แซดทีอีจับมือไชน่าโมบายล์และกว่างโจวเมโทรกรุ๊ป คว้ารางวัลนวัตกรรมมือถือยอดเยี่ยม นวัตกรรมมือถือ รถไฟฟ้า แซดทีอี อินโฟเควสท์
บริษัท แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น และบริษัทพันธมิตรอย่าง กว่างโจว เมโทร กรุ๊ป และ ไชน่า โมบายล์ สาขากว่างโจว คว้ารางวัล “นวัตกรรมมือถือยอดเยี่ยมสำหรับเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกัน” จากผลงานโครงการ รถไฟฟ้าใต้ดินอัจฉริยะ 5G ในกว่างโจวในงานประกาศรางวัลโกลบอล โมบายล์ อวอร์ดส์ หรือ โกลโม อวอร์ดส์ ที่งานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
โครงการรถไฟฟ้าใต้ดินดังกล่าวได้มีการรับประกันการแบ่งส่วนทรัพยากรเครือข่าย 5G, การยกระดับอัตราอัปลิงก์ 750 Mb/s, การรับประกันประสิทธิภาพมือถือความเร็วสูงที่ 160 กม./ชม.
ประชาชนกว่า 20 ล้านคนในกว่างโจวได้รับประโยชน์อย่างมากจากโครงการนี้ เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีสีสันมากขึ้น รวมถึงความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ 600 Mbps ในตู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน, การรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้น, การตรวจสอบสัมภาระที่รวดเร็วขึ้น, การผ่านเข้าสถานีเร็วขึ้นในชั่วโมงเร่งด่วน, คำแนะนำที่ละเอียดยิ่งขึ้น และอีกมายมาย
ทางด้าน ไช่ ฉางจวิน รองผู้จัดการทั่วไปบริษัท กว่างโจว เมโทร กรุ๊ป กล่าวว่า เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สามารถคว้ารางวัลนี้ร่วมกับพันธมิตรของเรา รถไฟฟ้าใต้ดินอัจฉริยะ 5G ช่วยยกระดับความชาญฉลาดและความยืดหยุ่นของสถานี ความปลอดภัยของรถไฟ และประสิทธิภาพการเดินรถไฟ ในอนาคต เราจะรับรองบริการรถไฟฟ้าใต้ดินอัจฉริยะ 5G+ มากขึ้น รวมทั้งสร้างสถาปัตยกรรมและมาตรฐานอุสาหกรรมสำหรับระบบรถไฟฟ้าใต้ดินอัจฉริยะ 5G และส่งเสริมการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี 5G+...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
MOSHI เป้ายอดขายปี 66 โต Double Digits กำลังซื้อฟื้นหนุน-นักท่องเที่ยวจีนคัมแบ็ค : อินโฟเควสท์นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 66 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก (Double Digits) “เราจะผลักดันการเติบโตต่อเนื่อง สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตในอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ในปัจจุบันกำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีนที่โหยหาการเดินทาง ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวเร็ว แรง และเติบโตสูง และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับสถานการณ์จับจ่ายในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดของธุรกิจค้าปลีก มีการจับจ่ายคึกคักที่สุดของปี เพราะคนไทยนิยมจัดปาร์ตี้สังสรรค์จับฉลากแลกของกัน การซื้อไปแจกและการซื้อสินค้ามอบให้แก่กัน ทำให้สินค้าร้านโมชิ โมชิ มักเป็นตัวเลือกของลูกค้าในเทศกาลปีใหม่ เทศกาลวันเด็ก และเทศกาลแห่งความรัก เรียกได้ว่าสินค้า Moshi Moshi เป็นสินค้าที่ผู้รับได้รับแล้วจะมีความสุขอย่างแน่นอน”นายสง่า กล่าว การเติบโตในปีนี้มาจาก 4 ส่วนธุรกิจ คือ 1.) การเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยตั้งเป้าเพิ่ม 2 Categories ใหม่ รวมถึงเพิ่มประเภทและรูปแบบของสินค้าให้สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น ทั้งนี้ สินค้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในร้าน Moshi Moshi เป็นสินค้าภายใต้ตราสินค้าบริษัทฯ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวก นลท.