‘ภูมิใจไทย’ หอบนักวิชาการโต้ ‘ทีดีอาร์ไอ’ ตราหน้านโยบายหาเสียงถลุงเงินมากสุด 1.9 ล้านล้านบาท ทำเสียคะแนนนิยม ยันใช้งบรัฐเพียง 2.23 แสนล้านบาท มั่นใจไม่ติดท็อปไฟว์พรรคใช้เงินเยอะ
8 พ.ค. 2566 – เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย มีการแถลงชี้แจงกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ออกมาระบุถึงนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2566 ของพรรคภูมิใจไทยใช้งบประมาณมากที่สุด จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. พรรคภูมิใจไทย และ น.ส.
นอกจากนี้ยังมีนโยบายแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง สร้างเศรษฐกิจไทยมั่งคั่ง ใช้งบจากแหล่งอื่น จำนวน 1 ล้านล้านบาท ใช้วิธีการส่งเสริมการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน หรือ PPP ซึ่งจะได้ผลตอบแทน 1.
นายศุภชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทีดีอาร์ไปดูตัวเลขคลาดเคลื่อน และระบุว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยใช้งบประมาณมากที่สุด เป็นการเข้าใจผิด เพราะไปดูตัวเลขสุดท้าย โดยไม่ได้ไปดูแหล่งที่มาของเงิน ซึ่งหลายโครงการพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ใช้งบประมาณของประเทศ ทั้งที่เราใช้งบประมาณของรัฐเพียง 223,629 ล้านบาท ไม่ใช่ตัวเลขที่ทีดีอาร์ไอบอกไว้ว่าพรรคภูมิใจไทยต้องใช้เงินถึง 1.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
‘TDRI’ ผวานโยบายหาเสียงวงเงินสูง 4 ปีหนี้สาธารณะพุ่ง - เศรษฐกิจขาดเสถียรภาพ'TDRI' แกะรอยนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองเสนอต่อ กกต.พบใช้งบสูง แจงรายละเอียดไม่ครบ ใช้เงินนอกงบประมาณ หยุดเก็บภาษี หวั่นเพิ่มแต่รายจ่ายแต่ไม่เพิ่มส่วนรายได้ให้สมดุล หวั่นเพิ่มหนี้ประเทศ แนะพรรคการเมือง กกต.เอาจริงเอาจังกับการให้ข้อมูลเรื่องการทำนโยบายกับสาธารณะ
อ่านเพิ่มเติม »
'ชูวิทย์' โดดขึ้นรถหาเสียง ปชป.โจมตีกัญชา - ภท. ลั่นเลือก 'อนุทิน' แผ่นดินจะไม่มีวันลุกเป็นไฟเรื่องเล่าเช้านี้ ชูวิทย์ ขึ้นรถหาเสียง ปชป. โจมตีนโยบายกัญชา ด้าน ภท. ลั่นเลือก อนุทิน แผ่นดินจะไม่มีวันลุกเป็นไฟ ภูมิใจไทยพร้อมประนีประนอม ทำเฉพาะเรื่องที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ข่าวช่อง3 ข่าวการเมือง เลือกตั้ง66เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯ ปลื้ม มูลค่าการค้าชายแดน มี.ค.66 ขยายตัว 9.57% รวมกว่า 1 แสนล้านบาทนายกฯปลื้ม มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนมีนาคม 2566 ขยายตัว 9.57% มูลค่าการค้ารวมถึงกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมจัดมหกรรมการค้าการลงทุนชายแดน ใน 3 พื้นที่ สระแก้ว หนองคาย นราธิวาส ระหว่างมิถุนายน – สิงหาคม 2566 หนุนให้ได้ยอดตามเป้าทั้งปี 1.06 ล้านล้านบาท
อ่านเพิ่มเติม »
‘ภูมิใจไทย’จัดหนัก! จ่อฟ้อง‘เศรษฐา’ปราศรัยโจมตี ขู่โทษแรงถึงตัดสิทธิ์-ยุบพรรค'ภูมิใจไทย'จัดหนัก! เตรียมทยอยฟ้อง'เศรษฐา'ปมปราศรัยโจมตี'กัญชา-เลือก ภท.ได้บิ๊กตู่เป็นต่อ' ขู่เตือนโทษแรงถึงตัดสิทธิ์-ยุบพรรค เย้ย'เสี่ยนิด'อาจอยู่ไม่ถึงวันโหวตนายกฯ ชี้จัดตั้งรัฐบาลไม่เป็นตามที่พูด เหตุไร้อำนาจตัดสินใจ เป็นแค่ตัวแสดงแทน แซะตอนจบกลับไป'ขายบ้านจัดสรร'
