เวิลด์แบงก์ หั่น GDP ไทยปี 66 เหลือโต 3.6% ชมฟื้นเร็วแต่แพ้เวียดนาม เชียร์รัฐหารายได้เพิ่ม : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

เวิลด์แบงก์ หั่น GDP ไทยปี 66 เหลือโต 3.6% ชมฟื้นเร็วแต่แพ้เวียดนาม เชียร์รัฐหารายได้เพิ่ม : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 59 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 27%
  • Publisher: 68%

เวิลด์แบงก์ หั่น GDP ไทยปี 66 เหลือโต 3.6% ชมฟื้นเร็วแต่แพ้เวียดนาม เชียร์รัฐหารายได้เพิ่ม GDP ธนาคารโลก เวิลด์แบงก์ เวียดนาม เศรษฐกิจไทย อินโฟเควสท์

นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารโลก คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวได้ 3.4% ขณะที่ปี 66 จะขยายตัวได้ 3.6% ลดลงจากคาดการณ์เดิม 0.7% จากการชะลอตัวของอุปสงค์โลกที่เกิดเร็วกว่าที่คาด แต่ว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนยังเป็นปัจจัยบวกหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

ขณะที่ไตรมาส 3/65 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด ส่งผลให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถกลับไปสู่การเติบโตก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ได้เร็วขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยก็ยังตามหลังประเทศอื่นในอาเซียน เช่น เวียดนาม ที่มีการฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวเยอะที่สุดในภูมิภาค ซึ่งคาดว่าการท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาสู่ระดับปกติได้ในปี 67

ในปีหน้าคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะกลับมาเป็นบวก ขณะที่หนี้สาธารณะได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ที่ระดับ 61.

สำหรับการดำเนินมาตรการทางการคลังจะช่วยบรรเทาผลกระทบของวิกฤติที่มีต่อสวัสดิการของครัวเรือนได้อย่างมาก แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวก็คาดว่าความยากจนจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.6% ในปีนี้ จาก 6.

“เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้จ่าย ในขณะที่ยังมีความจำเป็นต้องปรับปรุงผลกระทบของนโยบายการคลัง ในด้านการกระจายความเท่าเทียม และเพิ่มศักยภาพทางการคลัง ดังนั้นการใช้จ่ายภาครัฐที่มีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งความพยายามในการเพิ่มการจัดเก็บรายได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ภาครัฐจำเป็นต้องดำเนินการ”ด้านนายฟาบริซิโอ ซาร์โคเน ผู้จัดการธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่เส้นทางการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงหลังจากการระบาดของโควิด-19...

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

สรรพากร ย้ำชัด! เก็บภาษีขายหุ้นแน่ เริ่มเดือนแรกพ.ค.66 : อินโฟเควสท์สรรพากร ย้ำชัด! เก็บภาษีขายหุ้นแน่ เริ่มเดือนแรกพ.ค.66 : อินโฟเควสท์นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักการยกเลิกการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่า ร่างกฎหมายจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ในเดือน ม.ค. 66 และเริ่มเก็บภาษีได้ในวันที่ 1 ของเดือนที่ 4 ถัดไป น่าจะเป็นวันที่ 1 พ.ค. 66 ซึ่งระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายไว้ระบุไว้ทุกอย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนการเว้นช่วงเวลา โดยไม่เก็บภาษีทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้นั้น เพราะต้องการให้โบรกเกอร์และผู้เกี่ยวข้องมีเวลาเตรียมระบบในการซื้อขายและการหักภาษี เพื่อนำส่งให้กรมสรรพากร โดยกรมสรรพากรเชื่อมั่นว่า ตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวได้ในไม่ช้า ไม่น่าเป็นห่วงอย่างที่นักลงทุนกังวลมากเกินไป ในการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะกรณีนี้ กฎหมายได้กำหนดให้สมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ (Broker) ที่เป็นตัวแทนของผู้ขายมีหน้าที่หักภาษีธุรกิจเฉพาะจากเงินที่ขายและยื่นแบบแสดงรายการภาษี และชำระภาษีในนามตนเองแทนผู้ขาย โดยผู้ขายไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีอีก อย่างไรก็ดี ในปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่มีการลดอัตราภาษีเหลือ 0.055% ต้นทุนดังกล่าวจะอยู่ที่ 0.195% ซึ่งใกล้เคียงกับของสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะยาว ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีดังกล่าวมามากกว่า 30 ปี ซึ่งการยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บภาษีในครั้งนี้ อาจส่งผลให้ต้นทุนการทำธุรกรรมในตลาดหลักทรัพย์ ของไทยสูงขึ้นจาก 0.17% เป็น 0.22% …
อ่านเพิ่มเติม »