ประเมินข้อมูลเศรษฐกิจ-ฮ่องกงเลิกบังคับสวมหน้ากาก : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ (27 ก.พ.) ขณะที่ นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญทั่วภูมิภาค ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,541.40 จุด เพิ่มขึ้น 117.44 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 20,025.62 จุด เพิ่ม 82.11 จุด หรือ +0.41% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,260.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด หรือ +0.07% ฮ่องกงประกาศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป โดยถือเป็นการยุติยุคควบคุมโรคโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานหลายปี จนสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับฮ่องกงและบั่นทอนสถานะของศูนย์กลางการเงินโลกแห่งนี้ นายจอห์น ลี ผู้บริหารเกาะฮ่องกงแถลงในวันนี้ (28 ก.พ.) ว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไป ทั้งในพื้นที่กลางแจ้ง พื้นที่ในอาคาร หรือบนขนส่งมวลชน […]
อ่านเพิ่มเติม »
สหรัฐชี้จีนใช้ติ๊กต๊อกขยายอิทธิพลทั่วโลก เตรียมลงมติหามาตรการสกัดกั้น : อินโฟเควสท์นายไมค์ กัลลาเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันในรัฐวิสคอนซินเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (27 ก.พ.) ว่า จีนกำลังใช้ติ๊กต๊อก (TikTok) เพื่อขยายอิทธิพลไปทั่วโลก และควรจะถูกห้ามใช้ในสหรัฐ หรือจะต้องมีการขายกิจการติ๊กต๊อกให้กับบริษัทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่บริษัทของจีน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายกัลลาเกอร์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสภาชุดใหม่ที่มีหน้าที่ตรวจสอบจีน ได้เรียกร้องให้แยกเศรษฐกิจสหรัฐกับจีนออกจากกันอย่างเร่งด่วน และบ่งชี้ว่าการที่จีนกำลังพยายามขยายอิทธิพลมากขึ้นไปยังต่างประเทศนั้นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ความพยายามเหล่านั้นจะต้องถูกสกัดกั้น นายกัลลาเกอร์กล่าวว่า “นี่เป็นกลยุทธ์ กลวิธี และเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้เพื่อควบคุมประชาชนจีนในจีน ซึ่งกำลังถูกใช้เพื่อควบคุมชาวอเมริกันมากขึ้นเรื่อย ๆ” ทั้งนี้ นายกัลลาเกอร์ได้ผลักดันกฎหมายที่จะสั่งแบนติ๊กต๊อกของไบต์แดนซ์ หรือบังคับให้ไบต์แดนซ์ต้องขายกิจการติ๊กต๊อก ด้านนายไมเคิล แมคคอล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันจากเท็กซัส ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศเปิดเผยว่า ในวันนี้ (28 ก.พ.) คณะกรรมการฯ จะหารือและลงมติมาตรการต่าง ๆ ต่อติ๊กต๊อก พร้อมกับเตือนว่า ความพยายามห้ามใช้ติ๊กต๊อกจะเป็นความท้าทายต่อประเด็นด้านเสรีภาพในการพูด นายแมคคอลกล่าวว่า “ร่างกฎหมายของผมเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายบริหารที่จะสั่งห้ามใช้ติ๊กต๊อกหรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าติ๊กต๊อกเป็นภัยต่อความมั่นคง มันจะช่วยให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุมและตรวจสอบผู้ใช้งานขณะที่รวบรวมข้อมูลของชาวอเมริกันเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมมุ่งร้ายของพวกเขา” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE […]
อ่านเพิ่มเติม »
