โฆษกรัฐบาล ย้ำเงินสำรองฯ ของไทย เทียบต่อ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ PPTVHD36 ช่อง36 เรื่องข่าวเรื่องใหญ่ เงินสำรองของไทย GDP ของแพง เงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศปรับลดลง เป็นผลมาจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ พร้อมเน้นย้ำไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ เมื่อเทียบต่อ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่ปรับลดลงจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปีมาอยู่ที่ระดับ 2.
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังยืนยันว่า ไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และประเทศไทยยังมีฐานะทางการเงินที่ดี จากระดับเงินสำรองฯ ที่อยู่ประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีเงินสำรองฯ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก และเมื่อเทียบเงินสำรองฯ ต่อ GDP จะคิดเป็น 48% ของ GDP ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลก รวมถึงยังสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นของไทยถึงเกือบ 3 เท่า
“สถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน ปัญหาเงินเฟ้อสูง ราคาน้ำมันแพง และราคาสินค้าปรับสูงขึ้น รวมถึงตลาดการเงินที่ผันผวน ได้สร้างผลกระทบต่อค่าเงิน และเงินสำรองระหว่างประเทศ เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ ประเทศในโลก อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีเงินสำรองระหว่างประเทศที่เพียงพอจะรับมือสถานการณ์ในปัจจุบัน ตลอดจน ตลาดการเงินของไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง มีเสถียรภาพ รวมทั้งไทยยังมีศักยภาพ เป็นที่น่าสนใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศและนักลงทุนได้” นายอนุชาฯ...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
“รัฐบาล” ยัน เงินสำรองฯ ไทยแกร่ง อันดับ 12 ของโลก ที่ 2.4แสนล้านดอลลาร์“โฆษกรัฐบาล” เผย เงินสำรองระหว่างประเทศของไทยอยู่ในระดับสูง มากเป็นอันดับที่ 12 ของโลก แม้ลดลงจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ เป็นผลจากค่าเงินแข็ง ย้ำ ไม่พบสัญญาณเคลื่อนย้ายเงินทุนผิดปกติ อ่านต่อ: กรุงเทพธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลแจงเงินสำรองระหว่างปท.ลดเพราะตลาดเงินผันผวน ยันเสถียรภาพยังแข็งแกร่ง : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศปรับลดลง เป็นผลมาจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ พร้อมเน้นย้ำไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ เมื่อเทียบต่อ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ ทั้งนี้ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่ปรับลดลงจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ระดับ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ เป็นผลมาจากการตีมูลค่าเงินสำรองฯ ที่อยู่ในสินทรัพย์หลายสกุลเงินให้เป็นสกุลดอลลาร์ โดยเงินสกุลดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สินทรัพย์สกุลอื่น ๆ เมื่อตีมูลค่าเป็นรูปดอลลาร์มีมูลค่าลดลง ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินผันผวนสูงขึ้นจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และเป็นเหตุการณ์ปกติในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนสูง มูลค่าเงินสำรองฯ ก็จะผันผวนสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังยืนยันว่าไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และประเทศไทยยังมีฐานะทางการเงินที่ดี จากระดับเงินสำรองฯ ที่อยู่ประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีเงินสำรองฯ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก และเมื่อเทียบเงินสำรองฯ ต่อ GDP จะคิดเป็น 48% ของ GDP ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลก รวมถึงยังสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นของไทยถึงเกือบ …
อ่านเพิ่มเติม »
'โฆษกรัฐบาล' ยันตลาดการเงินของไทยยังแข็งแกร่ง-มีเสถียรภาพ'โฆษกรัฐบาล' เผย เงินสำรองระหว่างประเทศของไทยอยู่ในระดับสูงมากเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ชี้เหตุเงินสำรองฯลดมาจากตลาดการเงินที่ผันผวน ยืนยันตลาดการเงินของไทยยังแข็งแกร่ง-มีเสถียรภาพ วันที่ 18 ก.ย.65 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศปรับลดลง เป็นผลมาจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ พร้อมเน้นย้ำไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ เมื่อเทียบต่อ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่ปรับลดล
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลแจงเงินสำรองไทยลดจากตลาดเงินผันผวน ย้ำยังสูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลกนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศปรับลดลง เป็นผลมาจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ พร้อมเน้นย้ำไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ เมื่อเทียบต่อ GDP ยังสูง
อ่านเพิ่มเติม »