ครม.ไฟเขียวแผนพัฒนาโลจิสติกส์ 66-70 มุ่งลดต้นทุนขนส่งสินค้า : อินโฟเควสท์ครม.ไฟเขียวแผนพัฒนาโลจิสติกส์ 66-70 มุ่งลดต้นทุนขนส่งสินค้า : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ระบบโลจิสติกส์เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประตูการค้าที่สำคัญในอนุภูมิภาคและภูมิภาค โดยขับเคลื่อนผ่าน 5 แนวทางการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ดังนี้ 1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น 1) สร้างโครงข่ายการเชื่อมโยงการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ระหว่างท่าเรือ รถไฟ ถนน และท่าอากาศยานอย่างครอบคลุม เชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่อุตสาหกรรม และด่านชายแดนสำคัญ 2) พัฒนาศูนย์บริการโลจิสติกส์และปรับปรุงด่านชายแดนที่สำคัญ 3) บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและศูนย์บริการโลจิสติกส์ 4) ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัล 2. ยกระดับมาตรฐานและเพิ่มมูลค่าโซ่อุปทาน เช่น 1) พัฒนาการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานภาคการเกษตร 2) พัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เหมาะสมต่อการเติบโตของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม 3) การดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 3. การพัฒนาพิธีการศุลกากร กระบวนการนำเข้า-ส่งออกที่เกี่ยวข้อง และการอำนวยความสะดวกในการขนส่งระหว่างประเทศ เช่น 1) พัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลและใช้ประโยชน์จากระบบ National Single Window (NSW) 2) …
อ่านเพิ่มเติม »

ต่อเวลา! ตรึงราคา LPG ถึงม.ค.66 ลดภาระค่าครองชีพ : อินโฟเควสท์ต่อเวลา! ตรึงราคา LPG ถึงม.ค.66 ลดภาระค่าครองชีพ : อินโฟเควสท์นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีการพิจารณาแนวทางการทบทวนการกำหนดราคา LPG เนื่องจากสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในปัจจุบันยังคงผันผวน โดย ณ วันที่ 29 พ.ย.65 อยู่ที่ 633.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ประมาณ 480 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 1,352 ล้านบาทต่อเดือน และฐานะกองทุนบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 43,883 ล้านบาท เข้าใกล้กรอบวงเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ที่ให้ติดลบได้ไม่เกิน 45,000 ล้านบาท โดยที่ประชุม มีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG …
อ่านเพิ่มเติม »

KISS จุดพลุนวัตกรรมใหม่-คอนเส็ปต์เด่นเห็นผลชัดหวังนั่งกลางใจสายความงามปี 66 : อินโฟเควสท์KISS จุดพลุนวัตกรรมใหม่-คอนเส็ปต์เด่นเห็นผลชัดหวังนั่งกลางใจสายความงามปี 66 : อินโฟเควสท์บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) กางแผนงานปี 66 ดันแบรนด์ Rojukiss เป็นอันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand) เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เน้นความโดดเด่นด้านนวัตกรรมและคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ใช้แล้วเห็นผลชัดเจนตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค พร้อมลงทุนทำการตลาดสร้างแบรนด์และโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น สำหรับกลุ่มสินค้า Sis2Sis จะมีการขยาย Portfolio ให้มีสินค้าที่หลายหลายมากขึ้น และพัฒนาการเติบโตในช่องทางอื่นๆ นอกเหนือจากช่องทาง CVS เพิ่มเติมด้วย ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Healthcare) นำโดยสเปรย์พ่นจมูก “VAILL COVITRAPTM Anti-CoV Nasal Spray” จากเทคโนโลยี Human Monoclonal Antibody ที่เป็นนวัตกรรมแรกของไทยและของโลก เพื่อดักจับและยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกายภาพ หลังจากเปิดตัวและได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 4/65 ไปแล้ว บริษัทได้รุกขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้นในปีหน้าด้วย ด้านตลาดต่างประเทศ บริษัทมองเห็นโอกาสการเติบโตอีกมาก ทั้งการส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เวียดนาม และการขาย Cross Border ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการหาโอกาสเติบโตในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม …
อ่านเพิ่มเติม »

