'กูเกิล' ปรับนโยบายทำงานแบบผสมผสาน จ่อลงดาบพนง.ไม่ยอมเข้าออฟฟิศ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

'กูเกิล' ปรับนโยบายทำงานแบบผสมผสาน จ่อลงดาบพนง.ไม่ยอมเข้าออฟฟิศ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 54 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 25%
  • Publisher: 68%

'กูเกิล' ปรับนโยบายทำงานแบบผสมผสาน จ่อลงดาบพนง.ไม่ยอมเข้าออฟฟิศ Google กูเกิล พนักงาน อินโฟเควสท์

บริษัทได้ปรับปรุงนโยบายการทำงานแบบผสมผสาน หรือการทำงานที่สำนักงานสลับกับการทำงานที่บ้านหรือที่อื่น ๆ เมื่อวันพุธ โดยรวมถึงการติดตามข้อมูลการใช้บัตรพนักงานในสำนักงาน การเรียกพบพนักงานที่ไม่ได้เข้าสำนักงานตามกะงานที่กำหนด และตรวจสอบบันทึกการเข้างานและประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่จะต้องเข้าทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์

นางฟีโอนา ซิคโคนี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของกูเกิลส่งอีเมลถึงพนักงานในวันพุธ เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญในการเข้ามาเข้าทำงานในสำนักงาน โดยระบุว่า “ไม่มีอะไรทดแทนการเข้ามาเจอหน้ากันแบบตัวต่อตัวได้” “แน่นอนว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานร่วมกันในห้องเดียวนั้นสร้างความแตกต่างในแง่บวก ผลิตภัณฑ์จำนวนไม่น้อยที่เราเปิดตัวภายในงานประชุม I/O และงาน Google Marketing Live เมื่อเดือนที่แล้วนั้น ได้ผ่านการคิด การพัฒนา และการสร้างโดยทีมงานที่ทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิด”

อีเมลของนางซิคโคนียังระบุด้วยว่า บริษัทจะเริ่มรวมการทำงานที่สำนักงาน 3 วันต่อสัปดาห์ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนประสิทธิภาพการทำงาน และทีมงานจะเริ่มส่งการแจ้งเตือนไปยังพนักงานที่ไม่ได้เข้ามายังสำนักงานอย่างสม่ำเสมอ นางซิคโคนียังขอให้พนักงานที่ทำงานจากที่อื่น ๆ ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้วนั้น ให้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่ด้วย “สำหรับพนักงานที่อาศัยอยู่ห่างไกล และพนักงานที่อาศัยอยู่ใกล้กับสำนักงานของกูเกิลนั้น เราหวังว่าคุณจะพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ตารางการทำงานแบบผสมผสาน โดยสำนักงานของเราจะเป็นสถานที่ที่คุณเชื่อมโยงกับชุมชนของกูเกิลได้มากที่สุด”

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

TPIPP ฟันธงปีนี้พลิกโตแม้ไม่มี COD เพิ่ม รับอานิสงส์ค่า Ft-ดีมานด์ใช้ไฟโรงปูน ศึกษาพลังลม-โซลาร์ : อินโฟเควสท์TPIPP ฟันธงปีนี้พลิกโตแม้ไม่มี COD เพิ่ม รับอานิสงส์ค่า Ft-ดีมานด์ใช้ไฟโรงปูน ศึกษาพลังลม-โซลาร์ : อินโฟเควสท์นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และยังได้ผลดีจากค่า Ft ที่สูงขึ้น ซึ่งจะชดเชยกับ Adder ที่ลดลง รวมถึงตั้งเป้าอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ของโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 95% จากเดิมอยู่ที่ 80% หลังจากปิดซ่อมบำรุงในปีที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงงานปูนซีเมนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 64-65 ราว 10-15% จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และความต้องการใช้ไฟฟ้าจาก EV ที่เข้ามาปรับปรุงในระบบอีกประมาณ 25 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงบอยเลอร์ที่ใช้ถ่านหินมาเป็น RDF ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตไฟฟ้าและขายให้โรงงานปูนซีเมนซ์มากขึ้น คาดว่าจะมีปริมาณการขายไฟให้กับโรงงานปูนฯ เติบโตได้ประมาณ 20% สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 แม้ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.66 ค่า Ft จะปรับตัวลง แต่ก็ยังสามารถชดเชย Adder ที่ลดลงได้หมด และคาดว่าทั้งปี […]
อ่านเพิ่มเติม »

