ไมโครซอฟท์เปิดตัวชุดเครื่องมือคลาวด์สำหรับบริษัทโทรคมนาคม : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ไมโครซอฟท์เปิดตัวชุดเครื่องมือคลาวด์สำหรับบริษัทโทรคมนาคม : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 50 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 23%
  • Publisher: 68%

ไมโครซอฟท์เปิดตัวชุดเครื่องมือคลาวด์สำหรับบริษัทโทรคมนาคม AI Microsoft ปัญญาประดิษฐ์ โทรคมนาคม ไมโครซอฟท์ อินโฟเควสท์

ไมโครซอฟท์เปิดตัวการบริการปัญญาประดิษฐ์ ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการเครือข่ายโทรคมนาคม โดยใช้ความสามารถเดียวกับที่เคยใช้เพื่อจัดการแพลตฟอร์มคลาวด์แอเชอร์ ของไมโครซอฟท์

แถลงการณ์ของไมโครซอฟท์ระบุว่า ผู้ให้บริการจะได้รับประโยชน์จาก AI ขั้นสูงที่ช่วยปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ด้วยการเพิ่มข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกเข้าในการดำเนินการของตนเอง รวมถึงการเปิดตัวเครือข่าย 5G ความเร็วสูงด้วย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไมโครซอฟท์เข้าร่วมในตลาด 5G หลังเข้าซื้อบริษัทเครือข่ายคลาวด์ อัฟเฟิร์ม เน็ตเวิร์ก และเมต้าสวิทช์ ในปี 2563

ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับ AI อย่างมาก โดยมีการลงทุนครั้งใหญ่ในแชตจีพีที ของโอเพ่นเอไอ ซึ่งเพิ่มความสนใจใน AI เป็นวงกว้าง ทั้งในซิลิคอน แวลลีย์และที่อื่น ๆ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้าที่จะใส่ AI เข้าในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท ขณะที่ OpenAI ยังคงเดินหน้าสร้าง AI ที่คล้ายคลึงมนุษย์ สำหรับการใช้งานในเครื่องจักรต่อไป

นายเจสัน แซนเดอร์ รองประธานบริหารฝ่ายภารกิจเชิงกลยุทธ์และเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์กล่าวว่า “สิ่งที่เรากำลังทำคือการนำระบบคลาวด์แบบดั้งเดิมของเรามาปรับให้เหมาะกับเครือข่ายผู้ให้บริการโทรคมนาคมโดยเฉพาะ ผมคิดว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดีมากว่า นี่คือการทำงานของ AI ทั้งหมดที่เรานำเสนอในระบบ”

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

กนอ.แจ้งความเอาผิดผู้ลักลอบทิ้งสารเคมีหลังนิคมฯแก่งคอย 2 ข้อหา : อินโฟเควสท์กนอ.แจ้งความเอาผิดผู้ลักลอบทิ้งสารเคมีหลังนิคมฯแก่งคอย 2 ข้อหา : อินโฟเควสท์นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ลักลอบนำสารเคมีมาทิ้งไว้ในพื้นที่ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ใน 2 ข้อหา ทั้งลักลอบทิ้งกากสารเคมี และบุกรุกสถานที่ราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเร่งนำไปกำจัดแล้ว พร้อมประสานให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและหมั่นตรวจตราพื้นที่เสี่ยง “กนอ.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าวแล้วใน 2 ข้อหา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้กระทำความผิด พร้อมทั้งอายัดรถบรรทุกที่ลักลอบนำสารเคมีมาทิ้งไว้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีแล้ว” นายวีริศ กล่าว ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าสารเคมีที่ถูกนำมาทิ้งไว้มีลักษณะเป็นของเหลวสีเขียว มีกลิ่นฉุนคล้ายน้ำมัน ซึ่งอาจมีองค์ประกอบของกรดเข้มข้นบางชนิด ส่งผลให้หน้าดินบริเวณพื้นที่ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย 29.3 ตารางเมตรได้รับความเสียหาย และเพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีดังกล่าวส่งผลกระทบกับชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย กนอ.จึงสั่งการให้ระงับเหตุเบื้องต้น ดังนี้ 1.ปิดกั้นพื้นที่บริเวณจุดที่มีการลักลอบทิ้งสารเคมี ด้วยการนำเชือกกั้นพื้นที่ และนำกระสอบทรายมากั้นเป็นการชั่วคราว รวมถึงปิดกั้นพื้นที่ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมไม่ให้รถบรรทุกผ่านเข้า-ออก 2.นำกระสอบทรายปิดกั้นรางระบายน้ำฝน เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีรั่วไหลไปยังพื้นที่ใกล้เคียง 3.นำปูนขาวมาปรับสภาพพื้นที่จุดที่มีการลักลอบทิ้งสารเคมี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยดำเนินการขนกากสารเคมีดังกล่าวไปกำจัดแล้วเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอยต้องจ่ายค่ากำจัดสารเคมีในเบื้องต้นจำนวน 326,700 บาท ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี เพื่อเก็บตัวอย่างของเหลวและกากสารเคมีไปตรวจวิเคราะห์ คาดว่าจะทราบผลการตรวจภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษภาคที่ 7 (สคพ.7) […]
อ่านเพิ่มเติม »

