แบงก์ชาติอินโดฯขึ้นดอกเบี้ย 0.5% แตะ 5.25% หวังคุมคาดการณ์เงินเฟ้อ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย เงินเฟ้อ เศรษฐกิจอินโดนีเซีย อินโฟเควสท์
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เพื่อควบคุมการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ และพยุงค่าเงินรูเปียห์
ทั้งนี้ BI มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน ระยะเวลา 7 วันในอัตรา 0.50% สู่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ นอกจากนี้ BI ยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายประเภทอื่น ๆ ในอัตราเดียวกัน ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้ ทำให้ BI ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งหมดแล้ว 1.75% นับตั้งแต่เดือนส.ค. ซึ่งเท่ากับวัฏจักรคุมเข้มทางการเงินครั้งก่อนในปี 2561
ด้านนายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการ BI ระบุว่า BI จะเพิ่มการรับมือด้านนโยบายการเงิน เพื่อลดระดับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
หุ้นเช้าปิดลบ 8.02 จุด ลดลง 1,084 หลักทรัพย์ตลาดหุ้นเช้าปิดลบ 8.02 จุด แตะ 1,621.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,108.10 ล้านบาท ลดลง 1,084 หลักทรัพย์ หุ้น ตลาดหุ้น หุ้นไทย เศรษฐกิจ iNNNews ไม่พลาดทุกเรื่องอินเทรนด์
อ่านเพิ่มเติม »
คิงส์ฟอร์ด เสียหายกว่า 300 ลบ.จากกรณี MORE ยันชำระราคาแล้ว-NCR ตามเกณฑ์ : อินโฟเควสท์บล.คิงส์ฟอร์ด ชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดจากรายการซื้อขายหลักทรัพย์ บล.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 10 พ.ย.65 บริษัทมียอดผิดนัดชำระราคาในหลักทรัพย์ MORE ของลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นรายเดียวกับโบรกเกอร์อื่นกว่า 11 โบรกเกอร์ โดยมียอดผิดนัดชำระราคาประมาณ 300 กว่าล้านบาท จากทั้งหมดประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยยอดดังกล่าวบริษัทชำระราคาให้กับ บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 และได้ร่วมมือกับสมาชิกในสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการไม่ปล่อยค่าขายหลักทรัพย์ MORE ตามเงื่อนไข ร่วมกับโบรกเกอร์ทั้งหมด โดยยอดผิดนัดชำระดังกล่าวไม่มีผลต่อการดำเนินกิจการและการบริการลูกค้าใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากบริษัทมีกำไรสะสม และมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ระดับ NCR ของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ปกติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทรัพย์สินของลูกค้าที่ฝากอยู่กับบริษัท เช่น เงินหรือหุ้น ถูกแยกเก็บไว้ในบัญชีต่างหาก ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของ สำนักงาน ก.ล.ต. …
อ่านเพิ่มเติม »
FBI กังวลจีนใช้ติ๊กต๊อกเป็นเครื่องมือสอดแนมข้อมูลพลเมืองสหรัฐ : อินโฟเควสท์นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันอังคาร (15 พ.ย.) ว่า เขามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการดำเนินงานของติ๊กต๊อกในสหรัฐ “เรามีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากกรณีของติ๊กต๊อก ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่ว่า รัฐบาลจีนอาจใช้ติ๊กต๊อกเป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐจำนวนหลายล้านคน หรือควบคุมการกำหนดอัลกอริทึม ซึ่งจะถูกใช้เพื่อการขยายอิทธิพล หากจีนเลือกที่จะทำ นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่าจีนจะควบคุมซอฟต์แวร์ที่ใช้กับอุปกรณ์หลายล้านตัว ซึ่งจะทำให้จีนมีโอกาสที่จะควบคุมอุปกรณ์ส่วนบุคคลได้ในทางเทคนิค” นายเรย์กล่าว สำนักซีเอ็นบีซีรายงานว่า การแสดงความเห็นของนายเรย์สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ของรัฐบาล รวมทั้งสมาชิกสภาคองเกรสที่ต่างก็ตั้งข้อสงสัยว่า ติ๊กต๊อกซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นของจีนจะสามารถปกป้องข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐไม่ให้ถูกกระทบจากรัฐบาลจีนได้หรือไม่ ขณะที่ติ๊กต๊อกยังคงยืนยันว่าไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้งานสหรัฐไว้ในจีนซึ่งเป็นประเทศที่กฎหมายอนุญาตให้รัฐบาลสามารถสั่งการให้บริษัทต่าง ๆ ส่งมอบข้อมูลภายในให้กับรัฐบาลได้ ทั้งนี้ นายเรย์กล่าวว่า เฉพาะกฎหมายของจีนเพียงอย่างเดียวก็ถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ FBI วิตกกังวลอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ นายเบรนแดน