กัมพูชาจ่อหลุดพ้นสถานะประเทศพัฒนาน้อยสุด ภายในปี 70 : อินโฟเควสท์กัมพูชาจ่อหลุดพ้นสถานะประเทศพัฒนาน้อยสุด ภายในปี 70 : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่ากัมพูชามีแนวโน้มหลุดพ้นจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุดภายในปี 2570 และจะบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงภายในปี 2573 สมเด็จฮุนเซน ซึ่งเข้าร่วมพิธีสำเร็จการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยภูมินทร์นิติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์แห่งกัมพูชาเกือบ 6,000 คน กล่าวว่าการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพทางการเมืองเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ นอกจากนั้น เศรษฐกิจของกัมพูชาฟื้นตัวดีในยุคหลังการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) มีแนวโน้มเติบโตอยู่ที่ 5.6% ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 5.2% ของปี 2565 ด้านเพ็ญ โสวิชิต ปลัดและโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา กล่าวว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) และข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-สาธารณรัฐเกาหลี (CKFTA) จะช่วยกัมพูชาหลุดพ้นจากสถานะและบรรลุเป้าหมายข้างต้นในปี 2573 ตลอดจนกลายเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2593 เพ็ญกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่าความตกลงฯ พร้อมด้วยข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีอื่นๆ ไม่เพียงส่งเสริมการเติบโตทางการค้าที่ยั่งยืนของกัมพูชา แต่ยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคประกอบด้วย 15 ประเทศเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว […]
อ่านเพิ่มเติม »

อเบอร์ดีน ออกกองทุน ABCA ลุยหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่เติบโตอย่างยั่งยืนกับ 5 ธีมหลัก : อินโฟเควสท์อเบอร์ดีน ออกกองทุน ABCA ลุยหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่เติบโตอย่างยั่งยืนกับ 5 ธีมหลัก : อินโฟเควสท์บลจ.อเบอร์ดีน เปิดตัว “กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า A Share ซัสเทนเนเบิล เอคควิตี้ ฟันด์ (ABCA)” เน้นลงทุนอย่างยั่งยืนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ชูจุดเด่นที่แตกต่าง กองทุนหลักเฟ้นหุ้นคุณภาพ วิเคราะห์เชิงลึก ผนึก ESG ในกระบวนการลงทุน หนุนผลงานติดชาร์ตแถวหน้า โฟกัสลงทุน 5 ธีมหลัก เน้นการบริโภคในประเทศ เทคโนโลยี พลังงานสะอาด การบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง และเฮลท์แคร์ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตเศรษฐกิจจีน และนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ เปิดขาย IPO ระหว่าง 6-16 มิ.ย.2566 นายโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นจีนถือเป็นอีกตลาดที่นักลงทุนให้ความสนใจ ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในฝั่งตลาดพัฒนาแล้ว อย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป ยิ่งทำให้ตลาดจีนโดดเด่น ด้วยเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตได้ดี ในขณะที่ภาครัฐเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย อีกทั้งนโยบายการคลังก็ยังเอื้อต่อการขับเคลื่อนการเติบโต และช่วยให้การฟื้นตัวของจีนยั่งยืนมากขึ้น บลจ.อเบอร์ดีน มองว่าตลาดหุ้น A-Shares น่าสนใจจากปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน โดยเฉพาะภาคการบริโภคในประเทศจีนเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ การบริโภคจะเป็นแรงส่งหลักหนุนเศรษฐกิจจีนให้เติบโต และที่สำคัญ Valuation […]
อ่านเพิ่มเติม »

ยูเครนเผยสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ภายใต้การควบคุม หลังเขื่อนระเบิด : อินโฟเควสท์ยูเครนเผยสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ภายใต้การควบคุม หลังเขื่อนระเบิด : อินโฟเควสท์Energoatom ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านพลังงานปรมาณูยูเครนระบุในวันนี้ (6 มิ.ย.) ว่า เหตุระเบิดทำลายเขื่อนคาคอฟกา (Kakhovka) บนแม่น้ำดนิโปร (Dnipro) ทางภาคใต้ของประเทศยูเครน สร้างความเสี่ยงให้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ต้องพึ่งพาน้ำเพื่อหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่สถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ทั้งนี้ Energoatom ระบุว่า รัสเซียได้ก่อเหตุระเบิดเขื่อนคาคอฟกา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำคาคอฟกาลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียของยูเครนที่ขณะนี้รัสเซียเป็นผู้ยึดครองเอาไว้ โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป “ขณะนี้สถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียอยู่ภายใต้การควบคุมและเจ้าหน้าที่ยูเครนกำลังจับตาสัญญาณบ่งชี้ทั้งหมด” Energoatom ระบุ ขณะที่ สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า กำลังจับตาสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียอย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ยังไม่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากยูเครนและรัสเซียว่า เหตุระเบิดเขื่อนคาคอฟกาของยูเครนในเขตที่รัสเซียยึดครองเอาไว้ได้ในวันนี้ได้ก่อให้เกิดน้ำท่วมรอบพื้นที่เขตสงครามในปัจจุบัน โดยขณะนี้ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างก็กล่าวโทษอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ก่อเหตุถล่มเขื่อนคาคอฟกาในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายมุสตาฟา เนย์เยม หัวหน้าสำนักงานบูรณะซ่อมแซมของยูเครนระบุว่า “การทำลายสถานีไฟฟ้าพลังน้ำคาคอฟกาจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ร้ายแรงต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ซึ่งใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำคาคอฟกาในการหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

นักวิจัยคาดจีนลดดอกเบี้ย - RRR เพิ่มเติมในครึ่งหลังปี 66 : อินโฟเควสท์นักวิจัยคาดจีนลดดอกเบี้ย - RRR เพิ่มเติมในครึ่งหลังปี 66 : อินโฟเควสท์วารสารหลักทรัพย์จีน (China Securities Journal) รายงานโดยอ้างที่ปรึกษาด้านนโยบายและนักเศรษฐศาสตร์ในวันนี้ (6 มิ.ย.) ว่า จีนมีแนวโน้มที่จะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาส 1/2566 แต่เริ่มชะลอตัวเมื่อช่วงต้นไตรมาสที่ 2/2566 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับอัตราการว่างงานที่สูง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น นายจาง หมิง นักวิจัยจากสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน (CASS) ซึ่งเป็นคลังสมองชั้นนำของรัฐบาลจีน กล่าวว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำของจีนนั้นจะช่วยให้จีนมีโอกาสในการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ นายจางกล่าวเสริมว่า จีนสามารถพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมและปรับลด RRR เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืม นายหลี่ เฉา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเจ้อซาง ซีเคียวริตีส์ (Zheshang Securities) บริษัทหลักทรัพย์ของจีน คาดว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการปรับลด RRR ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเขาคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเข้าสู่วงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 4/2566 ซึ่งทำให้จีนมีโอกาสดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนปรับลด RRR เป็นครั้งแรกในปี 2566 เมื่อเดือนมี.ค. แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงไว้ตามเดิมในปีนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »

คาดเศรษฐกิจซาอุฯหดตัวปีนี้ หลังหั่นการผลิตน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรล : อินโฟเควสท์คาดเศรษฐกิจซาอุฯหดตัวปีนี้ หลังหั่นการผลิตน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรล : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์จากบริษัทแคปิตอล อิโคโนมิกส์ ( Capital Economics ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจซาอุดีอาระเบียมีแนวโน้มหดตัวลง 0.5% ในปีนี้ หลังจากซาอุดีอาระเบียตัดสินปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) ก่อนหน้านี้ แคปิตอล อิโคโนมิกส์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของซาอุดีอาระเบียจะขยายตัว 1% ในปี 2566 ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 9 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนก.ค.นี้เป็นต้นไป โดยลดลงจากระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค. และเป็นการปรับลดการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี อย่าไรก็ดี แม้ว่าซาอุดีอาระเบียตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตในครั้งนี้ แต่นักวิเคราะห์ของแคปิตอล อิโคโนมิกส์ยังคงคาดการณ์ว่าซาอุดีอาระเบียจะมียอดเกินดุลงบประมาณในปีนี้ โดยคาดว่าจุดคุ้มทุนของราคาน้ำมันของซาอุดีอาระเบียจะอยู่ที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมัน WTI ปิดตลาดที่ระดับ 72.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคาน้ำมันเบรนท์ปิดตลาดที่ระดับ 76.71 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กในวันจันทร์ (5 มิ.ย.) “เรายังคงคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะอยู่ที่ระดับ […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-08-28 04:15:04