เลือกตั้ง'66: กทม.ติด CCTV เฝ้าหีบบัตรเลือกตั้ง เล็งเสนอ กกต.ใช้ AI ช่วยอ่านคะแนน : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

เลือกตั้ง'66: กทม.ติด CCTV เฝ้าหีบบัตรเลือกตั้ง เล็งเสนอ กกต.ใช้ AI ช่วยอ่านคะแนน : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 37 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 18%
  • Publisher: 68%

เลือกตั้ง'66: กทม.ติด CCTV เฝ้าหีบบัตรเลือกตั้ง เล็งเสนอ กกต.ใช้ AI ช่วยอ่านคะแนน CCTV กกต กทม กรุงเทพมหานคร นับคะแนน หีบบัตรเลือกตั้ง เลือกตั้ง อินโฟเควสท์

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความพร้อมของ กทม.ในการสนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. 66 และการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66 ทางกทม.ได้จัดเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ได้แก่

– ด้านบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง นายทะเบียนท้องถิ่นเขตได้ทำการประกาศ และติดประกาศให้ประชาชนตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนวันที่ 18 เม.ย. 66 พร้อมมีหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปให้เจ้าบ้านทราบแล้ว ก่อนวันที่ 23 เม.ย. 66 ส่วนมาตรการเสริมที่ กทม. พร้อมจะดำเนินการ คือ การดูแลหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยสำนักงานเขตติดตั้งกล้อง CCTV และติดตัวตรวจจับความเคลื่อน ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีการเคลื่อนไหวระบบก็จะแจ้งเตือนมายังเจ้าหน้าที่ทันที ขณะนี้ได้เชื่อมกล้องครบแล้วทั้ง 33 จุด จากทั้งหมด 33 เขตเลือกตั้งด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กกต. มีการถ่ายรูปใบรายงานผลการนับคะแนน ที่แปะอยู่หน้าหน่วยอยู่แล้ว ในขณะที่ กทม.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