โกลด์แมนแซคส์คาดจีนเปิดประเทศช่วยหนุน GDP ไทยขยายตัว 2.9% : อินโฟเควสท์โกลด์แมนแซคส์คาดจีนเปิดประเทศช่วยหนุน GDP ไทยขยายตัว 2.9% : อินโฟเควสท์โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการเปิดประเทศของจีน โดยขณะนี้ทางการจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และมีแนวโน้มที่จะเปิดประเทศในไม่ช้านี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์การส่งออกและการเดินทางระหว่างประเทศ ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งนำโดยนายหุย ชาน คาดการณ์ว่า การเปิดประเทศของจีนจะช่วยหนุนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยให้ขยายตัวราว 2.9%, หนุน GDP ฮ่องกงขยายตัว 7.6% และช่วยหนุน GDP สิงคโปร์ขยายตัว 1.2% โดยคาดว่าการที่จีนเปิดประเทศจะช่วยให้การส่งออกและรายได้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศเหล่านี้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การคาดการณ์ดังกล่าวของโกลด์แมน แซคส์ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า การเปิดประเทศของจีนจะช่วยหนุนอุปสงค์ภายในประเทศจีนให้ขยายตัว 5% และเป็นแรงผลักดันให้ทริปการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับเดียวกับในปี 2562 “การเปิดประเทศของจีนมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อการเดินทางระหว่างประเทศมากที่สุด รองลงมาคือช่วยสนับสนุนตัวเลขการนำเข้าสินค้าให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง” ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุ รายงานของโกลด์แมน แซคส์ยังระบุด้วยว่า การใช้จ่ายด้านการเดินทางของไทยจะมีส่วนช่วยสนับสนุนตัวเลข GDP ในอัตราส่วน 3% และการใช้จ่ายด้านการเดินทางของฮ่องกงจะเป็นปัจจัยหนุนตัวเลข GDP ในอัตราส่วน 6% พร้อมระบุว่า ผลกระทบเชิงบวกเหล่านี้อาจจะแข็งแกร่งขึ้นอีกหากความต้องการการเดินทางของชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่รัฐบาลจีนได้สั่งปิดพรมแดนเป็นเวลานานถึง 3 ปี นอกจากนี้ โกลด์แมน …
อ่านเพิ่มเติม »

รับกระแส EV มา อุตฯ ออกประกาศมอก.หนุนมาตรฐานดัดแปลงรถน้ำมันเป็นไฟฟ้า : อินโฟเควสท์รับกระแส EV มา อุตฯ ออกประกาศมอก.หนุนมาตรฐานดัดแปลงรถน้ำมันเป็นไฟฟ้า : อินโฟเควสท์นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เร่งรัดให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จัดทำมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าและที่เกี่ยวข้องออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ออกประกาศมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส หรือ มอก.เอส ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการของผู้ประกอบการ SMEs หรือวิสาหกิจชุมชนที่ต้องการเครื่องหมายการันตีสินค้าหรือบริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค จำนวน 2 มาตรฐาน ได้แก่ การบริการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าและการบริการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หลังผู้บริโภคให้ความสนใจเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันผู้บริโภคบางส่วนเลือกที่จะนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอยู่ไปดัดแปลงให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถไฟฟ้าคันใหม่ จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ หรือ อู่ซ่อมรถต่าง ๆ จำนวนหลายร้อยรายในประเทศ จะได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพการให้บริการ และมีเวลาปรับตัวเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และหากพัฒนาจนได้รับการรับรองมาตรฐานการบริการดัดแปลงรถไฟฟ้า ก็สามารถสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจดัดแปลงรถยนต์สันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV Conversion) ได้ นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรฐาน มอก.เอส การบริการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า และ มอก.เอส การบริการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ สมอ. กำหนดขึ้นนั้น เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะ มาตรฐานนี้จะครอบคลุมการบริการดัดแปลงรถเพื่อให้สามารถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเป็นเครื่องกำเนิดพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อน แต่ไม่ครอบคลุมถึงบริการทดสอบ …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-07 09:47:25