จากกรณีที่นายสาณิช ดอกไม้ เกิดความเครียดใช้อาวุธมีดปาดคอฆ่าภรรยา และบุตร 2 คน อายุ 13 ปี และ 11 ปี เสียชีวิตรวม 3 ศพ จากนั้นได้ปาดคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายตาม เหตุเกิดในเขตพื้นที่ สภ.บางแก้ว ภ.จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุเกิดจากความเครียดจากปัญหาหนี้สินค้ำประกันการซื้อรถให้เพื่อนบ้านเป็นเงิน 8 แสนบาท จนถูกฟ้องและกรมบังคับคดีจะยึดบ้าน นอกจากนี้ภรรยายังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นแอพเงินกู้และสูญเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 4 ก.ย.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.
ได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานขอความร่วมมือกับ พล.ต.อ.ซอ เทศ ผบ.ตร.กัมพูชา ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่อยู่ในประเทศกัมพูชา จึงได้มีการวางแผนร่วมกันระหว่างกำลังตำรวจของทั้งสองประเทศเพื่อปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 9 ก.ย.66 ที่ด่านพรมแดนคลองลึก จ. สระแก้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ร่วมกับ พล.ต.ท.เสียง เทีย ริต รองผู้อำนวยการ กองบัญชาการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติกัมพูชา พลตำรวจจัตวา ดารา สุเภีย รองผู้อำนวยการ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติกัมพูชา พ.ต.อ.ฮุง วี แรก ผู้บังคับการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติกัมพูชา และ พ.ต.ท.ชิ โคโบตร้า เลขาธิการผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ร่วมกันติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีอยู่ในกัมพูชาได้อีก จำนวน 4 คน คือ1.
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” จากการจับกุมผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ, บัตร ATM, สมุดบัญชีธนาคาร และอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 100 รายการ และเงินสดจำนวนกว่า 240,000 บาท
โดยคดีนี้ได้ออกหมายผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 30 หมายจับ สามารถจับกุมได้ 16 ราย แบ่งหน้าที่กันดังนี้ กลุ่มเจ้าของบัญชีม้ารับโอนเงิน จำนวน 16 ราย จับกุมได้ 9 ราย หลบหนี 7 ราย กลุ่มผู้ถอนเงิน จำนวน 4 ราย จับกุมได้ 2 ราย หลบหนี 2 ราย กลุ่มจัดหาบัญชีม้า จำนวน 2 ราย จับกุมได้ 2 ราย กลุ่มพนักงานในคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 6 ราย หลบหนี 6 ราย กลุ่มชาวจีน ผู้ควบคุมพนักงานในคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 2 ราย หลบหนี 2 ราย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีคดีของ สภ.บางแก้ว ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากหนี้สินหลายอย่าง รวมทั้งการถูกหลอกลวงจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ซึ่งหลอกโอนเงินผ่านแอพเงินกู้ หลังจากที่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งขบวนการที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวทั้งหมด ตั้งแต่บัญชีม้าจนถึงหัวหน้าขบวนการชาวจีนมากถึง 30 ราย โดยจับกุมแล้ว 12 ราย และสืบทราบว่ากลุ่มเหล่านี้ตั้งออฟฟิซอยู่ที่ปอยเปต กัมพูชา จึงได้ประสานงานกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'บิ๊กโจ๊ก' ผนึกกำลังตำรวจกัมพูชา ทลายจุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบเพิ่ม 4 คน'บิ๊กโจ๊ก'ปฏิบัติการร่วมตำรวจกัมพูชา ทลายจุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบเพิ่ม 4 คน คดีฆ่าปาดคอยกครัว 3 ศพ
อ่านเพิ่มเติม »
บิ๊กโจ๊ก เผย ตร.ร่วมงานเลี้ยงให้การไม่ตรงกัน มั่นใจหลักฐาน'กำนันนก'ดิ้นไม่หลุดบิ๊กโจ๊ก ย้ำวิสามัญหน่อง ท่าผาเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย เผย ตำรวจร่วมงานเลี้ยง ให้การไม่ตรงกัน มั่นใจ หลักฐาน“กำนันนก”ดิ้นไม่หลุด
อ่านเพิ่มเติม »
(คลิป) 'บิ๊กโจ๊ก' ยัน 'กำนันนก'สั่งยิง 'สารวัตรทางหลวง'(คลิป) 'บิ๊กโจ๊ก' เผยมีหลักฐานมัดตัวคนสั่งยิง 'สารวัตรแบงค์' ว่าเป็นใคร รวมถึงตำรวจที่ให้การช่วยเหลือ 'หน่อง' หลบหนี
อ่านเพิ่มเติม »
เปิดชื่อ 21 ตำรวจ ร่วมงานเลี้ยง 'กำนันนก'เปิดชื่อ '21 ตำรวจ' อยู่ในงานเลี้ยง 'กำนันนก' คืนวันเกิดเหตุยิง 'สารวัตรแบงค์' เสียชีวิต ด้าน 'บิ๊กโจ๊ก' ระบุต้องสอบสวนทุกนาย ปมปล่อยให้มีการทำลายหลักฐาน ถอดกล้อง และผู้ก่อเหตุหลบหนี
อ่านเพิ่มเติม »