เลือกตั้ง'66: กกต.ย้ำข้อพึงระวังหาเสียงช่วงสงกรานต์ โทษหนักถึงยุบพรรค : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

เลือกตั้ง'66: กกต.ย้ำข้อพึงระวังหาเสียงช่วงสงกรานต์ โทษหนักถึงยุบพรรค : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 48 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 23%
  • Publisher: 68%

เลือกตั้ง'66: กกต.ย้ำข้อพึงระวัง หาเสียง ช่วง สงกรานต์ โทษหนักถึงยุบพรรค เลือกตั้ง66 เลือกตั้ง2566 อินโฟเควสท์

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เน้นย้ำเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทำความผิดกฎหมายตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561

โดยได้กำหนดกรอบระยะเวลาการให้ปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ และข้อห้ามในการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.พรรคการเมือง รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และหน่วยงานของรัฐ จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษปรับหรือจำคุก เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ตลอดทั้งการยุบพรรคการเมือง สำหรับข้อห้ามที่พึงระวังกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่น จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด รวมทั้ง ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นใด

ตลอดทั้งทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ และการเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด โดยผู้สมัครและพรรคการเมืองจะต้องพึงระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมถึงข้าราชการ อย่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเป็นคุณเป็นโทษต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมือง เนื่องจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่ก็อาจจะเกี่ยวกับความไม่เป็นกลางทางการเมืองด้วย

