หนุ่มขับเก๋งพุ่งชนเสาไฟฟ้า รีบคว้า จยย.ชาวบ้านควบหายไปกับความมืดหลังจากนั้นญาติของหนุ่มได้ขับนำกลับมาส่งคืนจนถึงยังในที่เกิดเหตุ ที่แท้คนขับเก๋งเพิ่งจะขับกลับมาจากงานเลี้ยงวันเกษียณอายุราชการชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง ก่อนมาประสบอุบัติเหตุเลี้ยวเข้าไม่ตรงปากซอย แต่หวั่นถูกจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เกินลิมิตจึงได้รีบหลบหนีไปก่อน ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย.66 เวลา 23.00 น.
หนุ่มขับเก๋งพุ่งชนเสาไฟฟ้า รีบคว้า จยย.ชาวบ้านควบหายไปกับความมืดหลังจากนั้นญาติของหนุ่มได้ขับนำกลับมาส่งคืนจนถึงยังในที่เกิดเหตุ ที่แท้คนขับเก๋งเพิ่งจะขับกลับมาจากงานเลี้ยงวันเกษียณอายุราชการชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง ก่อนมาประสบอุบัติเหตุเลี้ยวเข้าไม่ตรงปากซอย แต่หวั่นถูกจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เกินลิมิตจึงได้รีบหลบหนีไปก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย.66 เวลา 23.00 น. ร.ต.ท.หญิง ธันชนก รัดจันทอง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์เก๋งพุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้า ที่บริเวณปากซอยทางเข้าด้านหลังโรงเรียนวัดดอน ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรำ-กบินทร์บุรี พื้นที่ ม.13 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิคสีแดง ทะเบียน กธ-987 ฉะเชิงเทรา พุ่งชนติดอยู่กับโคนเสาไฟ ซึ่งตั้งอยู่ริมขอบปากทางเข้าไปยังภายในซอยพอดี โดยได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า คนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ได้รีบคว้ารถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ต่างพากันขับออกมาดูหลบหนีไปแล้ว ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่ต่างพากันงุนงง
ซึ่งด้านหน้าของรถยนต์เก๋งยังคงพุ่งชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้าสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ขณะที่โคนเสาไฟฟ้ายังมีรอยคอนกรีตกระเทาะแตกออกมาบางส่วน จากการตรวจค้นภายในรถของเจ้าหน้ที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ซุกซ่อนมาในรถ จนกระทั่งมีคนในหมู่บ้านได้มาแจ้งว่าผู้ที่ขับรถ จยย.ของชาวบ้านหลบหนีไปนั้น เป็นคนในหมู่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไป และทำงานอยู่แถบย่านสำนักงานขนส่ง จ.
โดย น.ส.ชลธิชา อายุ 37 ปี อยู่บ้าน ม.13 ต.บางตีนเป็ด เจ้าของรถ จยย. กล่าวว่า ครั้งแรกได้ยินคนขับรถยนต์เก๋งซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปีบอกว่าให้ไปส่งที่บ้านหน่อย หลังจากออกมาจากซากตัวรถเก๋งได้ ซึ่งตนก็ยังบอกไปว่า ไปไม่ได้ให้พี่นั่งรอเพราะว่าพี่เจ็บเดี๋ยวให้รอรถพยาบาลมารับ แต่เขาปฏิเสธบอกว่าไม่เอา เขาจะกลับบ้าน และเขาก็เดินอ้อมตนเองไป ซึ่งตนเห็นว่าคนขับรถอยู่ในสภาพลักษณะท่าทางคล้ายกับคนเมาสุรา ก็เลยปล่อยให้เขาเดินอ้อมไป จากนั้นเขาได้ไปขับรถ จยย.