุ้น และคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 1.05-1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรีฟินิทีฟ คาดไว้ว่า อินเทลจะมีกำไร 24 เซนต์ต่อหุ้น และมีรายได้ 1.393 หมื่นล้านดอลลาร์
ผลประกอบการที่น่าผิดหวังส่งผลให้ราคาหุ้นอินเทลร่วงลงกว่า 9% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ นายแพท เกลซิงเกอร์ ซีอีโอของอินเทลกล่าวว่า “อินเทลไม่มีการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2566 เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในปัจจุบัน และเราคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อินเทลอาจจะต้องรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย”
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ออสเตรเลียเผยเงินเฟ้อพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 32 ปีใน Q4/65 : อินโฟเควสท์สำนักงานสถิติออสเตรเลียระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของออสเตรเลียปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 32 ปีที่ 7.8% ในไตรมาส 4/2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยปรับตัวขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2533 ทั้งนี้ ตัวเลข CPI ไตรมาส 4/2565 ได้แรงหนุนจากราคาอาหาร เชื้อเพลิงยานยนต์ และการก่อสร้างที่พักอาศัยใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางภายในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 13.3% และ 7.6% ตามลำดับ นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ไตรมาส 4/2565 จะปรับขึ้น 7.5% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของธนาคารกลางออสเตรเลียที่ 8% ขณะที่ราคาสินค้าปรับขึ้น 9.5% ซึ่งต่ำกว่าระดับ 9.6% ในไตรมาส 3/2565 ส่วนต้นทุนบริการปรับขึ้น 5.5% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
GDP ฟิลิปปินส์ใน Q4/65 โต 7.2% ขณะทั้งปี 65 ขยายตัวเกินเป้าแตะ 7.6% : อินโฟเควสท์สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PSA) เปิดเผยในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2565 ขยายตัว 7.2% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจจะขยายตัว 6.5% ขณะที่ในไตรมาส 3/2565 นั้น GDP ของฟิลิปปินส์ขยายตัว 7.6% เมื่อพิจารณาเป็นรายไตรมาส พบว่า GDP ในไตรมาส 4/2565 (ต.ค.-ธ.ค.) ขยายตัวขึ้น 2.4% มากกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจขยายตัว 1.5% แต่น้อยกว่าในไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 2.9% สำหรับตัวเลข GDP ตลอดทั้งปี 2565 นั้นขยายตัว 7.6% สูงกว่ากรอบเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 6.5-7.5% และสูงกว่าการขยายตัวที่ระดับ 5.7% ในปี 2564 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »
BJC ดีดนิวไฮรอบ 2 ปี ...แต่กูรูชี้หุ้นยัง Laggard !เช้านี้ BJC ดีดทำนิวไฮรอบ 2 ปี รับงบ Q4/65 จ่อโตแกร่ง แถมหุ้นยัง Laggard อีกทั้งมีลุ้นดัน BIGC เข้าตลาดหุ้น ขณะที่โบรกฯมองธุรกิจปี 66 ยังสดใส มาตรการรัฐหนุนแทบ...
อ่านเพิ่มเติม »
TEGH พุ่ง 8.33% เก็งปันผลสูง 5% ราคายาง-ธุรกิจปาล์มฟื้นหนุน Q1/66 โต : อินโฟเควสท์TEGH พุ่ง 8.33% หรือเพิ่มขึ้น 0.45 บาท มาที่ 5.85 บาท มูลค่าซื้อขาย 168.54 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. จากราคาเปิด 5.40 บาท ราคาสูงสุด 5.90 บาท ราคาต่ำสุด 5.35 บาท นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ดีดตัวขึ้นมาจากราคายางธรรมชาติในตลาดโลกปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด หลังจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด โดยจีนเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่สุดของโลกเมื่อเปิดประเทศก็ทำให้มีความต้องการใช้ยางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของ TEGH ที่กดดันผลประกอบการไตรมาส 3/65 กลับมาปรับตัวขึ้น ธุรกิจกลับมา Turnaround โดยในไตรมาส 4/65 มีกำไรสุทธิดีกว่าไตรมาส 3/65 จากกำไรค่าเงิน แต่กำไรจากธุรกิจหลักยังชะลอจากไตรมาส 3/65 ส่วนไตรมาส 1/66 จากราคายางที่ปรับตัวขึ้น […]
อ่านเพิ่มเติม »
ไอบีเอ็มเผยรายได้ Q4/65 สูงกว่าคาด วางแผนปลดพนักงาน 3,900 ตำแหน่ง : อินโฟเควสท์บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (ไอบีเอ็ม) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการ 4/2565 สูงกว่าคาด โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจซอฟต์แวร์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นของไอบีเอ็มอยู่ที่ 3.60 ดอลลาร์ สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทีฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ 3.60 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 1.669 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.64 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ไอบีเอ็มวางแผนที่จะปรับลดพนักงาน 3,900 ตำแหน่ง ซึ่งคิดเป็น 1.5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในองค์กร ส่วนรายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์อยู่ที่ 7.29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.12 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ไอบีเอ็มทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งด้านเทคโนโลยีในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ราคาหุ้นไอบีเอ็มพุ่งขึ้น 11% และติดหนึ่งในสองบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐที่มีมูลค่าตลาด 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า โดยบริษัทอีกแห่งหนึ่งคือ วีเอ็มแวร์ (VMware) ซึ่งบอร์ดคอม (Broadcom) ได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อเดือนพ.ค. ในวงเงิน […]
อ่านเพิ่มเติม »