ตัวเลขการส่งออกเดือนมีนาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หดตัวถึงร้อยละ -10.9 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 การส่งออกกลับไปติดลบร้อยละ -0.2 ต่อปี ทั้ง ๆ ที่ทรงกำลังสวย บวกต่อเนื่องมาได้หลายเดือน กลับแหกโค้งพลิกคว่ำซะอย่างนั้น
เดือนมีนาคม หดตัวร้อยละ -5.1 ต่อปี เป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 ยาวนานกว่าวิกฤตช่วงไหน ๆ ของถัดมาอีก 1 วัน ผมจึงลุกขึ้นมาเขียนบทความนี้ เพราะวันนี้เราอาจจะกำลังตกอยู่ในช่วงหรือที่เขาเรียกว่า Technical Recession หรืออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขจัดผลของฤดูกาลแล้ว เป็นระยะเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกันผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ไตรมาส 1 หดตัวร้อยละ -3.7 ต่อปี
ถ้าดูรายเดือนติดลบต่อเนื่องยาวนาน 18 เดือน นานกว่าช่วงไหน ๆ ของวิกฤตเศรษฐกิจไทย คำถามตัวโต ๆ คือ เกิดอะไรขึ้นกับภาคอุตสาหกรรมไทย เราผลิตของยุคเก่า ขายโลกยุคใหม่ อย่างที่เขาว่าจริงหรือไม่ผลจากรถส้มแหกโค้งพลิกคว่ำเดือนมีนาคมที่การส่งออกสินค้าหดตัวสูงถึงร้อยละ -10.9 ต่อปี เฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกหดตัวถึงร้อยละ -12.3 ต่อปี ส่งออกไปตลาดต่าง ๆ เกือบทั้งหมดหดตัวลงเช่น ยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวร้อยละ -17.9 ต่อปี ยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวร้อยละ -10.
ฉากทัศน์ที่ไม่เลวร้ายมากนัก ส่วนคิดว่าเศรษฐกิจในไตรมาสแรกขยายตัวเป็นบวกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถ้าขจัดผลของฤดูกาลออก แล้วนำไปเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า คือไตรมาสก็ที่ 4 ปี 2566 ก็มีโอกาสสูงมากขึ้น ที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะติดลบ หมายความว่า เป็นไปได้ที่เราจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค และถ้าครั้งนี้เกิด จะถือเป็นครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์ หลังจากครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด 19 ซึ่งต้องมาลุ้นกันราว ๆ กลางเดือนนี้ ส่วนฉากทัศน์ที่แย่กว่านี้คงไม่ต้องพูดถึง
ส่งออก หนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจถดถอย กำลังซื้อ พงศ์นคร โภชากรณ์ คอลัมนิสต์ ตีโจทย์เศรษฐกิจ Economicwealth
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ช.การช่าง เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 4 ชุด อายุ 3 - 10 ปี ระหว่าง 3.40 – 4.10% ต่อปี เสนอขายประชาชนทั่วไป 2517 เมษายน 2567 : ช.การช่าง เคาะผลตอบแทนหุ้นกู้ 4 ชุด อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.61% ต่อปี อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.78% ต่อปี และอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี
อ่านเพิ่มเติม »
มัดรวม 6 ธนาคาร ประกาศขึ้นดอกเบี้ยกู้-ฝากเดือน ต.ค.66 พีคสุดรอบ 10 ปีตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.25% เป็น 2.5% ต่อปี โดยมีผลเมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 ถือเป็นการปร
อ่านเพิ่มเติม »
กรุงไทย ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.45%-เงินกู้ขึ้นเฉลี่ย 0.25%ธนาคารกรุงไทย ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0.10-0.45% ต่อปี และเงินกู้ 0.25% ต่อปี พร้อมดูแลลูกค้าให้สามารถปรับตัว
อ่านเพิ่มเติม »
กรุงศรีขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด0.30%พร้อมเงินกู้อีก0.25%มีผล6ต.ค.66กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราสูงสุด 0.30% ต่อปี คู่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม »
กรุงศรีฯ ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.30%-เงินกู้ขึ้น 0.25% มีผล 6 ต.ค. 66ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.30% ต่อปี และเงินกู้ MLR-MRR-MOR เฉลี่ยอยู่ที่ 0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566
อ่านเพิ่มเติม »
'ไอแบงก์' ตรึงกำไรสินเชื่อทุกประเภท ช่วยลูกค้า-ปชช.ทุกกลุ่ม เดินหน้าฟื้นฟูศก.ระดับโครงสร้างเพื่อความยั่งยืนดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ไอแบงก์เป็นหนึ่งในธนาคารของรัฐ และมีพันธกิจที่ชัดเจนในการสนับสนุนสินเชื่อและบริการทางการเงินตามหลักชะรีอะฮ์ให้กลุ่มลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SMEs และลูกค้ารายย่อย ไอแบงก์จะยังไม่ประกาศขึ้นอัตรากำไรสินเชื่อทุกประเภท ได้แก่ อัตรากำไรสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (SPR) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8.25% ต่อปี อัตรากำไรสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทสินเชื่อแบบมีกำหนดระยะเวลา (SPRL) อยู่ที่ 8.00% ต่อปี และอัตรากำไรสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (SPRR) อยู่ที่ 8.50% ต่อปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลต้นทุนท
อ่านเพิ่มเติม »