ไบเดน พูดผิด เรียก ฮุนเซน เป็น 'นายกฯ โคลอมเบีย' ในการ ประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ พนมเปญ อินโฟเควสท์
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เรียกชื่อประเทศผิดในการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อวานนี้ โดยเรียกนายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่าเป็นนายกฯ โคลอมเบีย
“ตอนนี้เรากลับมารวมตัวกันที่กัมพูชาแล้ว ผมตั้งตารอที่จะสร้างความก้าวหน้าให้เข้มแข็งยิ่งกว่าที่เราเคยทำมา และผมอยากจะขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีโคลอมเบียสำหรับความเป็นผู้นำในฐานะประธานอาเซียนและสำหรับการเป็นเจ้าภาพต้อนรับพวกเราทุกคน” ปธน.ไบเดนกล่าว โดยตั้งใจหมายถึงสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผู้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนในกรุงพนมเปญ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การพูดผิดเป็นครั้งคราวและการชอบพูดนอกสคริปต์ของปธน.ไบเดนนั้นมักถูกพรรครีพับลิกันวิจารณ์ว่า นี่เป็นหลักฐานว่าไบเดนแก่เกินไปจนไม่ควรดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างไรก็ดี ด้านผู้สนับสนุนปธน.ไบเดนชี้ว่า คำวิจารณ์ดังกล่าวเป็นการเหยียดผู้สูงอายุ พร้อมกล่าวว่าปธน.ไบเดนเป็นผู้ที่เอาชนะปัญหาการพูดติดอ่างในวัยเด็กได้ และก็พูดนอกสคริปต์แบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว
อนึ่ง ปธน.ไบเดนซึ่งจะมีอายุครบ 80 ปีในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาตั้งใจจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยในปี 2567 โดยจะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้ายช่วงต้นปีหน้า
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
นายกฯ ร่วมพิธีเปิดประชุมอาเซียน เสนอ 3 แนวทางขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน : อินโฟเควสท์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 แบบเต็มคณะ (Plenary) มีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมทั้งนโยบายและทิศทางในอนาคตของประชาคมอาเซียน นายกรัฐมนตรีขอบคุณ และชื่นชมกัมพูชาที่ได้ทำหน้าที่ประธานอาเซียนอย่างดีเยี่ยม พร้อมยินดีที่ข้อริเริ่มของกัมพูชาประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการสานต่อความพยายามในการรับมือ และฟื้นฟูจากโควิด-19 และการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี ค.ศ. 2025 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งและก้าวหน้ายิ่งขึ้น ซึ่งไทยภูมิใจที่เห็นอาเซียนพัฒนาจนกลายเป็นประชาคมที่เข้มแข็ง มีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 5 ของโลก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 แนวทางในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน เพื่อต่อสู้กับความท้าทายหลายรูปแบบ ดังนี้ 1.สร้างปัจจุบันให้เข้มแข็ง มุ่งดำเนินการตามกรอบการฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียน โดยเฉพาะการส่งเสริมระบบสาธารณสุขและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่การจัดตั้งศูนย์แอคฟีด (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases : ACPHEED) มีความคืบหน้า และไทยในฐานะที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานด้านการตอบสนองและสำนักเลขาธิการของศูนย์แอคฟีด พร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอินโดนีเซียและเวียดนาม เพื่อให้การทำงานของศูนย์ฯ มีบูรณาการและสามารถรับมือกับเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ …
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯ ชงเวทีอาเซียนเสริมสร้างศักยภาพ-กระชับสัมพันธ์คู่เจรจาและหุ้นส่วนแน่นแฟ้น : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 41 อย่างไม่เป็นทางการ (Retreat) มีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมประชุมที่ โรงแรมสกคา พนมเปญ เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอก และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อสถานการณ์และพัฒนาการที่สำคัญในภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอ 2 แนวทางที่อาเซียนควรดำเนินการไปพร้อมๆ กัน ท่ามกลางสถานการณ์ความท้าทายต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญ ดังนี้ 1.