หญิงสิงคโปร์มีบุตรลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 65 เหตุเพราะเป็นปีเสือ : อินโฟเควสท์หญิงสิงคโปร์มีบุตรลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 65 เหตุเพราะเป็นปีเสือ : อินโฟเควสท์อัตราเจริญพันธุ์ (fertility rate) ของสิงคโปร์ลดลง โดยสตรี 1 คนให้กำเนิดเด็กมีชีวิตได้เพียง 1.05 คนในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามข้อมูลของกรมสถิติสิงคโปร์ที่ย้อนหลังไปกว่า 60 ปี ทั้งนี้ อัตราเจริญพันธุ์หมายถึง จำนวนบุตรเกิดที่รอดชีวิตโดยเฉลี่ยต่อสตรีในวัยเจริญพันธุ์ 1 คน (อายุ 15 – 49 ปี) สถานีโทรทัศน์ CNA รายงานว่า นางอินดรานี ราจาห์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวในรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ (24 ก.พ.) ว่า อัตราการให้กำเนิดบุตรของสตรีในสิงคโปร์ที่ลดลงนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นเพราะปี 2565 เป็นปีเสือในปฏิทินจันทรคติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีอัตราการเกิดของเด็กลดต่ำลงตามความเชื่อในหมู่ชาวจีนที่ไม่ต้องการมีบุตรในปีเสือ ทั้งนี้ จำนวนการเกิดของเด็กที่มีชีวิตทั้งหมด ลดลง 7.6% จากปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่ภาวะเจริญพันธุ์ฟื้นตัวขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่โรคระบาดบรรเทาลง โดยอัตราการให้กำเนิดทารกต่อสตรี 1 คนนั้นได้ลดลงถึง 7 ปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาในสิงคโปร์ และต่ำกว่าอัตราการเจริญพันธุ์ทดแทน (replacement fertility rate) […]
อ่านเพิ่มเติม »

รัฐบาลหนุนอินทราโลจิสติกส์แข่งขันตลาดโลก คาดปีนี้โต 10-15% : อินโฟเควสท์รัฐบาลหนุนอินทราโลจิสติกส์แข่งขันตลาดโลก คาดปีนี้โต 10-15% : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สนับสนุนให้มีการยกระดับและส่งเสริมศักยภาพการจัดการคลังสินค้าไทยสู่มาตรฐานระดับสากล หลังคาดว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมระบบการจัดการคลังสินค้าภายในองค์กร (อินทราโลจิสติกส์) ในปี 2566 จะขยายตัว 10-15% “นายกรัฐมนตรียินดีที่อุตสาหกรรมคลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ อินทราโลจิสติกส์ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2566 ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเพื่อขับเคลื่อนพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์มาโดยตลอด พร้อมยินดีร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับการจัดการคลังสินค้าไทยสู่มาตรฐานระดับสากล เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการไทย รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต” นายอนุชาฯ กล่าว ทั้งนี้จากข้อมูลของสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทย ระบุว่า การเติบโตของอินทราโลจิสติกส์ในปี 2565 มีมูลค่าถึง 6,000-8,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2564 ประมาณ 5-8% จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปี 2566 ที่เริ่มฟื้นตัว และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ขยายตัวได้ดีถึง 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทยเตรียมจัดงาน LogiMAT | Intelligent Warehouse 2023 […]
อ่านเพิ่มเติม »

'เมตา' เตรียมปล่อยโมเดลภาษาใหม่ขนาดใหญ่ หนุนพัฒนาแอปฯเอไอสไตล์แชตบอต : อินโฟเควสท์'เมตา' เตรียมปล่อยโมเดลภาษาใหม่ขนาดใหญ่ หนุนพัฒนาแอปฯเอไอสไตล์แชตบอต : อินโฟเควสท์นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา แพลตฟอร์มส์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กประกาศเมื่อวันศุกร์ (24 ก.พ.) ว่า เมตาได้ทำการฝึกอบรม และจะเปิดตัวโมเดลภาษาใหม่ขนาดใหญ่ให้กับบรรดานักวิจัย โมเดลภาษาใหม่ขนาดใหญ่ดังกล่าวซึ่งเรียกว่า LLaMA นั้นมีจุดประสงค์เพื่อช่วยนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรในการสำรวจแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่น การตอบคำถาม และการสรุปเอกสาร การเปิดตัวโมเดลภาษาใหม่ของเมตาซึ่งพัฒนาโดยทีมวิจัยเอไอขั้นพื้นฐาน (Fundamental AI Research – FAIR) นั้นมีขึ้น ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และบริษัทสตาร์ตอัปต่างแข่งขันกันอวดอ้างความคืบหน้าในด้านเทคนิคปัญญาประดิษฐ์และรวมเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ากับผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ โมเดลภาษาขนาดใหญ่สามารถรองรับแอปพลิเคชัน เช่น ChatGPT ของโอเพนเอไอ OpenAI, Bing AI ของไมโครซอฟท์และ Bard ของกูเกิล ซักเคอร์เบิร์กเขียนไว้ในโพสต์ของเขาว่า เทคโนโลยี LLM อาจสามารถแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ในที่สุด “LLMs ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถมากมายในการสร้างข้อความ การสนทนา การสรุปเนื้อหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร และการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การแก้ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์หรือการทำนายโครงสร้างโปรตีน” ซักเคอร์เบิร์กระบุ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »

