เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ทรุดหนัก โตเพียง 2.7% ในปีนี้ หากไม่รวมจีน : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ทรุดหนัก โตเพียง 2.7% ในปีนี้ หากไม่รวมจีน : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 25 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 13%
  • Publisher: 68%

เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ทรุดหนัก โตเพียง 2.7% ในปีนี้ หากไม่รวมจีน ธนาคารโลก เวิลด์แบงก์ เศรษฐกิจโลก อินโฟเควสท์

ธนาคารโลกออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเมื่อวันอังคาร โดยระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา หรือ EMDE ชะลอตัวลงอย่างหนักในปี 2565 โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นทั่วโลกและผลกระทบจากกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน

ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า หลังจากที่เศรษฐกิจกลุ่ม EMDE ชะลอตัวอย่างหนักในปี 2565 โดยมีการขยายตัวที่ 3.4% เมื่อเทียบกับการขยายตัวที่ 6.7% ในปี 2564 นั้น เศรษฐกิจในปีนี้ก็มีแนวโน้มทรงตัว แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมจีนแล้ว เศรษฐกิจกลุ่ม EMDE มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวอย่างรุนแรง รายงานระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ EMDE มีแนวโน้มย่ำแย่ลงในปี 2566 โดยธนาคารโลกได้ลดคาดการณ์การเติบโตลง 0.8% สู่ 3.4% โดยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอลงและภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

เกร็ดสนุกก่อนงาน “ลูกโลกทองคำ” เช้าวันพุธ 11 ม.ค.เกร็ดสนุกก่อนงาน “ลูกโลกทองคำ” เช้าวันพุธ 11 ม.ค.มิเชล โหย่ว เป็นทั้ง “ตัวเต็ง” และ “ตัวแทนหมู่บ้าน” ชาวเอเชียที่มีสิทธิ์ลุ้นรางวัล ลูกโลกทองคำ ในปีนี้, “แบรนเดน เฟรเซอร์” ไม่ขอเข้าร่วมงานทั้งที่มีชื่อเข้าชิงรางวัล ติดตามเกร็ดสนุกๆ ของงานลูกโลกทองคำ 2023 ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ อ่านต่อ:
อ่านเพิ่มเติม »

ผ่างบฯปี 67 ครม.เห็นชอบวงเงิน 3.35 ล้านล้าน รายจ่ายพุ่ง-ขาดดุล 5.9 แสนล้านผ่างบฯปี 67 ครม.เห็นชอบวงเงิน 3.35 ล้านล้าน รายจ่ายพุ่ง-ขาดดุล 5.9 แสนล้านเปิดงบประมาณรายจ่ายฯปี 67 ครม.เห็นชอบวงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น +5.18% ส่วนใหญ่มาจากรายจ่ายประจำ สวนทางกับรายได้ 2.7 ล้านล้านบาท ยังขาดดุลอยู่ที่ 5.9 แสนล...
อ่านเพิ่มเติม »

วันเด็กแห่งชาติ 2566 ย้อนความทรงจำ 'คำขวัญวันเด็ก' จากอดีตจนถึงปัจจุบันวันเด็กแห่งชาติ 2566 ย้อนความทรงจำ 'คำขวัญวันเด็ก' จากอดีตจนถึงปัจจุบันวันเด็กแห่งชาติ 2566 ย้อนความทรงจำ 'คำขวัญวันเด็ก' จากอดีตจนถึงปัจจุบัน วันเด็ก งานวันเด็ก งานวันเด็ก2566 วันเด็ก2566 งานวันเด็กแห่งชาติ วันเด็กแห่งชาติ วันเด็กแห่งชาติ2566 TNN TNNThailand TNNช่อง16 TNNONLINE
อ่านเพิ่มเติม »

ปมร้อน! ป.ป.ช.ลุยสางคดีจริยธรรมนักการเมือง-ป้ายสถานีบางซื่อ : อินโฟเควสท์ปมร้อน! ป.ป.ช.ลุยสางคดีจริยธรรมนักการเมือง-ป้ายสถานีบางซื่อ : อินโฟเควสท์พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนต่างๆ โดยเฉพาะจริยธรรมนักการเมืองและ ส.ส.ในช่วงใกล้เลือกตั้ง ว่า ขณะนี้มีการดำเนินการตามที่มีการส่งเรื่องเข้ามา เช่น กรณีการถือครองที่ดินเกี่ยวกับเอกสาร ภ.บ.ท.5 และ ส.ป.ก. ก็จะดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย และบางเรื่องจะส่งต้นสังกัดไปตรวจสอบถึงคุณสมบัติ โดยการไต่สวน หากข้อมูลไม่เพียงพอ ต้องส่งข้อมูลไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ถ้ากรณีใดเข้าข่ายละเมิดจริยธรรม ทาง ป.ป.ช.จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเช่นกัน “ป.ป.ช.ให้ความสำคัญกรณีผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ จะทำให้รวดเร็ว ถ้าเรียงตามลำดับก็จะใช้ระยะเวลานาน ดังนั้น ป.ป.ช.จะทำงานใน 2 ระบบ คือถ้ามีการส่งเรื่องมาที่เป็นเรื่องเก่า ก็เร่งรัดให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องใหม่ และกระทบกับประชาชน กระทบสังคม ป.ป.ช.ก็จะพยายามเร่งรัดและทำให้รวดเร็ว ถ้าเรื่องใดทำไม่ถูกต้อง” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว สำหรับกรณียื่นสอบการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ ที่มีวงเงินถึง 33 ล้านบาทนั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สังคมสนใจ โดยในขณะนี้ได้มีการขอข้อมูลไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หากทำรวดเร็วมากเกินไปอาจจะไม่รอบคอบ ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรม เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของการถูกกล่าวหา แต่ถ้าหากมีมูล มีพยานชัดเจน ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน […]
อ่านเพิ่มเติม »