กทม.เตรียมทดสอบ AI นับคะแนน 'เลือกตั้ง 66' และ CCTV ดูแลหีบบัตรลงคะแนนกทม.เตรียมทดสอบ AI นับคะแนน 'เลือกตั้ง 66' และ CCTV ดูแลหีบบัตรลงคะแนนกทม. เตรียมทดสอบระบบ AI นับคะแนน 'เลือกตั้ง 66' พร้อมติดกล้อง CCTV ตรวจจับความเคลื่อนไหว เฝ้าระวังการเก็บหีบบัตรลงคะแนนล่วงหน้า ชัชชาติ กทม เลือกตั้งล่วงหน้า นับคะแนน เลือกตั้ง66 คมชัดลึกออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: 'พิธา' พลิกขึ้นนำโด่งนายกฯ จากผลสำรวจ นิด้าโพล โค้งสุดท้าย : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: 'พิธา' พลิกขึ้นนำโด่งนายกฯ จากผลสำรวจ นิด้าโพล โค้งสุดท้าย : อินโฟเควสท์นิด้าโพล แถลงผลสำรวจความเห็นต่อศึกเลือกตั้ง 66 ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้าย บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พลิกขึ้นมานำโด่ง 35.44% ตามมาด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย 29.20% พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 14.84% ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตเบอร์ 2 ของพรรคเพื่อไทยได้ 6.76% ส่วนอันดับ 5 บอกว่ายังพาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 3% สำหรับพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นส.ส.แบบแบ่งเขต พรรคเพื่อไทย 38.32% พรรคก้าวไกล 33.96% พรรครวมไทยสร้างชาติ 12.08% พรรคประชาธิปัตย์ 4.28% พรรคภูมิใจไทย 2.92% และ ยังไม่ตัดสินใจ 1.68% พรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 37.92% พรรคก้าวไกล 35.36% พรรครวมไทยสร้างชาติ 12.84% พรรคประชาธิปัตย์ 3.32% และพรรคภูมิใจไทย 2.36% […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: 'อุ๊งอิ๊ง' ลั่นพร้อมลุยหาเสียงมุ่งสู่แลนด์สไลด์ ย้ำไม่เอา พปชร.-รทสช.แม้ไม่ใช่มติพรรค : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: 'อุ๊งอิ๊ง' ลั่นพร้อมลุยหาเสียงมุ่งสู่แลนด์สไลด์ ย้ำไม่เอา พปชร.-รทสช.แม้ไม่ใช่มติพรรค : อินโฟเควสท์น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เปิดแถลงข่าวกลางโรงพยาบาลภายหลังคลอดบุตรชายคนที่ 2 เพื่อประกาศความพร้อมนำลูกพรรคหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ ขณะที่ยืนยันความชัดเจนว่าจะไม่รวมรัฐบาลกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลงประชารัฐ ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ทวิตอยากกลับบ้าน ยังไม่มีกำหนดแน่นอน แต่แค่ต้องการมาเลี้ยงหลาน ไม่ใช่กลับมาเป็นนายกฯ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายพร้อมขึ้นทุกเวทีดีเบต และลงพื้นที่ โดยเฉพาะในวันที่ 12 พงค.นี้จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคอย่างแน่นอน กลยุทธ์ของพรรคจะเดินหน้าย้ำเรื่องนโยบายของพรรคต่อไป เพื่อให้ประชาชนเห็นว่านโยบายต่างๆจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ พร้อมลุยเต็มที่ เพราะสิ่งที่ทำได้อย่างเดียว คือการนำเสนอตัวเองให้ประชาชนตัดสินใจ ซึ่งทุกคนในพรรครวมถึงแคนดิเดตทุกคนก็เดินหน้าเต็มที่ ส่วนใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งสามคนพร้อมหมด และตนเองพร้อมที่เป็นนายกรัฐมนตรี และยังมั่นใจในพรรคที่จะนำไปสู่แลนสไลด์ได้ “อิ้งพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี…มั่นใจในแลนสไลด์ เลือกเพื่อเปลี่ยน”นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงกระแสความนิยมของนายพิธร ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่วนผลโพลล่าสุดออกมาว่าคะแนนของพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นสูงขึ้นมาไล่บี้พรรคเพื่อไทยและกระแสนี้อาจทำให้เป้าหมายแลนด์สไลด์สะดุดนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ผลโพลจากที่ต่างๆ บางแหล่งเชื่อถือได้ บางแหล่งไม่น่าเชื่อถือ ประชาชนคงต้องใช้วิจารณ์พิจารณาจากนโยบายของพรรคที่นำเสนอออกมา เราต้องเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนจริงๆ ต้องเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ ซึ่งทุกพรรคทำเต็มที่ พรรคเพื่อไทยก็ทำเต็มที่เหมือนกัน “เราลำบากมา 8-9 ปีแล้ว เราจะไม่รอแล้ว เราต้องแลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนประเทศจริงๆ […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: 'เศรษฐา' ชูทางออกสั้น-ยาวแก้ค่าไฟแพง ย้ำรัฐบาลเพื่อไทยพร้อมลดทันที : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: 'เศรษฐา' ชูทางออกสั้น-ยาวแก้ค่าไฟแพง ย้ำรัฐบาลเพื่อไทยพร้อมลดทันที : อินโฟเควสท์นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ในประเด็นค่าไฟฟ้า โดยสรุปว่า ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ประชาชนอาจมีความกังวลบิลค่าไฟที่แพงขึ้น ประกอบกับค่าพลังงาน ที่ส่งผลต่อค่าครองชีพของภาคธุรกิจที่ต้นทุนสูงขึ้น จากการบริหารพลังงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลปัจจุบัน ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการบริหารพลังงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูง และต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาสูงเข้ามาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเป็นปริมาณมาก ในช่วงเปลี่ยนผ่านสัมปทานการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในพื้นที่อ่าวไทยจาก บริษัท เชฟรอน ทำให้ผลิต LNG น้อยลงกว่าที่เคยทำได้ และต้องนำเข้าในราคาสูงมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า