คาร์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการด้านการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FCC) ได้ออกมาสนับสนุนให้รัฐบาลสหรัฐแบนการใช้งานติ๊กต๊อก พร้อมกับเรียกร้องให้บริษัทแอปเปิลและกูเกิล ลบแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกออกจากแอปสโตร์ของทั้งสองบริษัท เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานชาวสหรัฐ “ตัวตนที่แท้จริงของติ๊กต๊อกไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น ไม่ใช่แค่แอปแชร์วิดีโอตลกขบขันหรือมีม แต่เป็นสุนัขป่าในคราบแกะ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ติ๊กต๊อกเป็นเครื่องมือสอดแนมที่ก้าวล้ำ ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่อ่อนไหวได้เป็นจำนวนมาก” นายคาร์กล่าว ทางด้านคณะกรรมการด้านการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐ (CFIUS) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐ กำลังทบทวนว่าติ๊กต๊อกปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความมั่นคงของสหรัฐหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากการที่ติ๊กต๊อกเป็นธุรกิจในเครือของไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทของจีน ทางด้านติ๊กต๊อกยังคงยืนย
อ่านเพิ่มเติม »
ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 107,910 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 107,910 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 49,458 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 2,885 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 3,838 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.31% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.07% ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-9 bps. ในทิศทางเดียวกับผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลในวันนี้รุ่น LB266A อายุ 3 ปี วงเงิน 30,000 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนของผลประมูลอยู่ที่ 2.1017% ต่ำกว่า Yield ตลาดของวันก่อนหน้า 4 bps. โดยมีผู้สนใจยื่นประมูล …
อ่านเพิ่มเติม »
ก.ล.ต.เผยไทย-ฮ่องกง ขยายข้อตกลงการเสนอขายกองทุนรวมระหว่างกันตามโครงการ HK-TH MRF : อินโฟเควสท์นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. และ SFC ฮ่องกง ยกระดับความร่วมมือภายใต้โครงการ HK-TH MRF โดยขยายประเภทกองทุนรวมที่สามารถเสนอขายระหว่างฮ่องกงและไทยได้ เพื่อเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนฮ่องกงและไทยมากขึ้น โดยจะมีผลตั้งแต่ 15 พ.ย. 65 เป็นต้นไป โครงการจัดการลงทุนระหว่างเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและไทย (Mutual Recognition of Funds between Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China and Thailand : HK-TH MRF) เกิดขึ้นจากบันทึกความเข้าใจ (MoU) ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ Securities and Futures Commission (SFC) ฮ่องกง ได้ร่วมลงนามเมื่อวันที่ 20 …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลท.พบฝั่งซื้อหุ้น MORE ผิดปกติจากรายเดียว-อายัดรายการต้องสงสัย-ยังไม่ชัดเจนปลด SP : อินโฟเควสท์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงความคืบหน้ากรณีความผิดปกติการซื้อขายหุ้น บมจ. มอร์ รีเทิร์น (MORE) เริ่มจากวันที่ 10 พ.ย.565 ราคาปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด +4.3% จากราคาปิดในวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งวันที่สูงมากถึง 7,143 ล้านบาท จากค่าเฉลี่ย 30 วันก่อนหน้าอยู่ที่เพียง 360 ล้านบาท/วัน ทั้งนี้ ในช่วงที่เปิดตลาด มีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ เกือบ 4,300 ล้านบาท ลักษณะของการส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติ คือ ฝั่งซื้อ พบว่า เป็นการส่งคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อเพียง 1 รายผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่งที่ราคา 2.90 บาท ฝั่งขาย พบว่า มีการส่งคำสั่งขายเป็นจำนวนมากจากผู้ขายหลายรายที่ระดับราคาใกล้เคียงกับราคาเสนอซื้อ โดยมีจำนวนที่สั่งขายตั้งแต่ประมาณ 70 ล้านหุ้น/ราย ไปจนถึงประมาณ 600 ล้านหุ้น/ราย ทันทีเมื่อเปิดตลาดได้เกิดการจับคู่ซื้อขายกับผู้ขายหลายรายผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่ง หลังจากนั้นภายในไม่ถึง 20 นาทีหลังเปิดตลาด ราคาได้ทยอยปรับตัวลงจนไปต่ำสุดที่ Floor ที่ราคา …
อ่านเพิ่มเติม »