จีนลงดาบบัญชีโซเชียลมีเดียวิจารณ์นโยบายโควิดของรัฐกว่า 1,000 บัญชี : อินโฟเควสท์จีนลงดาบบัญชีโซเชียลมีเดียวิจารณ์นโยบายโควิดของรัฐกว่า 1,000 บัญชี : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีเปิดเผยว่า จีนสั่งระงับหรือสั่งปิดบัญชีโซเชียลมีเดียที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการรับมือโควิด-19 ของรัฐกว่า 1,000 บัญชี หลังจีนเดินหน้าแผนเปิดประเทศ ซีน่า (Sina) บริษัทแม่ของเวยป๋อ (Weibo) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีนระบุว่า ได้จัดการกับการละเมิดกฎ 12,854 รายการ ซึ่งรวมถึงการวิจารณ์เชิงโจมตีเหล่าผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และบุคลากรทางการแพทย์ และสั่งแบนบัญชีโซเชียลมีเดีย 1,120 บัญชีที่เกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราวหรือถาวร ทั้งนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนพึ่งพาชุมชนทางการแพทย์อย่างมากในการหาเหตุผลเพื่อสนับสนุนการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด การกักตัว และการปูพรมตรวจเชื้อ ซึ่งมาตรการเกือบทั้งหมดนี้ถูกยกเลิกอย่างกะทันหันเมื่อเดือนก่อน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากจนทรัพยากรทางการแพทย์ถึงขีดจำกัด อย่างไรก็ตาม ทางพรรคฯ ไม่อนุญาตให้มีการวิพากษ์วิจารณ์โดยตรงและกำหนดขอบเขตที่เข้มงวดในการแสดงความคิดเห็น บริษัทซีน่า ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า ทางบริษัท “จะเดินหน้าเพิ่มการตรวจสอบและกวาดล้างเนื้อหาที่เข้าข่ายกระทำผิดทุกรูปแบบ และสร้างชุมชนที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานส่วนใหญ่” ทั้งนี้ เสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ข้อจำกัดการเดินทางแบบไม่กำหนดเกณฑ์ล่วงหน้า ทำให้ผู้คนถูกกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลาหลายสัปดาห์ บางครั้งไม่มีอาหารหรือการดูแลทางการแพทย์ที่เพียงพอ นอกจากนี้ ประชาชนยังแสดงความไม่พอใจต่อข้อกำหนดที่ระบุว่า ใครก็ตามที่อาจมีผลตรวจเป็นบวกหรือเคยสัมผัสกับบุคคลดังกล่าว จะต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมักมีเสียงวิจารณ์ถึงความแออัด รวมถึงอาหารและสุขอนามัยที่ไม่ดี โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

พร้อมใช้! จ่ายบิลหน่วยงานรัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์กว่า 700 รายการ : อินโฟเควสท์พร้อมใช้! จ่ายบิลหน่วยงานรัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์กว่า 700 รายการ : อินโฟเควสท์น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ได้พัฒนาระบบการรับชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ หรือ e-Payment Portal of Government ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการรับชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (National e-Payment Master Plan) เพื่อผลักดันให้ระบบการชำระเงินของประเทศไทย เข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร โดยเพิ่มช่องทางการให้บริการรับชำระเงินจากประชาชน หรือภาคธุรกิจ ให้แก่ส่วนราชการด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และลดต้นทุนในการทำธุรกรรมระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทางการเงินการคลังของส่วนราชการให้มีความถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส และตรวจสอบได้ ตลอดจนสามารถนำส่งเงินรายได้เข้าคลังได้อย่างรวดเร็ว โดยเริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 และปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบให้สามารถครอบคลุมหน่วยงานมากขึ้น น.ส.กุลยา กล่าวว่า ระบบการรับชำระเงินกลางฯ เป็นระบบกลางในการรับชำระเงินรายได้ หรือเงินอื่นจากประชาชนหรือภาคธุรกิจให้แก่ส่วนราชการ โดยส่วนราชการสามารถออกใบแจ้งการชำระ (Bill Payment) เพื่อให้ผู้รับบริการ (ประชาชนและภาคธุรกิจ) นำไปชำระเงินผ่านช่องทางที่กำหนด เช่น Mobile Banking และ Internet Banking หรือชำระเงินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต และเมื่อผู้รับบริการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะออกใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-23 07:22:49