โกลด์แมนแซคส์ชูแนวโน้มเศรษฐกิจอินเดียแข็งแกร่ง สวนทางศก.โลกจ่อถดถอย อินเดีย เศรษฐกิจอินเดีย เศรษฐกิจโลก โกลด์แมนแซคส์ อินโฟเควสท์
นายเดวิด โซโลมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารโกลด์แมน แซคส์แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจอินเดียกำลังอยู่ในทิศทางการเติบโตที่สูงมาก โดยคาดว่าจะมีการขยายตัว 6-7% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
นายโซโลมอนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อีโคโนมิค ไทม์สในวันนี้ ว่า บรรดาซีอีโอทั่วโลกต่างก็มองว่า อินเดียมีโอกาสการเติบโตสูง ในขณะเดียวกันก็ประเมินความท้าทายเกี่ยวกับการลงทุนในอินเดีย นอกจากนี้ นายโซโลมอนยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมของเศรษฐกิจโลก โดยกล่าวว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐ สามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ แต่ขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกอาจจะขยายตัวเพียง 0-1% และเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 4% ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย
“มีสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลง และเป็นเรื่องยากที่จะเห็นเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 2% ในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยใหญ่ที่จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อเป็นวงกว้าง เช่น ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และการปรับเปลี่ยนของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ”หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐในเดือนมี.ค.
นายโซโลมอนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า วิกฤตการณ์ธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ และมีผลกระทบกับธนาคารเพียงไม่กี่แห่งที่มีโมเดลทางธุรกิจแบบเฉพาะเจาะจง แต่ระบบธนาคารในสหรัฐกำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เงินทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การควบรวมกิจการมากขึ้นในภาคธนาคาร
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ไถ่หลิง บริษัท EV จากจีนหนุนไทยส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า : อินโฟเควสท์พิธีเปิดโครงการส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบริการสาธารณะได้เปิดฉากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 มิถุนายน โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ได้จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และในโอกาสนี้ บริษัทไถ่หลิง (TAILG) จากประเทศจีน ได้มอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปมอบให้กับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับให้บริการสาธารณะในประเทศไทย ดร.มุชตัก เมมอน ผู้ประสานงานฝ่ายประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร สำนักงานเอเชีย แปซิฟิก โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ไถ่หลิงได้กลายมาเป็นพันธมิตรด้านการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้าของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติในปี 2561 และไถ่หลิงได้เปิดตัวโครงการนำร่องการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้าในกว่า 100 ประเทศ รวมถึงเคนยาและฟิลิปปินส์ ซึ่งช่วยสนับสนุนความพยายามของสหประชาชาติในการปรับปรุงคุณภาพอากาศและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ และเราเล็งเห็นว่ามีศักยภาพมากมายในการส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบริการสาธารณะในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ผู้แทนของกรุงเทพมหานครระบุว่า ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์จำนวนมหาศาล และด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ เช่น ไถ่หลิง คาดว่าประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนจากยานพาหนะที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงไปสู่ยานพาหนะไฟฟ้าในอีกไม่นานนี้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานสำหรับการเดินทางในเมืองและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน หวัง ซูถัง รองผู้อำนวยการศูนย์แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน (เซินเจิ้น) กล่าวว่า เซินเจิ้นและกรุงเทพฯ เป็นเมืองพี่เมืองน้องกัน ดังนั้นจึงควรเรียนรู้ซึ่งกันและกันและได้รับประโยชน์ร่วมกัน พร้อมกับเสริมว่าจะพยายามยกระดับความร่วมมือและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศต่าง ๆ ภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ตลอดจนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมระหว่างรัฐบาลไทย องค์กรระหว่างประเทศ และภาคธุรกิจ เกออร์ก ชมิดท์ เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย, กีต้า […]
