เลือกตั้ง'66: รทสช. เล็งจุดปราศรัยให้ 'ลุงตู่' ส่วนเวทีดีเบตให้ตัดสินใจเอง พรรครวมไทยสร้างชาติ รทสช เลือกตั้ง อินโฟเควสท์
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า การลงพื้นที่หาเสียงช่วงสงกรานต์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ นั้นจะพิจารณาลงพื้นที่เอง แต่ถ้าเป็นช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทางพรรคจัดวาระให้ลงพื้นที่อยู่แล้ว โดยให้ทางพื้นที่เป็นผู้แจ้งกำหนดการว่าจะให้ไปจุดไหนบ้าง แต่จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของการขึ้นเวทีปราศรัยแต่ละภาคด้วย โดยมีพื้นที่เป้าหมายอยู่ทุกภาค ส่วนการขึ้นเวทีดีเบตนั้นตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับแต่เรื่องและความเหมาะสม โดย พล.อ.
“ถ้าเราเริ่มต้นเข้ามาด้วยการที่คิดถึงแต่ส่วนตัว เราจะบริหารประเทศไม่ได้ และจะทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ได้ ฉะนั้น พล.อ.
“ไม่ใช่ว่าได้ไปหมด มันมีทั้งได้ และเสีย ไม่ใช่ว่าได้อันนี้แล้วได้ทุกอย่าง เพราะถ้าได้อันนี้มันต้องไปตัดอีกเยอะ ที่สำคัญได้จริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ และรูปแบบของเงินในลักษณะดังกล่าวทำให้กระทบต่อภาวะความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ ในเรื่องค่าเงินบาทอะไรต่างๆ ด้วยหรือไม่ อันนี้ต้องพิจารณา ซึ่งก็แล้วแต่พรรค เราไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เพราะแต่ละพรรรคก็มีแนวทางของเขา” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ส.ส. กทม. รวมไทยสร้างชาติเยือนเนชั่น กรุ๊ป เอกณัฏ ชี้คะแนนลุงตู่ไม่ได้ตกต่ำเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำผู้สมัคร สส.กทม. 33 เขต ของพรรค เยือนสื่อในเครือเนชั่นทีวี โครงการ Road To Future เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง 66 : นพ.ชลน่าน ซัด “ลุงตู่” ตัวการนำฝุ่น PM 2.5 เข้ามาในไทย“หมอชลน่าน” ชี้ เชียงใหม่ เชียงราย ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุเกิดจากปัญหารัฐบาล ส่งเสริมของบริษัทยักษ์ใหญ่ ให้ประเทศเพื่อนบ้านปลูกข้าวโพดจำนวนมาก เลือกตั้ง2566 ฝุ่นพิษ ข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: 'สมชัย' แนะ กกต.เร่งวินิจฉัยปมนโยบายประชานิยม : อินโฟเควสท์นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สรท.) กล่าวถึงนโยบายหาเสียงแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยว่า การที่เลขาธิการคณะกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่าการหาเสียงใช้เงินงบประมาณสามารถทำได้ ไม่เข้าข่ายเป็นการสัญญาว่าจะให้ ยิ่งจะทำให้ทุกพรรคเสนอนโยบายโดยเอาตัวเลขมาเกทับกันไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณยิ่งขึ้น ซึ่งการตีความนโยบายดังกล่าว เลขาธิการ กกต.ไม่มีสิทธิมาพูดก่อนล่วงหน้า ควรเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องพิจารณา โดย กกต.ควรเร่งวินิจฉัยกรณีนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ เพราะหากวินิจฉัยล่าช้า กกต.จะถูกประชาชนมองว่าวางตัวไม่เป็นกลาง เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นกับ กกต.ชุดที่ 2 ที่ศาลตัดสินจำคุกกรณีพรรคใหญ่เอื้อพรรคเล็ก เพราะวินิจฉัยให้พรรคใหญ่สนับสนุนพรรคเล็กส่งผู้สมัคร เพื่อแก้ปัญหาจำนวนการใช้สิทธิของประชาชน อย่างไรก็ตาม กกต.เองก็มีข้อจำกัดเรื่องการวิเคราะห์ เพราะไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจมหภาค ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่ กกต.จะประสานกระทรวงการคลัง หรือสำนักงบประมาณ ในการวิเคราะห์ว่านโยบายประชานิยมที่พรรคการเมืองนำเสนอทำได้จริงหรือไม่ รวมทั้งอยากให้ในการนำเสนอนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง คำนึงถึงกฎเกณฑ์การตั้งงบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีและวินัยการเงินการคลัง ส่วนพรรคการเมืองที่มีนโยบายใช้จ่ายเงินงบประมาณและต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 57 ที่กำหนดให้มีการชี้แจงที่มาของเงิน วงเงินที่จะใช้ และวิเคราะห์ความคุ้มค่าและความเสี่ยงของนโยบายดังกล่าวนั้น มาตรานี้ไม่ได้มีบทลงโทษที่รุนแรงจนทำให้พรรคการเมืองเกิดความเกรงกลัว พรรคการเมืองยังคงจะคิดว่าสามารถที่จะเขียนให้ครบตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »