'ฟู่ซิน' พิจารณาขายกิจการแกลนด์ ฟาร์มา หวังเพิ่มเงินสด GlandPharma ขายกิจการ ผลิตยา ฟู่ซิน อินเดีย เซี่ยงไฮ้ แกลนด์ฟาร์มา อินโฟเควสท์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าบริษัทเซี่ยงไฮ้ ฟู่ซิน ฟาร์มาซูติคอล กรุ๊ป ของนายกัว ก่วงชาง มหาเศรษฐีชาวจีน กำลังพิจารณาที่จะขายบริษัทแกลนด์ ฟาร์มา บริษัทผู้ผลิตยาของอินเดีย หลังได้รับความสนใจจากผู้ซื้อที่มีศักยภาพหลายราย
รายงานระบุว่า ฟู่ซิน ฟาร์มา ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มบริษัทฟู่ซิน อินเตอร์เนชันแนล ของจีน ได้ทำงานร่วมกับที่ปรึกษาเพื่อประเมินความสนใจอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหุ้นในแกลนด์ โดยหลายบริษัทกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการศึกษาธุรกิจ ทั้งนี้ หลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวดังกล่าวออกไป ราคาหุ้นของแกลนด์ก็เพิ่มขึ้นมากถึง 5.7% ในตลาดหุ้นอินเดีย ซึ่งนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นระหว่างวันที่มากที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงประมาณ 53% ในปีนี้ ซึ่งทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาด 3.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นฟู่ซิน ฟาร์มา ในตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้นมากถึง 5.4%
บริษัทแกลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองไฮเดอราบาด มีความเชี่ยวชาญด้านยาฉีด เช่น ยาปฏิชีวนะ เนื้องอกวิทยา และการรักษาโรคหัวใจ และมีการดำเนินงานในประมาณ 60 ประเทศ ทั้งนี้ การขายกิจการจะช่วยให้บริษัทฟู่ซิน อินเตอร์เนชันแนล สามารถระดมเงินสดได้ขณะที่พยายามจะเพิ่มงบดุล โดยทางบริษัทกำลังพิจารณาขายสินทรัพย์จำนวนมาก รวมถึงคลับ เมด ผู้ให้บริการรีสอร์ทจากฝรั่งเศส รวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศบางส่วน
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
จุรินทร์ เผยรัฐพร้อมจับมือเอกชนฝ่า 4 ความท้าทาย เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ : อินโฟเควสท์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “Enhancing Trade Facilitation for Thailand Competitiveness : เปิดการค้าไทย มิติใหม่สู่สากล” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 จ.อุบลราชธานี ค่ำวานนี้ (26 พ.ย.65) โดยระบุในตอนหนึ่งว่า ต้องยอมรับความจริงว่าโลกและประเทศไทยยังเผชิญปัญหาและสิ่งท้าทาย อย่างน้อย 4 เรื่อง คือ 1. ปัญหาโควิด 2.ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ 3.ปัญหาการกีดกันทางการค้า และ 4.ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเรื่องแรก การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ พบว่าปัญหาการระบาดของโควิด-19 จะยังต้องอยู่กับเราต่อไป ยากที่จะสรุปได้ชัดเจนว่าสถานการณ์จะจบลงได้เมื่อไร เรื่องที่ 2 ความร้อนแรงของภูมิรัฐศาสตร์ เชื่อว่าจากนี้จะร้อนแรงขึ้น คือการนำการเมืองกับเศรษฐกิจมารวมกัน แบ่งขั้วแบ่งค่าย บังคับให้ประเทศต่างๆ ต้องเลือกข้าง ทำให้เกิดมวยยักษ์สองคู่ คือ 1. รัสเซีย-ยุโรป เป็นผลมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เกิดวิกฤติอาหาร-พลังงาน 2. …
อ่านเพิ่มเติม »
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 100 จุด กังวลเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านล็อกดาวน์ในจีน : อินโฟเควสท์ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ในจีน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน ณ เวลา 07.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 110 จุด หรือ -0.32% แตะที่ 34,246 จุด เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้างในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง การประท้วงทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูงแห่งหนึ่งในเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของซินเจียง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน โดยภาพจากวิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียของจีนนั้น ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากเชื่อว่า ผู้อยู่อาศัยในอาคารไม่สามารถหนีไฟได้ทันเวลา เนื่องจากอาคารถูกล็อกดาวน์บางส่วนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ การประท้วงที่ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นการประท้วงทั่วประเทศในขณะนี้ ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ปธน.สี จิ้นผิงเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ และถือเป็นบททดสอบว่ารัฐบาลจีนจะเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไปหรือไม่ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ชาวจีนรวมตัวประท้วงทั่วประเทศ เรียกร้องยุติล็อกดาวน์-จี้สีจิ้นผิงลาออก : อินโฟเควสท์เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้างในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ชาวจีนในเมืองเซี่ยงไฮ้หลายร้อยคนได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) เพื่อต่อต้านการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 ที่ย่างเข้าสู่วันที่สาม รวมทั้งแสดงความไม่พอใจที่เกิดเหตุการณ์ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในอาคารแห่งหนึ่งที่เมืองอุรุมชี เมืองหลวงของซินเจียง ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ดังกล่าว “เรามารวมตัวกันเพราะเรารักประเทศของเรา แต่เราไม่รักรัฐบาลของเรา เราต้องการออกนอกบ้านอย่างเป็นอิสระ แต่เราไม่สามารถทำได้ นโยบายโควิดเป็นศูนย์เป็นแค่เกม และไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และความเป็นจริง” ผู้ประท้วงรายหนึ่งในเมืองเซี่ยงไฮ้กล่าวกับผู้สื่อข่าว ส่วนการประท้วงในเมืองอุรุมชีนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูงและทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คนเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) โดยภาพจากวิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียของจีนนั้น ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากเชื่อว่า ผู้อยู่อาศัยในอาคารไม่สามารถหนีไฟได้ทันเวลา เนื่องจากอาคารถูกล็อกดาวน์บางส่วนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหตุการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่การต่อต้านอย่างรุนแรงและลุกลามไปยังเมืองต่าง ๆ ของจีนซึ่งรวมถึงกรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง ขณะที่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จำนวนมากได้ออกมาร่วมประท้วงในครั้งนี้ด้วย โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลว่า “ยกเลิกการล็อกดาวน์” สำหรับที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนนั้น รายงานล่าสุดระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงอย่างน้อย 1,000 คนยังคงปักหลักประท้วงในช่วงเช้าวันนี้ (28 …
อ่านเพิ่มเติม »
น้ำมัน WTI ร่วงกว่า 2% วิตกเหตุประท้วงในจีนกระทบดีมานด์พลังงาน : อินโฟเควสท์ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 2% เช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเหตุการณ์ประท้วงที่ลุกลามไปทั่วประเทศจีนในขณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในจีน ณ เวลา 08.43 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ -2.49% แตะที่ 74.38 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้าง โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง นักวิเคราะห์กล่าวว่า การประท้วงดังกล่าวถือเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจจีนซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ลง โดยคณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันเสาร์ (26 พ.ย.) อยู่ที่ 39,791 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งทำนิวไฮเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนั้นยังมีรายงานผู้เสียชีวิต …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ ฮั่งเส็งรูด 3% เซ่นเหตุประท้วงต้านล็อกดาวน์โควิดจีน : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ โดยดัชนีฮั่งเส็งนำตลาดร่วง เนื่องจากถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุชาวจีนลุกฮือประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,220.56 จุด ลดลง 62.47 จุด หรือ -0.22%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 17,000.23 จุด ร่วงลง 573.35 จุด หรือ -3.26% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,055.29 จุด ลดลง 46.4 จุด หรือ -1.49% เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้างในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนลดลง 3% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 6.98 …
อ่านเพิ่มเติม »
ช่างภาพ BBC ถูกตำรวจจีนทุบตีและเตะ ระหว่างทำข่าวประท้วงต้านมาตรการโควิดในเซี่ยงไฮ้ : อินโฟเควสท์สมาคมสื่อมวลชน (PA) รายงานคำกล่าวอ้างของสำนักข่าวบีบีซี (BBC) ว่า ช่างภาพของบีบีซีถูกตำรวจจีน “ทุบตีและเตะ” ระหว่างการทำข่าวประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศจีน PA รายงานว่า นายเอ็ดเวิร์ด ลอว์เรนซ์ ช่างภาพของบีบีซีถูก “ทำร้าย” ขณะทำข่าวการประท้วงในเซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) โดยคลิปทางสื่อโซเชียลเผยภาพนายลอว์เรนซ์ถูกกดลงกับพื้นแล้วล็อกกุญแจมือ โฆษกของบีบีซีเปิดเผยกับ PA ว่า นายลอว์เรนซ์ถูกควบคุมตัวเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะได้รับการปล่อยตัว โดยถูกตำรวจทุบตีและเตะขณะถูกจับกุม ด้านบีบีซีกล่าวว่า ทางสำนักข่าว “กังวลอย่างยิ่ง” ที่นักข่าวถูกทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่ PA รายงานคำกล่าวของเจ้าหน้าที่จีนว่า นายลอว์เรนซ์ถูกจับกุมเนื่องจากเขาอาจติดโควิด-19 จากฝูงชน อย่างไรก็ดี บีบีซีไม่เชื่อถือคำอธิบายดังกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การประท้วงต่อต้านมาตรการโควิดปะทุขึ้นในหลายพื้นที่ในจีนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุไฟไหม้ในอาคารแห่งหนึ่งในเขตซินเจียงเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) โดยวิดีโอที่แชร์กันบนโซเชียลมีเดียของจีนปรากฏภาพอาคารดังกล่าวถูกล็อกดาวน์บางส่วนตามมาตรการสกัดโควิด ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลายคนคาดการณ์ว่าผู้อยู่อาศัยในอาคารไม่สามารถหนีไฟได้ทันเวลา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย จากเหตุดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนในเซี่ยงไฮ้รวมตัวกันตลอดช่วงสุดสัปดาห์เพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิตและเรียกร้องให้รัฐบาลจีนผ่อนปรนข้อจำกัดต่าง ๆ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »