'กูเกิล' ใช้ระบบ GRAD คัดพนักงานประสิทธิภาพแย่หมื่นคนออกจากบริษัท Google GRAD กูเกิล ปลดพนักงาน พนักงาน ไล่ออก อินโฟเควสท์
กูเกิลเริ่มใช้ กูเกลอร์ รีวิว แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ ซึ่งเป็นระบบจัดอันดับและแผนการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งอาจคัดพนักงานออกราว 10,000 คน ท่ามกลางความวิตกกังวลจากหลายฝ่ายว่า หากผลการประเมินออกมาไม่ดี พวกเขาอาจถูกไล่ออก หรือระบบใหม่นี้อาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการเลี่ยงจ่ายโบนัสและปันผลหุ้น
ข้อมูลจากดิ อินฟอร์เมชัน ระบุว่า ผู้จัดการของกูเกิลหลายคนได้ถูกขอให้จัดอันดับพนักงาน 6% หรือราว 10,000 คน ที่มีผลงานต่ำ จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ที่ 2% โดยในการประกาศก่อนหน้านี้ บรรดาผู้จัดการได้รับคำสั่งให้ปรับลดการจัดอันดับที่สูงเกินไป นายคริส แพปพัส โฆษกของกูเกิลระบุผ่านอีเมลว่า โปรแกรมดังกล่าวถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในการพัฒนาพนักงาน การฝึกอบรม การเรียนรู้ และความก้าวหน้าในอาชีพการงานตลอดทั้งปี โดยระบบใหม่นี้จะช่วยสร้างความคาดหวังที่ชัดเจนและให้ฟีดแบ็กด้านประสิทธิภาพการทำงานกับพนักงานเป็นประจำ
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร บริษัทเอชพี อิงค์ ระบุว่า ทางบริษัทวางแผนปลดพนักงาน 4,000-6,000 คนในอีก 3 ปีข้างหน้า ขณะที่บริษัทซิสโก ซีสเต็มส์ อิงค์ ประกาศว่าจะปรับลดจำนวนพนักงานลง 5% และในช่วงต้นเดือนนี้ บริษัทเมตา ประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงานกว่า 11,000 ตำแหน่ง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
สื่อนอกชี้แผนทวิตเตอร์ของ 'อีลอน มัสก์' อาจทำขัดแย้งแอปเปิ้ล-กูเกิล : อินโฟเควสท์นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและเจ้าของคนใหม่ของทวิตเตอร์ ได้ประกาศแผนการใหญ่หลายอย่างสำหรับทวิตเตอร์ นับตั้งแต่เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะค่อนข้างสับสนอยู่บ้าง นายมัสก์ต้องการเพิ่มรายได้ของบริษัทอย่างมากผ่านการสมัครสมาชิก ขณะเดียวกันก็เปิดให้แพลตฟอร์มมีเสรีภาพในการพูดมากขึ้น ซึ่งในบางกรณีอาจหมายถึงการกู้คืนบัญชีที่ถูกแบนก่อนหน้านี้ เหมือนกับบัญชีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม แผนการของนายมัสก์อาจทำให้เกิดความขัดแย้งกับ 2 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดอย่างแอปเปิ้ลและกูเกิล รายงานระบุว่า หนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อวิสัยทัศน์ “ทวิตเตอร์ 2.0” ของนายมัสก์ คือความเป็นไปได้ที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะละเมิดกฎแอปพลิเคชันของแอปเปิ้ลหรือกูเกิล ในลักษณะที่อาจชะลอแผนการของบริษัท หรือแม้แต่ทำให้ทวิตเตอร์ถูกถอดออกจากแอปสโตร์ได้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมัสก์ทวีตแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมของแอปสโตร์ที่กูเกิลและแอปเปิ้ลเรียกเก็บจากบริษัทต่าง ๆ เช่น ทวิตเตอร์ นายมัสก์ทวีตว่า “เห็นได้ชัดว่าค่าธรรมเนียมของแอปสโตร์นั้นสูงเกินไปเนื่องจากการผูกขาดของระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์” พร้อมเสริมว่า “มันเป็นภาษี 30% ที่ซ่อนอยู่บนอินเทอร์เน็ต” รวมถึงแท็กแผนกต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ซึ่งมีรายงานว่ากำลังตรวจสอบกฎของแอปสโตร์ ทั้งนี้ นายมัสก์แสดงความไม่พอใจที่แอปเปิ้ลและกูเกิลหักเงินจากการซื้อภายในแอปต่าง ๆ 15%-30% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ที่จำเป็นอย่างยิ่งจากแผนของมัสก์จากการสมัครสมาชิกทวิตเตอร์ บลู ในราคา 8 ดอลลาร์ต่อเดือนได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
วิษณุ ยกกรณีชัชชาติ-สุดารัตน์ เทียบกรณีบิ๊กตู่ สังกัดพรรคอื่นได้แม้เป็นแคนดิเดทพปชร. : อินโฟเควสท์นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถสมัครสมาชิกพรรคใหม่ได้ แม้ขณะนี้ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงอยู่ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เพราะไม่ได้ดูคุณสมบัติในระหว่างทาง เช่นเดียวกับกรณีของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หรือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ยังมีชื่อเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แม้ว่าขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์ จะไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่งแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดมาก่อนเลย แต่หากมีเหตุที่จะต้องหานายกรัฐมนตรีขึ้นมา ก็ต้องทำให้คุณสมบัติครบถ้วน จัดการให้ตัวเองมีรายชื่ออยู่ในพรรคเดียว เช่นอาจจะถอยกลับมาอยู่พรรคเก่า ส่วนหากจะมีการยุบสภาก่อนหมดวาระ บัญชีรายชื่อของผู้ที่เคยเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีก็จะหายไปหมด เพราะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ และก็ไม่สามารถเลือกได้ เพราะต้องมีสภาใหม่ก่อน ซึ่งผู้ที่มีรายชื่อในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี จะต้องอยู่ในพรรคการเมืองเดียวโดยความสมัครใจ และตอนที่เสนอชื่อ จะต้องขอความสมัครใจด้วยเช่นกัน ส่วนการที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย และเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นด้วย จะมีผลต่อการได้เปรียบเสียเปรียบในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ได้เป็นปัญหา ทุกครั้งที่ปลายสมัยสภา และจะมีการเลือกตั้งก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง เช่น ตอนเป็นรัฐมนตรีอยู่พรรค x แต่ในช่วงปลายสมัยคิดจะย้ายไปอยู่กับพรรค Y พอถึงเวลาหาเสียงก็หาเสียงให้พรรค Y เป็นต้น “นายกรัฐมนตรีบางท่าน ถึงได้เลือกที่จะปรับคณะรัฐมนตรี อย่างในสมัยท่านบรรหาร ศิลปอาชา …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก นลท.รอข้อมูล PMI : อินโฟเควสท์หุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนบวกในวันนี้ โดยเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น ช่วยชดเชยการทรุดตัวลงของหุ้นเครดิตสวิส หลังบริษัทดังกล่าวออกคำเตือนเรื่องผลกำไร ขณะที่ นักลงทุนรอข้อมูลผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับสถานะทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 436.37 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด หรือ +0.03% โดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ และเหมือนปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง โดยเพิ่มขึ้น 0.9% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 14,438.20 จุด เพิ่มขึ้น 15.85 จุด หรือ +0.11% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,677.97 จุด เพิ่มขึ้น 20.44 จุด หรือ +0.31% ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมเปิดเผยสรุปการประชุมในวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) เครดิตสวิสคาดการณ์ในวันนี้ (23 พ.ย.) ว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
KBANK คาดเงินบาทปี 66 แข็งค่าในกรอบ 33.50-34.00 หลังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย-ท่องเที่ยวหนุน : อินโฟเควสท์นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวในงานสัมมนา “Economic Outlook Thailand Forecast” ได้ปรับเป้าหมายเงินบาทปี 65 เป็น 35.25 บาท/ดอลลาร์ จากเดิมที่คาด 37.50 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดการเงิน มีความเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยช้าลง และมีลุ้นว่าอาจจะต้องปรับดอกเบี้ยลงภายในปีหน้า ซึ่งการคาดการณ์นี้ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง ทำให้คาดว่าเงินบาทปี 66 มีทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยให้กรอบที่ 33.50-34.00 บาท/ดอลลาร์ “ช่วง 2-3 เดือนหลังจากนี้เงินบาทอาจแกว่งตัว และหลังเดือนมี.ค. จะได้เห็นเงินบาทแข็งค่าชัดเจนมากขึ้น จากการท่องเที่ยวที่เข้ามา แต่อย่างไรก็ตามเงินบาทคงไม่ได้แข็งค่าแบบก้าวกระโดด” นายกอบสิทธิ์ กล่าว ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทปี 66 คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 66 สูงขึ้น แม้ว่าทั่วโลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยคาดว่าปีหน้านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาไทยถึง 20 ล้านคน โดยเฉพาะความหวังจากนักท่องเที่ยวจีน ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยก็จะดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและแรงกดดันที่ลดลงจากราคาพลังงาน …
อ่านเพิ่มเติม »
FPI ทุ่มร้อยล้านเพิ่มแม่พิมพ์จับมือพันธมิตรเปิดเกมรุกตลาดสหรัฐเต็มรูปแบบ : อินโฟเควสท์นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนบุกตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเต็มรูปแบบ หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน เบื้องต้นบริษัทเตรียมส่งชิ้นส่วนสินค้า 50 โมเดล ให้กับพันธมิตรเพื่อนำไปจำหน่ายในสหรัฐ และเตรียมทุ่มงบลงทุนราว 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มจำนวนแม่พิมพ์ในประเทศไทย รองรับการขยายตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ไปยังตลาดอเมริกาด้วย นายสมพล กล่าวว่า จากแผนการบุกตลาดสหรัฐอเมริกาจะทำให้แนวโน้มธุรกิจในปี 66 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจากปี 65 ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ไปแล้ว โดยช่วง 9 เดือนแรกมีรายได้รวมกว่า 2,025.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,552.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 323.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 188.2 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปี 64 มีกำไร 328.98 ล้านบาท “มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น และจากการที่บริษัทฯ ได้รับโอกาสจากพันธมิตรในการบุกตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผสมผสาน นลท.ประเมินรายงานประชุมเฟด : อินโฟเควสท์หุ้นยุโรปเปิดตลาดผสมผสานในวันนี้ ขณะที่ นักลงทุนประเมินรายงานการประชุมประจำวันที่ 1 – 2 พ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 438.40 จุด ลดลง 0.42 จุด หรือ -0.10% โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลดลง 0.5% ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 0.5% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 14,456.15 จุด เพิ่มขึ้น 28.56 จุด หรือ +0.20% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,683.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.35 จุด หรือ +0.07% รายงานการประชุมเฟด ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวันพุธ (23 พ.ย.) ระบุว่า แม้กรรมการเฟดตระหนักว่าตัวเลขเงินเฟ้อยังไม่ได้ส่งสัญญาณชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบของนโยบายการเงินของเฟดที่มีต่อเศรษฐกิจ …
อ่านเพิ่มเติม »