อ่านเพิ่มเติม »
เมียนมาวอนทางการไทยจับกุมผู้ลี้ภัย เหตุพัวพันค้าอาวุธผิดกฎหมาย : อินโฟเควสท์สำนักข่าวอีเลฟเว่นของเมียนมารายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าวแม่สาย (Maessai News Agency) ในไทยว่า เมียนมาได้ขอให้ทางการไทยจับกุมตัวกลุ่มชาวเมียนมาที่ทำการค้าอาวุธและกระสุนปืนแบบผิดกฎหมาย และผู้ที่หลบหนีคดีเข้าสู่พรมแดนไทย ทั้งนี้ เมียนมาได้ขอให้ทางการไทยจับกุมผู้ที่หลบหนีและผู้ลี้ภัยเมียนมาในระหว่างการประชุมครั้งที่ 97 ของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมาที่โรงแรม 1G1 ณ จังหวัดท่าขี้เหล็กของรัฐฉาน ทางภาคตะวันออกของเมียนมาเมื่อวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแม่สายนิวส์รายงานด้วยว่า ทางการไทยได้ขอให้เมียนมาถอนค่ายทหาร 5 แห่งของกองทัพรวมแห่งรัฐว้า (UWSA) ที่ประจำอยู่บริเวณพรมแดนไทย – เมียนมา ยิ่งไปกว่านั้น ไทยและเมียนมาได้หารือเกี่ยวกับความมั่นคงภูมิภาคระดับทวิภาคีและกิจการทางกฎหมาย เพื่อป้องกันเหตุน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำแม่สายและติดตั้งเครื่องเตือนภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ ทางการเมียนมาและไทยได้หารือกันในอีกหลายประเด็น เช่น ความร่วมมือด้านการศึกษา สุขภาพ และกีฬาสำหรับหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนเมียนมา-ไทย รวมถึง การลักลอบขนส่งยานพาหนะด้วยการข้ามแม่น้ำแม่สายและปัญหาเรื่องการค้ายาเสพติดบริเวณอำเภอท่าขี้เหล็กและจังหวัดเชียงราย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
DOD เฮ! บ.ในเครือส่งสารสกัดกัญชง-กัญชาขายญี่ปุ่นใช้การแพทย์ ต่างชาติต่อคิวเข้าชมโรงงาน : อินโฟเควสท์นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ซึ่งบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชาและพืชสมุนไพรไทย ได้ผลิตสารสกัดกัญชง-กัญชา ให้กับกลุ่มพันธมิตรเครือข่าย อย่าง บริษัท แปซิฟิค แคนโนเวชั่น จำกัด (PACCAN) เพื่อส่งออกสารสกัดให้กลุ่มผู้ประกอบการทางการแพทย์ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปใช้กับกลุ่มลูกค้าเชิงการแพทย์เท่านั้น การส่งออกในครั้งนี้ถือว่า PACCAN ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรเครือข่าย DOD เป็นรายแรกของประเทศไทยที่มีการส่งออกสารสกัดไปประเทศญี่ปุ่น โดยกลุ่มสารสกัดที่ส่งออก ประกอบด้วย 1.กลุ่มสารสกัดทั้งหมดของกัญชง-กัญชา (น้ำมัน CBD (Cannabidiol) และ THC ( Tetrahydrocannabinol) และ 2. ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มน้ำมันกัญชาชนิดหยด หรือทิงเจอร์สำหรับหยดใต้ลิ้น ใช้สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน ผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับ และผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กินอาหารไม่ได้ เป็นต้น พร้อมกันนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มบริษัทผู้ประกอบยาเพื่อการแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย เข้ามาเยี่ยมชมโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชาของ SHT อย่างต่อเนื่อง […]
อ่านเพิ่มเติม »
สธ. ย้ำป้องกันตัวต่อเนื่อง-ฉีดวัคซีนประจำ แม้โควิดขาลง : อินโฟเควสท์กระทรวงสาธารณสุข เผย สถานการณ์โควิด-19 ในไทยแนวโน้มลดลง แต่ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป และยังไม่ได้รับวัคซีน ย้ำประชาชนยังต้องป้องกันตนเองต่อเนื่อง และพากลุ่ม 608 ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปี พร้อมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมถึงเด็กเล็ก 6 เดือน-5 ปี ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกรอบเดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตลดลง รวมทั้งพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนลดลงด้วย อย่างไรก็ดี ยังมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์) โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนยังคงมาตรการป้องกันตนเอง เมื่อเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมีกิจกรรมเสี่ยง เพราะอาจมีโอกาสได้รับเชื้อไม่รู้ตัวและนำไปแพร่ให้คนในบ้านได้ รวมทั้งสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และเด็กเล็ก […]