CSS แย้มปี 66 งานโทรคมนาคม-เทรดดิ้งดาวเด่นหนุนผลงานโตต่อเนื่อง : อินโฟเควสท์นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 66 เชื่อว่ายังคงเติบโตในทิศทางที่ดี เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ทั้งธุรกิจพลังงาน และธุรกิจเทรดดิ้ง ซึ่งปีนี้ประเมินว่าธุรกิจเทรดดิ้ง ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคม ยังได้รับอานิสงส์จากการลงทุนในโครงข่ายต่างๆ ที่สนับสนุนให้เห็นมูลค่าการลงทุนเข้าสู่ระบบมากขึ้น จึงมั่นใจว่าจะทำให้ CSS มีโอกาสได้รับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น บริษัทยังคงเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ และมีความมั่นคงในระยะยาว ส่วนงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคม และธุรกิจเทรดดิ้ง บริษัทพร้อมเข้าร่วมประมูลงานทุกโครงการ เพราะคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการผลักดันการเติบโตของธุรกิจและผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งภาพรวมของอุตสาหกรรมยังขยายตัวได้ดี เนื่องจากมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ภายในประเทศ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าและโครงการลงทุนในด้านระบบสาธารณูปโภคต่างๆ “ปีนี้ธุรกิจเทรดดิ้ง ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และน่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนภาพรวมของธุรกิจปีนี้ของ CSS น่าจะยังคงเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทฯได้รุกขยายงานในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งได้ยื่นประมูลโครงการใหม่เพิ่มเติม สนับสนุนทำให้มีงานในมือเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเชื่อว่าด้วยศักยภาพและประสบการณ์ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมมายาวนาน จะช่วยสนับสนุนให้มีโอกาสได้รับงานใหม่ๆมากขึ้นด้วย “นายสมพงษ์ กล่าว สำหรับภาพรวมผลดำเนินงานในงวดปี 65 บริษัทและบริษัทย่อย […]
อ่านเพิ่มเติม »
เกาหลีใต้เผยพื้นที่เพาะปลูกลดลง 10 ปีติดต่อกัน เหตุปชช.กินข้าวน้อยลง : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า พื้นที่เพาะปลูกของเกาหลีใต้ลดลงเป็นปีที่ 10 ติดต่อกันในปี 2565 ซึ่งมีปัจจัยมาจากการบริโภคข้าวที่น้อยลง รายงานระบุว่า เกาหลีใต้มีที่ดินทำกินรวม 1,528,237 เฮกตาร์ในปี 2565 ลดลง 1.2% จากปีก่อนหน้า และลดลงมาตั้งแต่ปี 2556 เนื่องมาจากการบริโภคข้าวที่ลดลงช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ท่ามกลางพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไป ประชากรเกาหลีใต้บริโภคข้าวเฉลี่ยลดลง 0.4% อยู่ที่ 56.7 กิโลกรัมในปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในปี 2505 ทั้งนี้ ขนาดของนาข้าวลดลง 0.6% ต่อปี เป็น 775,640 เฮกตาร์ในปี 2565 คิดเป็น 50.8% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด ส่วนทุ่งแห้งแล้งสำหรับการผลิตทางการเกษตรลดลง 1.8% เป็น 752,597 เฮกตาร์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
EKH, M-CHAI ร่วงฉุดลงเกือบทั้งกลุ่ม โบรกชี้เป้า 'สะสม' หุ้น รพ.มองพื้นฐานปีนี้ยังแกร่ง : อินโฟเควสท์ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลกอดคอร่วงยกแผง เมื่อเวลา 11.15% นำโดย M-CHAI ลบ 7.76% หรือลดลง 28.00 บาท มาที่ 333.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.21 ล้านบาท EKH ลบ 7.65% หรือลดลง 0.70 บาท มาที่ 8.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 148.25 ล้านบาท BCH ลบ 2.90% หรือลดลง 0.60 บาท มาที่ 20.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 173.19 ล้านบาท BH ลบ 1.87% หรือลดลง 4.00 บาท มาที่ 210.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 172.87 ล้านบาท PRINC ลบ 1.72% […]
อ่านเพิ่มเติม »