บอกหมดไม่มีกั๊กกับเทคนิคดีๆ ที่ช่วย 'ถนอมแบต iPhone' ให้อายุยืน จากการใช้งานจริง 'iPhone 14 Pro' ตลอดเวลา 1 ปีเต็ม แต่ 'Battery Health' ยังเกือบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์แม้จะเพิ่งตกรุ่นไปหมาดๆ เทคนิคเหล่านี้เอาไปใช้กับ 'iPhone 15' ได้เลย
การชาร์จแบตให้เต็มของ iPhone หมายถึงการชาร์จให้เต็มจริงๆ ไม่ชาร์จนิดหน่อยแล้วนำไปใช้ หรือเพิ่งใช้ปุ๊บแล้วรีบชาร์จปั๊บ เพราะจะทำให้การกักเก็บประจุในแบตเตอรี่ไม่สมบูรณ์
เรื่องการชาร์จเต็มหรือไม่เต็ม มีบางกลุ่มเชื่อว่าควรชาร์จแบตไม่เต็มเพื่อให้แบตเตอรี่ไม่นับรอบการชาร์จ ซึ่งจากการใช้งานที่ผ่านมา และใน iPhone 14 Pro ตลอดหนึ่งปี ตัวเลขสุขภาพแบตจากการชาร์จเต็มก่อนใช้คือคำตอบการเสียบหัวชาร์จหรืออะแดปเตอร์เข้ากับปลั๊กก่อน แล้วค่อยนำสายชาร์จมาเสียบที่ iPhone จะช่วยป้องกันไฟกระชากซึ่งอาจจะทำให้ iPhone ของเราความเสียหายได้ความเชื่อเก่าๆ ที่ว่า การชาร์จแบตครั้งแรกต้องชาร์จ 8 ชั่วโมงบ้าง 12 ชั่วโมงบ้าง ณ ปัจจุบันที่แบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion และ Li-Polymer กันหมดแล้ว...
สำหรับเปอร์เซ็นต์ที่ควรจะต้องชาร์จแล้วคือ แบตเหลือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวเลขที่ไม่ควรให้ต่ำกว่านี้ที่จะเติมพลังให้แบตกลับมาเต็มอีกครั้ง ในสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ก็มีฟังก์ชันแจ้งเตือนให้ชาร์จเมื่อแบตเหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ และจะแจ้งเตือนให้เห็นถึงภาวะวิกฤติเมื่อแบตเหลือราว 10 เปอร์เซ็นต์ด้วย
วิธีที่ดีที่สุดคือ ชาร์จให้เต็มแล้วถอดปลั๊ก นำไปใช้ตามปกติ พอแบตลดจนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ค่อยนำไปชาร์จใหม่หลังจากมีข่าวที่ทำให้ตื่นตระหนกถึงการชาร์จแบตทิ้งไว้แล้วมีโอกาสแบตระเบิด ในความเป็นจริงต้องอาศัยหลายปัจจัยมากๆ เช่น การวางไว้บนพื้นผิวที่กักเก็บความร้อน การชาร์จทิ้งไว้เป็นเวลานานจนเกินไป หรือความเสื่อมของอุปกรณ์ เป็นต้น