'ฟิทช์' คาดผลประกอบการธุรกิจบริษัทไทยทยอยฟื้นตัวปีนี้ ฟิทช์เรทติ้งส์ เศรษฐกิจไทย อินโฟเควสท์
กลุ่มนักวิเคราะห์ในงานเสวนา “2023 Thailand Corporate Credit Outlook & ASEAN ESG Conference” ที่จัดโดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า ผลประกอบการของธุรกิจในประเทศไทยจะกระเตื้องขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง
นายเลิศชัย กอเจริญรัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดอันดับเครดิตภาคธุรกิจอุตสาหกรรมของฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า อุปสงค์ภายในประเทศที่กระเตื้องขึ้นและการฟื้นตัวของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนผลประกอบการธุรกิจให้กับบริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับความน่าเชื่อถือในภาคอาหารและเครื่องดื่ม โทรคมนาคม การบิน และบริการ
ผลประกอบการธุรกิจของบริษัทในภาคพลังงานและสาธารณูปโภคมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนเชื้อเพลิงราคาแพงในปี 2565 เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงลดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทปิโตรเคมีจะเผชิญความท้าทายด้านการฟื้นตัว โดยถูกกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกทรุดตัวลง ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ยังคงมีราคาแพง และการผลิตอุปทานใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้กำไรจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลง
ขณะเดียวกัน ฟิทช์คาดการณ์ว่า กำไรของกลุ่มบริษัทในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะลดลงจากฐานเปรียบเทียบที่ระดับสูงในปีก่อนหน้า และแนวโน้มที่ราคาน้ำมันและก๊าซจะลดลง แม้กำไรจะยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงก็ตาม โดยกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งขึ้นจากผลพวงของความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนน้อยลงนั้น จะช่วยลดผลกระทบด้านระดับหนี้สินของบริษัทน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ธนาคารโลกคาดศก.อินโดนีเซียโตลดลงแตะ 4.9% ปีนี้ เหตุการฟื้นตัวชะลอลง : อินโฟเควสท์ธนาคารโลกเปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจอินโดนีเซียรายครึ่งปีในช่วงปลายเดือนมิ.ย. โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของอินโดนีเซียจะขยายตัวเพียง 4.9% ในปี 2566 ซึ่งลดลงจากระดับ 5.3% ในปี 2565 เนื่องจากการกลับคืนสู่ภาวะปกติของอุปสงค์ภายในประเทศ หลังพุ่งทะยานขึ้นในช่วงที่เพิ่งผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมาและเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง รายงานระบุว่า เงินเฟ้อของอินโดนีเซียชะลอตัวลงเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ในเบื้องต้น โดยได้แรงหนุนจากการราคาน้ำมันโลกที่ลดลง การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่กระเตื้องขึ้น การที่รัฐบาลอินโดนีเซียเข้ามาแทรกแซงเพื่อบรรเทาปัญหาภาวะคอขวดด้านอุปทานด้านอาหาร และค่าเงินรูเปียห์อินโดนีเซียที่แข็งค่าขึ้น ในขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อลดน้อยลง การเติบโตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอุปสงค์โลกลดลง โดยเงินเฟ้อที่ลดลงจะช่วยให้สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ “ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก อินโดนีเซียมีการพัฒนาขึ้นในภาคส่วนต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตระยะยาว โดยเฉพาะในด้านเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค การจัดการภาคสาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยการพัฒนาเหล่านี้ช่วยลดความยากจนสุดขั้วในประเทศได้” นางซาทู คาห์โคเนน ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำอินโดนีเซียและติมอร์เลสเตระบุ “การที่อินโดนีเซียจะเร่งการเติบโตและบรรลุเป้าหมายในการกลายเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2588 ได้นั้น รัฐบาลอินโดนีเซียจะต้องให้ความสำคัญกับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่ดำเนินการเมื่อไม่นานมานี้เป็นอันดับแรก เช่น กฎหมายสำหรับภาคการเงินและใช้กฎระเบียบการค้าและธุรกิจที่เป็นมิตรต่อตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อลดข้อจำกัดด้านการแข่งขัน” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 35.20 แข็งค่าจากสัปดาห์ก่อน จับตาการเมืองในประเทศ ให้กรอบ 35.15-35.45 : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.20 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดช่วง เย็นวันศุกร์ที่ระดับ 35.52 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าเทียบท้ายตลาด เช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 ก.ค.) ดัชนีราคาการใช้จ่าย เพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินส่วนใหญ่ นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.15 – 35.45 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ส่วนในประเทศต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่อาจเป็นปัจจัยจำกัดการแข็งค่าของค่าเงินบาทได้ THAI BAHT FIX 3M (30 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 2.05346% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 2.24831% ปัจจัยสำคัญ – เงินเยนอยู่ที่ระดับ 144.46 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 144.89 […]
อ่านเพิ่มเติม »
