ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาประณามอังกฤษอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) หลังอังกฤษมีแผนจะส่งกระสุนรถถังที่บรรจุยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ (depleted uranium) ให้แก่ยูเครน โดยระบุว่า รัสเซียอาจจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยมาตรการที่ทัดเทียมกัน นางแอนนาเบล โกลดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมระบุในแถลงการณ์ ณ กรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์ (20 มี.ค.) ว่า กระสุนบางนัดของรถถังต่อสู้ชาเลนเจอร์ 2 (Challenger 2) ที่อังกฤษส่งให้กับยูเครน มีกระสุนเจาะเกราะซึ่งบรรจุยูเรเนียมด้อยสมรรถนะเอาไว้ด้วย ปธน.ปูตินกล่าวหลังการประชุมกับปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่า “หากสิ่งที่อังกฤษกล่าวมาเป็นความจริง รัสเซียจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยมาตรการที่ทัดเทียมกัน เนื่องจากชาติตะวันตกเริ่มใช้อาวุธที่มีส่วนประกอบของนิวเคลียร์แล้ว” อย่างไรก็ตาม ปธน.ปูตินไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว ขณะเดียวกัน บรรดานักการเมืองและนักวิจารณ์ชาวรัสเซียเริ่มออกมาแสดงความเห็นในเชิงพร้อมรบอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่การรุกรานยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยระบุว่า รัสเซียจะเตรียมประจำการอาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น นางโกลดีชี้ว่า ยูเรเนียมด้อยสมรรถนะถูกใช้เป็นอาวุธเนื่องจากความสามารถในการทะลวงรถถังและเกราะได้อย่างง่ายดาย อันเป็นผลมาจากความหนาแน่นและคุณสมบัติทางกายภาพต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม แร่ธาตุดังกล่าวส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะที่บริเวณจุดปะทะ เนื่องจากฝุ่นรังสีสามารถเข้าสู่ปอดและอวัยวะสำคัญของมนุษย์ได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาประณามอังกฤษอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ หลังอังกฤษมีแผนจะส่งกระสุนรถถังที่บรรจุยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ ให้แก่ยูเครน โดยระบุว่า รัสเซียอาจจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยมาตรการที่ทัดเทียมกัน
นางแอนนาเบล โกลดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมระบุในแถลงการณ์ ณ กรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์ ว่า กระสุนบางนัดของรถถังต่อสู้ชาเลนเจอร์ 2 ที่อังกฤษส่งให้กับยูเครน มีกระสุนเจาะเกราะซึ่งบรรจุยูเรเนียมด้อยสมรรถนะเอาไว้ด้วย ปธน.ปูตินกล่าวหลังการประชุมกับปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่า “หากสิ่งที่อังกฤษกล่าวมาเป็นความจริง รัสเซียจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยมาตรการที่ทัดเทียมกัน เนื่องจากชาติตะวันตกเริ่มใช้อาวุธที่มีส่วนประกอบของนิวเคลียร์แล้ว” อย่างไรก็ตาม ปธน.ปูตินไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว
ขณะเดียวกัน บรรดานักการเมืองและนักวิจารณ์ชาวรัสเซียเริ่มออกมาแสดงความเห็นในเชิงพร้อมรบอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่การรุกรานยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยระบุว่า รัสเซียจะเตรียมประจำการอาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'สี จิ้นผิง' เดินทางถึงมอสโกแล้ว ทั่วโลกจับตาซัมมิต 'ปูติน' : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้เดินทางถึงกรุงมอสโกในวันนี้แล้วในการเดินทางเยือนเป็นเวลา 3 วันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย และเพื่อรับบทบาทในการเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในยูเครน ทั้งนี้ ปธน.สีมีกำหนดพบปะอย่างไม่เป็นทางการกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันนี้ โดยผู้นำทั้งสองจะร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ก่อนที่จะจัดการเจรจาอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและรัสเซียจนถึงปี 2573 การเดินทางดังกล่าวเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียเป็นครั้งแรกของปธน.สี นับตั้งแต่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 และเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปธน.สีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ 3 คาดว่าปธน.สีจะนำข้อเสนอ 12 ข้อของจีนในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน เข้าหารือกับปธน.ปูตินในการพบปะกันครั้งนี้ ทั่วโลกต่างฝากความหวังไว้ที่ปธน.สี ซึ่งจะมารับบทบาทปลดชนวนสงครามยูเครน โดยที่ผ่านมาผู้นำโลกหลายคนไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส หรือประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ต่างก็ได้เคยเจรจากับปธน.ปูติน แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เกิดสันติภาพในยูเครน นายสตีเฟน โรช นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ปธน.สีเป็นบุคคลเดียวในโลกที่จะสามารถโน้มน้าวปธน.ปูตินในการยุติสงครามในยูเครน “ผมคิดว่ามีบุคคลเดียวในโลกที่จะสามารถมีอิทธิพลต่อปธน.