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: ทีดีอาร์ไอชำแหละนโยบายหาเสียงหมกเม็ด เสี่ยงก่อหนี้ท่วม : อินโฟเควสท์สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เผยนโยบายหาเสียงเกือบทุกพรรคน่าจะทำให้มีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจนขาดดุลงบประมาณอย่างมากในช่วง 4 ปีข้างหน้า นอกจากจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วยังอาจทำให้เศรษฐกิจขาดเสถียรภาพเพราะขยายตัวในระดับที่ร้อนแรงเกินไป ภายใต้สภาพที่ความเสี่ยงของเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ (demand-pull inflation) ยังไม่ผ่อนคลายและอาจเร่งตัวขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้เงินเฟ้อด้านอุปทาน (supply-side inflation) ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จากการที่พลังงานมีราคาเพิ่มสูงขึ้นจะผ่อนคลายไปแล้วก็ตาม หากเงินเฟ้อขยับสูงขึ้นต่อเนื่องจนไม่สามารถควบคุมได้จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ถูกบังคับให้ต้องปรับสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของธุรกิจและซ้ำเติมภาวะหนี้ครัวเรือนซึ่งอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว ซึ่งทำให้กลุ่มเปราะบางที่พรรคการเมืองต้องการช่วยเหลือกลับได้รับผลกระทบในด้านลบ โดยข้อมูลที่พรรคการเมืองรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มี 4 พรรคที่ต้องใช้งบประมาณมากในระดับ 1 ล้านล้านบาท ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย 1.9 ล้านล้านบาท, พรรคเพื่อไทย 1.8 ล้านล้านบาท, พรรคก้าวไกล 1.3 ล้านล้านบาท และพรรคพลังประชารัฐ 1 ล้านล้านบาท แต่ข้อมูลที่พรรคการเมืองนำเสนอต่อประชาชนยังไม่สมบูรณ์ เช่น 1.บางพรรคการเมืองหาเสียงโดยใช้นโยบายที่ไม่ปรากฏอยู่ในรายการนโยบายที่รายงานต่อ กกต.ทั้งที่หลายนโยบายก่อให้เกิดภาระทางการเงินสูงมาก จึงเป็นการให้ข้อมูลต่อประชาชนไม่ครบถ้วนอย่างมีนัยสำคัญ 2.หลายพรรคการเมืองอ้างที่มาแหล่งของเงินว่ามาจากการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ในปัจจุบันใหม่ โดยไม่ให้รายละเอียดว่าจะตัดลดส่วนใดและจะมีโอกาสได้เม็ดเงินจากการตัดลดมาใช้ในการดำเนินนโยบายที่เสนอมากเพียงใด ทำให้ประชาชนไม่เห็นผลกระทบอย่างครบถ้วน กล่าวคือเห็นแต่สิ่งที่จะได้รับแต่ไม่เห็นสิ่งที่ต้องสูญเสียไป เช่นเดียวกันกับบางพรรคการเมืองระบุว่าจะมีรายได้มาจากภาษีเพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ระบุว่าจะมาจากภาษีใด จัดเก็บจากกลุ่มเป้าหมายใด และจะมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับรายได้ตามเป้าหมายเพียงใด 3.ทุกพรรคการเมืองระบุแหล่งที่มาของเงินรายนโยบายโดยไม่ได้แสดงภาพรวม ทำให้ไม่เห็นภาพรวมของความพอเพียงของแหล่งเงิน […]
อ่านเพิ่มเติม »
ชำแหละงบ‘ธปท.’ปี 65 กำไรสุทธิ 1.9 แสนล.-ตีมูลค่าลงทุน‘หลักทรัพย์ ตปท.’ลดกว่า 8 แสนล้าน...การลงทุนพันธบัตรและตราสารหนี้ระยะยาว (ต่างประเทศ) มีมูลค่า 1.85 ล้านล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่มีมูลค่า 2.57 ล้านล้านบาท หรือมูลค่าลดลงประมาณ 7.21 แสนล้านบาท ในขณะที่มูลค่าตั๋วเงินคลังและตราสารหนี้ระยะสั้น มีจำนวน 6.24 แสนล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 2564 ที่มูลค่า 6.33 แสนล้านบาท...
อ่านเพิ่มเติม »