JKN ขายทิ้ง รง.ผลิตเครื่องดื่มสุขภาพ หันลุยส่ง Miss Universe ชิงตลาด Skincare & Spa ในสหรัฐ : อินโฟเควสท์บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการขายหุ้นสามัญในบริษัท เอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ จำกัด (MN ) ซึ่งประกอบธุรกิจโรงงานผลิตจำหน่ายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแบบบรรจุขวด และให้บริการในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ให้แก่บุคคลภายนอก ทั้งจำนวนที่บริษัทถืออยู่ 557,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ MNB มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 55.76 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 3/66 พร้อมทั้งอนุมัติการให้ใช้สิทธิแบรนด์ Miss Universe โดยไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียว (Non-Exclusive Licensing) ให้แก่บริษัท Miss Universe Skincare & Spa ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งใหม่ที่รัฐ Delaware เพื่อต่อยอดธุรกิจเกี่ยวกับสกินแคร์และสปาภายใต้แบรนด์ Miss Universe ซึ่งคาดว่าจะเริ่มประกอบกิจการในเดือน ต.ค.66 มูลค่าค่าตอบแทนการให้ใช้สิทธิทั้งสิ้น 11.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 402.50 ล้านบาท โดย […]
อ่านเพิ่มเติม »
โตเกียวส่งรถพยาบาลลงจุดเกิดเหตุฉุกเฉินเพิ่มทุบสถิติในปี 2566 : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักดับเพลิงประจำกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่า จำนวนการส่งรถพยาบาลลงพื้นที่จุดเกิดเหตุฉุกเฉินในโตเกียวกำลังเพิ่มขึ้นในอัตรารวดเร็วกว่าปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่มีการส่งรถพยาบาลรายปีสูงเป็นประวัติการณ์ จำนวนการจัดส่งรถพยาบาลในโตเกียวตั้งแต่ต้นปีนี้ อยู่ที่ 417,001 ครั้ง เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ที่แล้ว (25 มิ.ย.) เพิ่มขึ้นกว่า 20,100 ครั้ง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นในอัตรานี้ ยอดรวมตลอดปี 2566 อาจสูงกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 ที่ 872,075 ครั้ง ระยะเวลาเฉลี่ยที่รถพยาบาลไปถึงจุดเกิดเหตุฉุกเฉิน อยู่ที่ 9 นาที 25 วินาที ในเดือนม.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา โดยแม้จำนวนพนักงานรถพยาบาลจะเพิ่มขึ้น แต่ระยะเวลาการไปถึงจุดเกิดเหตุกลับไม่ได้สั้นลงอย่างมีนัยสำคัญจากค่าเฉลี่ยของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 9 นาที 43 วินาที โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'เทสลา' ส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้น 83% ใน Q2 สูงเป็นประวัติการณ์ : อินโฟเควสท์บริษัทเทสลา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของนายอีลอน มัสก์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ส่งมอบรถยนต์จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2 และมากกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยได้อานิสงส์จากการปรับลดราคาและการลดหย่อนภาษีของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งนี้ เทสลาได้ส่งมอบรถยนต์จำนวน 466,140 คันในไตรมาส 2/2566 (ช่วงเดือนเม.ย. – มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และเพิ่มขึ้น 83% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดการผลิตทั้งหมดในไตรมาส 2 อยู่ที่ 479,700 คัน นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเรฟินิทีฟ 9 คนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เทสลาจะส่งมอบรถยนต์จำนวน 445,000 คัน โดยการคาดการณ์ต่ำสุดคือ 439,875 คัน และสูงสุดอยู่ที่ 450,000 คัน เทสลา ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกนั้น ผลิตรถยนต์ได้มากกว่าจำนวนที่ส่งมอบ 13,650 คันในไตรมาส 2 โดยช่องว่างดังกล่าวลดลงจากระดับ 17,933 คันในไตรมาส 1 เทสลาคาดการณ์ว่าจะสามารถทำยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอเมริกาเหนือ แม้ว่าจะมีการแข่งขันอย่างดุเดือดกับคู่แข่งแบรนด์รถยนต์ของจีนอย่าง บีวายดี (BYD) […]
อ่านเพิ่มเติม »
TOPICSTODAY: ลุ้น 2 พรรคจบดีลปธ.สภาฯ ก่อนเปิดประชุมครั้งแรก/ธปท.แจงมาตรการช่วยเหลือหนี้ครัวเรือน : อินโฟเควสท์นับถอยหลังเหลือเวลาอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เพื่อเลือกประธานสภาฯ คนที่ 32 พร้อมด้วยรองประธานสภาฯ อีกสองคน ขณะที่การเจรจาต่อรองตำแหน่งในฝ่ายนิติบัญญัติระหว่างพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กับพรรคเพื่อไทย (พท.) ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ตามที่แกนนำทั้งสองพรรคออกมายืนยันก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้วว่าการเจรจาไม่น่าจะมีปัญหา และน่าจะมีข้อสรุปที่ดีก็ตาม โดยเช้านี้ต้องจับตาการประชุมของกรรมการบริหาร และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาว่า พรรเคพื่อไทยจะเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อเป็นทางออกและได้ข้อยุติ ส่วนช่วงเย็นวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดประชุมรัฐสภา ณ ห้องประชุมอาคารรัฐสภา – นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2566 ผ่านระบบประชุมทางไกลจากห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงาน Media briefing update สถานการณ์หนี้ครัวเรือนและความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือ โดยมี น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ […]
อ่านเพิ่มเติม »