ปูติน นั่นก็คือประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ซึ่งเขาควรจะฉวยโอกาสนี้ สิ่งดีที่สุดที่จีนสามารถทำได้ในขณะนี้คือการเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียและยูเครน” นายโรชกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC อย่างไรก็ดี ชาติตะวันตกยังคงแสดงความคลางแคลงใจต่อบทบาทของจีนในการเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยวิกฤตการณ์ในยูเครน โดยมองว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ปูติน-สี' หารือไม่เป็นทางการร่วม 4 ชั่วโมงครึ่งวานนี้ เตรียมเจรจาอีกวันนี้ : อินโฟเควสท์สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า การเจรจาอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) สิ้นสุดลงโดยใช้เวลานานเกือบ 4 ชั่วโมง 30 นาที และผู้นำทั้งสองจะกลับมาเจรจาอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบในวันนี้ (21 มี.ค.) นายสีออกจากทำเนียบประธานาธิบดีในเครมลิน โดยมีนายปูตินเดินไปส่งยังรถประจำตำแหน่ง และผู้นำทั้งสองยังพูดคุยกันเป็นเวลาสั้น ๆ และจับมืออำลากัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายปูตินและนายสี ผู้ซึ่งเป็น “สหายใกล้ชิด” มีกำหนดที่จะเจรจากันมากขึ้นในวันนี้ หลังจากร่วมรับประทานอาหารค่ำที่ทำเนียบเครมลิน โดยประธานาธิบดีรัสเซียผู้ถูกโดดเดี่ยวนั้นได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นพันธมิตรกับผู้ทรงอิทธิพลที่สุด ขณะที่เผชิญหน้ากับกลุ่มตะวันตกที่ต่อต้านการทำสงครามในยูเครน รายงานระบุว่า นายปูตินให้การต้อนรับนายสีในกำหนดการเยือนรัสเซีย 3 วัน ซึ่งเน้นย้ำถึงการสนับสนุนของจีนต่อรัสเซีย โดยนายปูตินพร้อมที่จะหารือเรื่องแนวคิดริเริ่มของจีนเพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครนอีกด้วย นายปูตินกล่าวกับนายสีในการพูดคุยแบบตัวต่อตัวที่ทำเนียบประธานาธิบดีซึ่งออกอากาศทางโทรทัศน์ระบุว่า รัสเซียได้ศึกษาข้อเสนอของจีนอย่างรอบคอบเพื่อแก้ไขวิกฤตเร่งด่วนในยูเครน และจะหารือเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแนวคิดริเริ่มของนายสีซึ่งรัสเซียให้ความเคารพ ขณะที่นายสีกล่าวว่า เขามั่นใจว่านายปูตินจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ซึ่งทำให้ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากนายปูตินยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงเลือกตั้งสมัยที่ 5 ในปีหน้าหรือไม่ ด้านสหรัฐประณามการเดินทางเยือนรัสเซียของนายสี โดยกล่าวว่าเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับนายปูตินในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม และชี้ว่าจีนให้ความคุ้มครองทางการทูตแก่รัสเซียเพื่อให้ก่ออาชญากรรมเพิ่มเติม โดย […]
อ่านเพิ่มเติม »
In Focus: 'สี จิ้นผิง-ปูติน' พิสูจน์มิตรภาพ ฝ่ามรสุมการเมือง : อินโฟเควสท์การพบกันระหว่างสองผู้นำโลกยุคใหม่อย่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. ณ กรุงมอสโก ถือเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียครั้งแรกนับตั้งแต่ปธน.สี เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ 3 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับปธน.ปูติน ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม จึงถือว่าเป็นการพบกันที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง มิตรภาพไร้ขีดจำกัด เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2565 ผู้นำจีนได้ให้การต้อนรับผู้นำรัสเซียเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่ง ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันโดยมีใจความสำคัญว่า มิตรภาพของทั้งสองประเทศนั้น “ไร้ขีดจำกัด” ทว่าจุดยืนดังกล่าวถูกท้าทายอย่างรวดเร็วเมื่ออีก 20 วันต่อมา รัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ส่งผลให้จีนตกที่นั่งลำบากเพราะไม่อาจหันหลังให้มิตรประเทศอย่างรัสเซีย แต่ก็ต้องไม่สนับสนุนออกนอกหน้าเกินไปจนงานเข้าประเทศตัวเอง ด้วยเหตุนี้ แม้จีนไม่ได้จัดหาอาวุธให้กับรัสเซียในการทำสงครามยูเครน แต่จีนก็ให้ความช่วยเหลือแก่รัสเซียในรูปแบบของการช่วยพยุงเศรษฐกิจในขณะที่รัสเซียถูกสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรทั้งหลายคว่ำบาตรอย่างหนัก โดยข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียพุ่งขึ้นถึง 34.3% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.9 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565 ขณะที่นายจาง ฮั่นฮุย […]
อ่านเพิ่มเติม »
'สีจิ้นผิง-ปูติน'ลงนามร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-รัสเซียก่อนปี 2030สีจิ้นผิง-ปูติน ลงนามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยแผนพัฒนาในด้านสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-รัสเซียก่อนปี 2030... อ่านข่าว สีจิ้นผิง ปูติน จีน รัสเซีย แนวหน้าออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม »
ปูตินชี้ แผนของจีนหยุดสงครามได้ แต่ยูเครนและตะวันตกยังไม่พร้อมในสิ่งนี้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับผู้นำจีน ระบุว่า แผนสันติภาพของจีน ที่จะใช้ในยูเครน เป็นพื้นฐานที่จะหยุดสงครามได้ แต่แผนการนี้จะเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อ ยูเครนและตะวันตกพร้อมเท่านั้น ซึ่งเขายังไม่เห็นความพร้อมใดใดเกิดขึ้น
อ่านเพิ่มเติม »
'ปูติน' หารือ 'สิ จิ้นผิง' เห็นชอบแผนการสันติภาพในยูเครน'ปูติน' หารือ 'สี จิ้น ผิง' วันที่ 2 เห็นชอบแผนการสันติภาพ และพร้อมนำไปใช้เป็นฉบับร่างดำเนินการหากยูเครน และชาติตะวันตกมีความพร้อม ขณะเดียวกันเร่งขยายความร่วมมือเศรษฐกิจร่วมกัน
อ่านเพิ่มเติม »