รัฐบาลชุดนี้รู้อยู่แล้วแต่กลับไม่ได้เร่งต่อรองกับกัมพูชาเพื่อขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะมีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นจะลดราคาค่าไฟทันที และตรึงราคาค่าไฟในระยะยาว ระหว่างนั้นจะเร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา ควบคู่กับเจรจาลดค่าความพร้อมของโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่ได้จ่ายไฟฟ้าด้วย “ถ้าเรามีโอกาสได้ดำเนินนโยบาย ทุกภาคส่วนจะมีค่าไฟฟ้าที่ลดลง ค่าใช้จ่ายลดลง ประชาชนมีเงินเหลือมากขึ้น เอกชนมีกำไรมากขึ้น สินค้ามีราคาที่ถูกลง ทำให้แข่งขันกับประเทศอื่นทั่วโลกได้ เมื่อรวมเข้ากับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเสริมกัน ทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นตามที่พรรคเพื่อไทยได้ตั้งไว้” นายเศรษฐา กล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: ทีดีอาร์ไอชำแหละนโยบายหาเสียงหมกเม็ด เสี่ยงก่อหนี้ท่วม : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: ทีดีอาร์ไอชำแหละนโยบายหาเสียงหมกเม็ด เสี่ยงก่อหนี้ท่วม : อินโฟเควสท์สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เผยนโยบายหาเสียงเกือบทุกพรรคน่าจะทำให้มีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจนขาดดุลงบประมาณอย่างมากในช่วง 4 ปีข้างหน้า นอกจากจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วยังอาจทำให้เศรษฐกิจขาดเสถียรภาพเพราะขยายตัวในระดับที่ร้อนแรงเกินไป ภายใต้สภาพที่ความเสี่ยงของเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ (demand-pull inflation) ยังไม่ผ่อนคลายและอาจเร่งตัวขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้เงินเฟ้อด้านอุปทาน (supply-side inflation) ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จากการที่พลังงานมีราคาเพิ่มสูงขึ้นจะผ่อนคลายไปแล้วก็ตาม หากเงินเฟ้อขยับสูงขึ้นต่อเนื่องจนไม่สามารถควบคุมได้จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ถูกบังคับให้ต้องปรับสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของธุรกิจและซ้ำเติมภาวะหนี้ครัวเรือนซึ่งอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว ซึ่งทำให้กลุ่มเปราะบางที่พรรคการเมืองต้องการช่วยเหลือกลับได้รับผลกระทบในด้านลบ โดยข้อมูลที่พรรคการเมืองรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มี 4 พรรคที่ต้องใช้งบประมาณมากในระดับ 1 ล้านล้านบาท ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย 1.9 ล้านล้านบาท, พรรคเพื่อไทย 1.8 ล้านล้านบาท, พรรคก้าวไกล 1.3 ล้านล้านบาท และพรรคพลังประชารัฐ 1 ล้านล้านบาท แต่ข้อมูลที่พรรคการเมืองนำเสนอต่อประชาชนยังไม่สมบูรณ์ เช่น 1.บางพรรคการเมืองหาเสียงโดยใช้นโยบายที่ไม่ปรากฏอยู่ในรายการนโยบายที่รายงานต่อ กกต.ทั้งที่หลายนโยบายก่อให้เกิดภาระทางการเงินสูงมาก จึงเป็นการให้ข้อมูลต่อประชาชนไม่ครบถ้วนอย่างมีนัยสำคัญ 2.หลายพรรคการเมืองอ้างที่มาแหล่งของเงินว่ามาจากการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ในปัจจุบันใหม่ โดยไม่ให้รายละเอียดว่าจะตัดลดส่วนใดและจะมีโอกาสได้เม็ดเงินจากการตัดลดมาใช้ในการดำเนินนโยบายที่เสนอมากเพียงใด ทำให้ประชาชนไม่เห็นผลกระทบอย่างครบถ้วน กล่าวคือเห็นแต่สิ่งที่จะได้รับแต่ไม่เห็นสิ่งที่ต้องสูญเสียไป เช่นเดียวกันกับบางพรรคการเมืองระบุว่าจะมีรายได้มาจากภาษีเพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ระบุว่าจะมาจากภาษีใด จัดเก็บจากกลุ่มเป้าหมายใด และจะมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับรายได้ตามเป้าหมายเพียงใด 3.ทุกพรรคการเมืองระบุแหล่งที่มาของเงินรายนโยบายโดยไม่ได้แสดงภาพรวม ทำให้ไม่เห็นภาพรวมของความพอเพียงของแหล่งเงิน […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66:เพื่อไทย ลั่นเป็นรัฐบาลให้เอาบัตรคนจนแปะข้างฝา : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66:เพื่อไทย ลั่นเป็นรัฐบาลให้เอาบัตรคนจนแปะข้างฝา : อินโฟเควสท์นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาททันทีในปีหน้า และภายใน 4 ปี ค่าแรงจะปรับขึ้นเป็น 600 บาท สำหรับเงินเดือนปริญญาตรีจะปรับขึ้น 25,000 บาทภายในระยะเวลา 4 ปี เช่นเดียวกัน สำหรับราคาพืชผลทางการเกษตรถือเป็นเรื่องสำคัญ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นโยบายนี้มีคนบอกว่าเราทำไม่ได้ จะผิดกฎหมาย ขออย่าเชื่อ ขอให้พี่น้องเชื่อใจ พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น “พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายยกเลิกบัตรคนจน แต่เรามั่นใจว่าบัตรคนจนจะหมดไป เมื่อพี่น้องร่ำรวยขึ้น ให้พี่น้องเอาบัตรคนจนแปะข้างฝา ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ดูต่างหน้าว่าเขาตราหน้าว่าเราเป็นคนจน แต่พรรคเพื่อไทย จะทำให้พี่น้องเราหลุดพ้นจากความเป็นคนจน” นายเศรษฐา กล่าวปราศรัยที่จังหวัดสกลนคร ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐาได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า เป้าหมายของการสร้างรถไฟฟ้าเปลี่ยนไปจากเดิมที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้ แต่รถไฟฟ้ากลายเป็นระบบขนส่งของของชนชั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น จากค่าบริการที่คิดเป็น 22% ของค่าแรงต่อวัน […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-22 12:02:45