เสริมสร้างความเข้มแข็งแก่กลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ โดยดึงศักยภาพของแต่ละกรอบมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และการดำเนินการของแต่ละกรอบมีการสอดประสานกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียน และสามารถรักษาคุณค่าทางยุทธศาสตร์ของโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง 2.กระชับความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและหุ้นส่วนภายนอกอื่นๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบนพื้นฐานของความไว้วางใจระหว่างกัน ความเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน โดยอาเซียนดำเนินความสัมพันธ์อย่างสมดุล เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ อาเซียนสามารถเป็นส่วนหนึ่ง โดยใช้พลังของอาเซียนดึงฝ่ายต่างๆ ให้มาพบปะหารือกัน ซึ่งในช่วงหนึ่งสัปดาห์นี้มีการประชุมสุดยอดอาเซียน การประชุม G20 และไทยเองก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค จึงควรใช้โอกาสนี้เป็นเวทีสำหรับการปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่วนสถานการณ์ในเมียนมา นายกรัฐมนตรี เห็นว่า บทบาทของอาเซียนมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนต้องการเห็นสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา …
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯ เสนอ 4 แนวทางส่งเสริมความร่วมมือในเวทีประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 25 ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ (plenary) โดยมีสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานการประชุม มีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมการประชุม ในการประชุมครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อทบทวนความร่วมมือระหว่างกัน กำหนดทิศทางความสัมพันธ์อาเซียน-จีน และเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกระเทศร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ถึงความสำเร็จในการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 และขอชื่นชมในผลงานของคณะกรรมการกลางของพรรคฯ สมัยที่ 19 นำจีนสู่การเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบ เชื่อว่าบทบาทที่สร้างสรรค์และแข็งขันของจีนท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ ได้ช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์อาเซียน-จีนให้มีพลวัตและครอบคลุม โดยเฉพาะเป็นปีแรกของความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน ความเป็นหุ้นส่วนของเราจะเติบโตบนพื้นฐานของหลักการเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ความเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอแนวทาง 4 ประการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาของภูมิภาคที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ดังนี้ 1.ไทยสนับสนุนการเสริมสร้างหุ้นส่วนที่เข้มแข็งในด้านต่างๆ …
อ่านเพิ่มเติม »
INTERVIEW: CPANEL นิวไฮต่อเนื่องรับก่อสร้างปีนี้คึกคัก ชูจุดแข็งโกยงาน EEC : อินโฟเควสท์นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีแพนเนล (CPANEL) มั่นใจปี 65 ผลประกอบการเติบโตมากกว่า 25% ทำนิวไฮ (New High) อย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพการเป็น “Construction Tech” ชูจุดเด่นด้านนวัตกรรมที่สามารถออกแบบปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะการคุมต้นทุนก่อสร้างในยุควัสดุ-ค่าแรงพุ่ง พร้อมขยายโอกาสรับงานโครงการจากที่เคยเน้นบ้าน-คอนโดมิเนียม สู่อพาร์ทเม้นท์ โรงแรม และโรงพยาบาล รับปริมาณงานเพิ่มหลังกิจกรรมเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวฟื้น ขณะที่มองว่าที่ตั้งฐานการผลิตในภาคตะวันออกและความชำนาญพื้นที่ รวมถึงข้อได้เปรียบด้านการขนส่ง จะเป็นปัจจัยหลักสนับสนุนการรับงานในพื้นที่ EEC หลังจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนใน EEC พร้อมเร่งดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์การก่อสร้างในพื้นที่พุ่งสูงขึ้น เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ CPANEL ที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากระยะต่อจากนี้ อสังหาท้ายปีเติบโตต่อเนื่องถึงปีหน้ารับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น นายชาคริต กล่าวว่า ปี 65 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 25% ซึ่งแค่เพียงครึ่งปีก็เติบโตไปแล้วกว่า 24% จึงเชื่อว่าจะสามารถเติบโตทำนิวไฮ (New High) ต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเฉพาะช่วงครี่งปีหลังที่อุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นมาเติบโตได้อย่างคึกคักตอบรับปัจจัยบวกหลายหลายด้าน ล่าสุด CPANEL แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/65 รายได้รวม 122.15 ล้านบาท …