อินโดฯเล็งเปิดตลาดซื้อขายคริปโทฯแห่งชาติกลางปีนี้ หวังลดความเสี่ยงนักลงทุน : อินโฟเควสท์อินโดฯเล็งเปิดตลาดซื้อขายคริปโทฯแห่งชาติกลางปีนี้ หวังลดความเสี่ยงนักลงทุน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อินโดนีเซียกำลังวางแผนเปิดตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีแห่งชาติ ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกับตลาดหุ้น เพื่อปรับปรุงการซื้อขายคริปโทฯ และลดความเสี่ยงที่เกิดจากการล้มละลายของบริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) สำนักงานกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าซึ่งปัจจุบันดูแลด้านสินทรัพย์ดิจิทัลระบุว่า ส่วนสำคัญของแผนการดังกล่าวก็คือการจัดตั้งตลาดคริปโทฯ ที่รัฐบาลอินโดนีเซียให้การสนับสนุน โดยแพลตฟอร์มซื้อขายของภาคเอกชนจะทำหน้าที่ดำเนินการด้านการซื้อขาย “ส่วนที่ยากก็คือเราไม่สามารถหาเกณฑ์มาตรฐานสำหรับตลาดคริปโทฯนั้น” นายนูร์เดียตโมโก หัวหน้าสำนักงานฯ ระบุในการให้สัมภาษณ์ “นี่อาจจะเป็นครั้งแรก” หน่วยงานอื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ จะจัดการด้านการหักบัญชีและการดูแลเพื่อปกป้องสินทรัพย์ และหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุการณ์ฉ้อโกงแบบ FTX แผนการจัดตั้งตลาดซื้อขายคริปโทฯ แห่งชาตินั้นคล้ายกับวิธีการทำงานของตลาดหุ้น โดยแยกการซื้อขาย การหักบัญชี และการดูแลภายใต้การกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ และเกิดขึ้นในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเพิ่มการตรวจสอบตลาดคริปโทฯ เอกชน หลังจากบริษัท FTX ยื่นขอล้มละลายในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้สินทรัพย์สูญหายไป 8 พันล้านดอลลาร์ และทำให้เกิดความกังวลว่า แพลตฟอร์มที่มีจำนวนมากเกินไปนั้นไม่มีความโปร่งใสและเป็นความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน นายนูร์เดียตโมโกกล่าวว่า บริษัทซื้อขายคริปโทฯ จำนวนกว่า 20 แห่งในอินโดนีเซียจะต้องทำการซื้อขายคริปโทฯ ในตลาดแห่งชาติในฐานะโบรกเกอร์ ทั้งนี้ ตลาดซื้อขายคริปโทฯ แห่งชาติอาจจะได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเร็วที่สุดในกลางปี 2566 และจะบริหารงานโดยบริษัทเอกชนมากกว่าโดยรัฐบาล โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE […]
อ่านเพิ่มเติม »

สหรัฐจัดเจรจากลุ่มประเทศภาคี 4 ฝ่ายสัปดาห์หน้าขณะสัมพันธ์จีนตึงเครียด : อินโฟเควสท์สหรัฐจัดเจรจากลุ่มประเทศภาคี 4 ฝ่ายสัปดาห์หน้าขณะสัมพันธ์จีนตึงเครียด : อินโฟเควสท์นักการทูตอาวุโสรายหนึ่งเปิดเผยในวันศุกร์ (24 ก.พ.) ว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ จะจัดการเจรจาในสัปดาห์หน้ากับรมว.ต่างประเทศของออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับจีน นายโดนัลด์ ลู ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศด้านกิจการเอเชียใต้และเอเชียกลางเปิดเผยว่า ตัวแทน 4 ชาติของกลุ่ม Quad ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐ ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่นนั้น จะประชุมกันในวันที่ 3 มี.ค. นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G20 ที่กรุงนิวเดลี ทั้งนี้ กลุ่ม Quad เป็นกลุ่มพันธมิตรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อถ่วงดุลอำนาจและสกัดกั้นการดำเนินการที่ก้าวร้าวของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเจรจาดังกล่าวจัดขึ้นหลังจากนายบลิงเกนได้พบปะกับนายหวัง อี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจีน และปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดด้านการต่างประเทศของจีน นายบลิงเกนและนายหวังได้พบปะกันที่เมืองมิวนิกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว โดยทั้งคู่ยังคงขัดแย้งกันเกี่ยวกับกรณีบอลลูนสอดแนม และขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนล่วงเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว นายลูระบุเสริมว่า รัฐมนตรีทั้ง 4 คนยังมีกำหนดเข้าร่วมในการประชุม Raisina Dialogue ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีในอินเดียเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับความสำคัญของกลุ่ม Quad ในภูมิภาคด้วย โดย […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-17 12:19:31