'เอลนีโญและลานีญา' (El Niño , La Niña ) ชื่อที่หลายคนได้ยินมานาน แต่ก็ยังเป็นที่สับสนกันอยู่ว่า 2 ชื่อนี้ ทำให้สภาพภูมิอากาศของโลกแปรปรวนอย่างไรบ้าง ปรากฏการณ์โลกร้อน โลกร้อน เอลนีโญ ลานีญา โลกแปรปรวน ข่าวไทยพีบีเอส ข่าวที่คุณวางใจ ThaiPBSnews
ในทางตรงข้ามก็เกิดภาวะความแห้งแล้งตามแนวชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้
พื้นที่แห้งแล้งต้องเผชิญกับภาวะฝนตกหนัก จนเกิดภาวะน้ำท่วม อุณหภูมิของอากาศต่ำกว่าปกติในทุกฤดู ในปี พ.ศ. 2531 น้ำที่เย็นผิดปกติทำให้อากาศเย็นลง น้ำจะระเหยน้อยลง อากาศก็แห้ง เย็น และ หนาแน่นขึ้น เนื่องจากอากาศที่หนาแน่นนี้ ไม่สามารถก่อตัวขึ้นเป็นพายุได้ จึงมีฝนตกน้อยลงในบางพื้นที่ของโลก เช่น แปซิฟิกตะวันออก เอกวาดอร์ เปรู และทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาเอลนีโญ และ ลานีญา ความแปรปรวนที่สำคัญ
เอลนีโญและลานีญาเมื่อรวมกันแล้ว จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรธรรมชาติ ที่สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ต่อสภาพอากาศ ภูมิอากาศ และมหาสมุทรทั่วโลก การเกิดพายุ ภัยแล้ง ไฟป่า หรือน้ำท่วม ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของทั้งสัตว์ทะเลและมนุษย์และยังรวมถึงการผลิตอาหาร สุขภาพของมนุษย์ และน้ำด้วย ผลกระทบต่อโลกจะอยู่ประมาณ 1-2 ปี และวงจรของ 2 ปรากฎการณ์จะสลับกันทุก 3-7 ปี
แม้ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา แต่ในช่วงใดก็ตามที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญขึ้น อุณหภูมิภายในประเทศไทยอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับปกติ และอาจเกิดสภาพอากาศแปรปรวนในบางพื้นที่ เช่น ในบริเวณที่เคยมีฝนตกชุกอาจต้องเผชิญกับความแห้งแล้งฉับพลัน หรือในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำฝนอาจเผชิญกับพายุฝนรุนแรง เป็นต้น