อ่านเพิ่มเติม »
หน่วยยามฝั่งสหรัฐเร่งสอบสวนสาเหตุเรือดำน้ำไททัน 'ถูกบีบอัดจนแหลก' : อินโฟเควสท์เจ้าหน้าที่ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (25 มิ.ย.) ว่า หน่วยยามฝั่งสหรัฐกำลังดำเนินการสืบหาสาเหตุที่ทำให้เรือดำน้ำท่องเที่ยว “ไททัน” ถูกแรงดันจากน้ำบีบอัดจนแหลก (implosion) จนคนบนเรือทั้ง 5 รายเสียชีวิตทั้งหมด ขณะดำลงไปดูซากเรือไททานิกอายุกว่าร้อยปี สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดาได้ระบุว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบกรณีการถูกบีบอัดอย่างรุนแรงของไททัน ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าการเที่ยวชมใต้น้ำในลักษณะนี้ขาดกฎระเบียบควบคุมใช่หรือไม่ กัปตันเจสัน นอยบาวเออร์ หัวหน้าผู้สืบสวนของหน่วยยามฝั่งสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวในบอสตันว่า “เป้าหมายหลักของผมคือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันซ้ำอีก ด้วยการให้คำแนะนำที่จำเป็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในเรื่องทางทะเลทั่วโลก” นายนอยบาวเออร์กล่าวว่า หน่วยยามฝั่งเปิดการสอบสวนของคณะกรรมการทางทะเลเมื่อวันศุกร์ (23 มิ.ย.) และกำลังทำงานร่วมกับเอฟบีไอเพื่อกู้คืนหลักฐาน รวมถึงปฏิบัติการกู้ซากเรือดำน้ำที่บริเวณก้นทะเล ซึ่งอยู่ห่างจากซากหัวเรือไททานิกประมาณ 488 เมตร และอยู่ลึกจากผิวน้ำประมาณ 4 กม. นายนอยบาวเออร์เสริมว่า ผลการสืบสวนครั้งนี้จะแจ้งให้กับองค์การการเดินเรือระหว่างประเทศและกลุ่มอื่น ๆ “เพื่อช่วยปรับปรุงกรอบความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติการใต้น้ำทั่วโลก” นอกจากนี้ นายนอยบาวเออร์กล่าวว่า หน่วยยามฝั่งติดต่อกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย และหน่วยสืบสวน “จะใช้ความระมัดระวังทั้งหมดในที่เกิดเหตุหากเราพบซากศพมนุษย์” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เกิดเหตุฟ้าผ่าในปากีสถาน ดับ 10 เจ็บ 6 เตือนปชช.ระมัดระวัง : อินโฟเควสท์เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเรสคิว 1122 (Rescue 1122) ซึ่งเป็นหน่วยงานกู้ภัยของปากีสถาน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 10 ราย และบาดเจ็บ 6 ราย จากเหตุการณ์ฟ้าผ่าในหลายพื้นที่ของแคว้นปัญจาบทางตะวันออกของปากีสถานเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) หน่วยงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตเมืองเชคุปุระ (Sheikhupura) และนโรวัล (Narowal) โดยสายฟ้าได้ผ่าลงมาใส่บ้านเรือนหลายหลัง หลังจากที่ฝนตกอย่างหนัก ทั้งนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกเคลื่อนย้ายไปรักษาตัวยังพื้นที่ใกล้เคียงเรียบร้อยแล้ว ขณะที่หน่วยกู้ภัยได้รับการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก นางเชอร์รี เรห์แมน รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของปากีสถาน ระบุผ่านทวิตเตอร์เมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า จะมีฝนตกก่อนฤดูมรสุมทั่วประเทศไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. โดยในช่วงเวลาดังกล่าวคาดว่าจะมีลมแรง ฟ้าร้อง และฝนตกหนักตามเมืองต่าง ๆ ของแคว้นปัญจาบ นอกจากนี้ นางเรห์แมนยังระบุอีกว่า ฝนที่ตกหนักก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับน้ำท่วมในเขตเมือง รวมถึงน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มในพื้นที่ภูเขา พร้อมเสริมว่า “ทางการขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่นเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตือนให้นักท่องเที่ยวระมัดระวัง รวมถึงขอให้ประชาชนอยู่ให้ห่างจากโครงสร้างพื้นฐานที่เปราะบาง เสาไฟฟ้า และแม่น้ำในช่วงที่มีลมกระโชกแรงและฝนตก เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุร้ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. […]
อ่านเพิ่มเติม »