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยปิดพุ่ง 18.06 จุด ตอบรับคลายกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย-จีนส่งสัญญาณเปิดประเทศ : อินโฟเควสท์SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,637.29 จุด เพิ่มขึ้น 18.06 จุด (+1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 86,477.24 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ขึ้นมาได้ราว 1% รับแรงหนุนตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาดส่งผลให้คลายกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และจีนประกาศลดระยะเวลากักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดแกวางไซด์เวย์ขึ้นต่อ หลังเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องหนุนเงินทุนต่างชาติไหลเข้า ให้แนวต้าน 1,650 จุด และ แนวรับ 1,630 จุด SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,637.29 จุด เพิ่มขึ้น 18.06 จุด (+1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 86,477.24 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีพุ่งขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดและเคลื่อนไหวแดนบวกตลอดทั้งวัน ทำระดับสูงสุด 1,640.03 จุด และระดับต่ำสุด 1,629.57 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,199 หลักทรัพย์ ลดลง 670 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 458 หลักทรัพย์ นายณัฐพล คำถาเครือ …
อ่านเพิ่มเติม »
สหรัฐยึดอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์จากจีนกว่า 1,000 รายการ อ้างปัญหาแรงงานทาส : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรของรัฐบาลกลางและภาคอุตสาหกรรมว่า การจัดส่งส่วนประกอบอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์จำนวนมากกว่า 1,000 รายการ มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ยังคงติดค้างอยู่ท่าเรือสหรัฐตั้งแต่เดือนมิ.ย. ภายใต้กฎหมายใหม่ซึ่งว่าด้วยการห้ามนำเข้าสินค้าจากภูมิภาคซินเจียงของจีน เนื่องจากความความกังวลเกี่ยวกับปัญหาแรงงานทาส สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การยึดสินค้าในระดับซึ่งไม่เคยมีมาก่อนสะท้อนให้เห็นว่านโยบายที่มุ่งสร้างแรงกดดันต่อจีนเกี่ยวกับประเด็นค่ายกักกันชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงนั้น เสี่ยงที่จะชะลอความพยายามของคณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ในการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคพลังงานของสหรัฐ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำนักงานศุลกากรและปกป้องชายแดนของสหรัฐ (CBP) เปิดเผยว่า ได้ยึดการขนส่งอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์รวมทั้งสิ้น 1,053 รายการในระหว่างวันที่ 21 มิ.ย.-25 ต.ค. หลังกฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ (Uyghur Forced Labor Protection Act) มีผลบังคับใช้ พร้อมระบุว่า ยังไม่ได้มีการส่งคืนสินค้าจากการจัดส่งดังกล่าวเลยแม้แต่รายการเดียว ทั้งนี้ CBP ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้ผลิตหรือรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่ถูกยึดไว้ในการจัดส่งทั้งหมดนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องของกฎหมายของรัฐบาลกลางที่ว่าด้วยการปกป้องความลับทางการค้า อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากภาคอุตสาหกรรมเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สินค้าที่ถูกยึดไว้ประกอบด้วย แผงและเซลล์โพลีซิลิคอน ซึ่งอาจมีความจุสูงถึง 1 กิกะวัตต์ และส่วนใหญ่ผลิตโดยผู้ผลิตจีน 3 ราย ได้แก่บริษัทลอนจิ กรีน เอ็นเนอร์จี้ เทคโนโลยี โค จำกัด (Longi Green Energy …
อ่านเพิ่มเติม »