วันที่ 30 ส.ค.2566 เวลา 09.15 น.ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญทั้ง 35 คณะว่า ตนได้รับมอบหมายจากประธานสภาฯให้จัดการให้มีคณะกรรมาธิการให้เร็วที่สุด และได้ทำหนังสือนัดให้แต่ละพรรคส่งตัวแทนมาพรรคละ 2 คนให้มาประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.)เวลา 13.30 น.
เพื่อแจ้งให้ทราบว่าทุกพรรคจะได้สัดส่วนนของคณะกรรมาธิการกี่คณะที่จะได้เป็นประธาน จากนั้นก็ให้แต่ละพรรคกลับไปปรึกษาหารือในพรรคของตัวเอง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละพรรคว่าเชี่ยวชาญหรือชอบกรรมาธิการ 35 คณะมีอะไรบ้าง จากนั้นวันที่ 7 ก.ย.จะให้ทุกพรรคมาประชุม โดยตนเป็นประธาน เพื่อหาวิธีการเลือกประธานของแต่ละคณะว่าพรรคไหนจะได้คณะกรรมาธิการคณะไหน โดยวิธีการจับฉลาก หรือตกลงกัน ถ้าตกลงกันได้ก็ตกลงกัน ให้เป็นความพอใจของทุกพรรค เมื่อได้ประธานของแต่ละพรรคแล้ว วันที่ 12 ก.ย.
เมื่อถามว่าตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการแต่ละพรรคจะได้กี่คณะ นายพิเชษฐ์ กล่าวยกตัวอย่างว่า พรรคก้าวไกลตอนนี้มี 150 คน อยู่ระหว่างการเลือกตั้งถ้าได้ 151 คน สัดส่วนก็จะได้ 11 คณะ แต่ถ้ามี 150 คนก็จะได้ 10 คณะ ไม่รอการเลือกตั้งดำเนินการไปก่อน แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคก้าวไกลชนะ สัดส่วนอาจจะเปลี่ยน จากนั้นก็ให้วิปของแต่ละพรรคมาพูดคุยกันได้ ว่าจะถอยกรรมาธิการอย่างไร ขึ้นอยู่กับวิปจะพิจารณา เพราะในงบประมาณปีนี้มีโอกาสทำงานในกรรมาธิการเพียง 15 วัน ก็อาจจะไปตั้งกรรมาธิการและกำหนดว่าขอบข่ายงานปีนี้...
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลระบุว่าไม่อยากให้คนนั่งประธานคณะกรรมาธิการตรงกับเจ้ากระทรวงของรัฐบาล นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า แล้วแต่ที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ และในวันที่ 7 ก.ย.ว่าจะตกลงกันอย่างไร ซึ่งจะให้พรรคตกลงกันเอง เพราะมีเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่จะไปคุยกัน และมาเลือกกันในวันที่ 7 ก.ย.