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

เลือกตั้ง'66: กกต.สรุปยอดลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 2.3 ล้านคน : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: กกต.สรุปยอดลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 2.3 ล้านคน : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร ในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.66 หลังเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.66 จนถึงวันที่ 9 เม.ย.66 มีจำนวนผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งสิ้น 2,350,969 ราย โดยสามารถจำแนกของการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ดังนี้ 1.การลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง จำนวน 2,216,950 คน ลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,156,578 คน ลงทะเบียน ณ สำนักทะเบียนอำเภอ เขต หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น จำนวน 60,372 คน 2.การลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง จำนวน 18,880 คน ลงทะเบียน ณ สำนักทะเบียนอำเภอ เขต หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น จำนวน 18,880 คน 3.การลงทะบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จำนวน 115,139 คน ลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 109,442 คน […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: 'ศรีสุวรรณ' ร้อง กกต.สอบเงินดิจิทัลเพื่อไทย ขัด พ.ร.บ.เงินตรา : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: 'ศรีสุวรรณ' ร้อง กกต.สอบเงินดิจิทัลเพื่อไทย ขัด พ.ร.บ.เงินตรา : อินโฟเควสท์นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่จะแจกเงินดิจิทัล ซึ่งล่าสุดมีการชี้แจงว่าไม่ใช่คริปโทเคอเรนซี่ แต่เป็นคูปองหรือเหรียญว่าจะขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ. 2501 หรือไม่ การที่พรรคเพื่อไทย ยืนยันเป็นเงินดิจิทัลแสดงว่าพรรคพยายามที่จะฉีกตัวหนีจากฎหมาย พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เมื่อจะหนีกฎหมายก็อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ. 2501 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เพราะในมาตรา 9 กำหนดชัดเจนว่าห้ามผู้ใดใช้ หรือแจกจ่าย หรือให้วัตถุอันมีค่าเป็นทรัพย์สิน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเหรียญหรือคูปอง จึงเห็นว่าพรรคเพื่อไทยกำลังสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.เงินตรา จึงขอให้ กกต.ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัย หากเข้าข่ายผิด ก็ขอให้ กกต. สั่งระงับการดำเนินการนโยบายนี้เป็นการด่วน เพราะตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 22 ให้อำนาจ กกต. โดยเฉพาะนายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องรีบแจ้งไปยังพรรค ในสิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือขัดรัฐธรรมนูญ หรือระเบียบ กกต. “ผมจับจุดได้ว่า เมื่อเขาปฎิเสธว่าเงินดิจิทัลไม่ใช่คริปโทเคอเรนซี่ เพราะถ้ายอมรับว่าเป็นคริปโทฯ จะต้องทำตาม พ.ร.ก.การประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลปี […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: อดีต กกต.แนะขยายเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าชดเชยระบบล่ม : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: อดีต กกต.แนะขยายเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าชดเชยระบบล่ม : อินโฟเควสท์นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สรท.) และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีระบบลงทะเบียนล่วงหน้าล่ม เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ กกต.ต้องชดเชยกรณีเสียสิทธิให้เร็ว กกต.มีหน้าที่ต้องทำให้ประชาชนทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้งและปรารถนาจะเลือกตั้งสามารถเข้าถึงการใช้สิทธิได้อย่างสะดวก การชดเชยสามารถทำได้ เหมือนกรณีการเลือกตั้งที่กำหนดเวลาไว้จนถึง 17.00 น.แต่หากบางพื้นที่เกิดเหตุอะไรบางอย่างแล้วทำให้เสียเวลาในการเลือกตั้งก็สามารถชดเชยให้กับผู้เลือกตั้งได้ หรือกรณีประชาชนไปใช้สิทธิช่วงใกล้ปิดหีบเจ้าหน้าที่ กกต.ทำไม่ทันก็ให้ลงทะเบียนไว้ก่อนแล้วให้ลงคะแนนเลยเวลา ส่วนการชดเชยจะกำหนดเวลาในสัดส่วนเดียวกับที่เกิดปัญหาระบบล่ม แต่ต้องเผื่อว่ากรณีที่มีการเปิดใหม่เพิ่มเติม ระบบจะไม่ล่มอีกหรือไม่ อาจจะต้องใช้เวลานานในการลงทะเบียน ส่วนตัวเสนอให้เปิด 1 วันเต็มๆ น่าจะดีที่สุด ซึ่งจะทำให้มีคนมาลงทะเบียนใช้สิทธิมากขึ้น นายสมชัย กล่าวว่า หาก กกต.ไม่ขยายเวลาประชาชนสามารถร้องเรียนได้ว่า กกต.ละเมิดสิทธิประชาชน ไม่ทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ ประเด็นนี้อาจจะมีคนร้องได้ แต่ผลของการร้องจะเป็นอย่างไรอาจจะเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องว่ากัน ขณะนี้ประชาชนวิจารณ์การทำงานของ กกต.หลายเรื่อง ดังนั้น กกต.ต้องทบทวนตัวเอง ให้ประชาชนว่าประชาชนตั้งใจทำงาน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: 'สมชัย' แนะ กกต.เร่งวินิจฉัยปมนโยบายประชานิยม : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: 'สมชัย' แนะ กกต.เร่งวินิจฉัยปมนโยบายประชานิยม : อินโฟเควสท์นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สรท.) กล่าวถึงนโยบายหาเสียงแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยว่า การที่เลขาธิการคณะกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่าการหาเสียงใช้เงินงบประมาณสามารถทำได้ ไม่เข้าข่ายเป็นการสัญญาว่าจะให้ ยิ่งจะทำให้ทุกพรรคเสนอนโยบายโดยเอาตัวเลขมาเกทับกันไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณยิ่งขึ้น ซึ่งการตีความนโยบายดังกล่าว เลขาธิการ กกต.ไม่มีสิทธิมาพูดก่อนล่วงหน้า ควรเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องพิจารณา โดย กกต.ควรเร่งวินิจฉัยกรณีนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ เพราะหากวินิจฉัยล่าช้า กกต.จะถูกประชาชนมองว่าวางตัวไม่เป็นกลาง เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นกับ กกต.ชุดที่ 2 ที่ศาลตัดสินจำคุกกรณีพรรคใหญ่เอื้อพรรคเล็ก เพราะวินิจฉัยให้พรรคใหญ่สนับสนุนพรรคเล็กส่งผู้สมัคร เพื่อแก้ปัญหาจำนวนการใช้สิทธิของประชาชน อย่างไรก็ตาม กกต.เองก็มีข้อจำกัดเรื่องการวิเคราะห์ เพราะไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจมหภาค ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่ กกต.จะประสานกระทรวงการคลัง หรือสำนักงบประมาณ ในการวิเคราะห์ว่านโยบายประชานิยมที่พรรคการเมืองนำเสนอทำได้จริงหรือไม่ รวมทั้งอยากให้ในการนำเสนอนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง คำนึงถึงกฎเกณฑ์การตั้งงบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีและวินัยการเงินการคลัง ส่วนพรรคการเมืองที่มีนโยบายใช้จ่ายเงินงบประมาณและต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 57 ที่กำหนดให้มีการชี้แจงที่มาของเงิน วงเงินที่จะใช้ และวิเคราะห์ความคุ้มค่าและความเสี่ยงของนโยบายดังกล่าวนั้น มาตรานี้ไม่ได้มีบทลงโทษที่รุนแรงจนทำให้พรรคการเมืองเกิดความเกรงกลัว พรรคการเมืองยังคงจะคิดว่าสามารถที่จะเขียนให้ครบตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: 'เศรษฐา' พร้อมแจง กกต. ยันนโยบายเงินดิจิทัลทำได้จริง : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: 'เศรษฐา' พร้อมแจง กกต. ยันนโยบายเงินดิจิทัลทำได้จริง : อินโฟเควสท์นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ยืนยันนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น สามารถทำได้จริง เป็นนโยบายที่ตรงใจประชาชน และไม่มีปัญหาต่อฐานะการเงินการคลังของประเทศ เพราะทีมเศรษฐกิจของพรรคได้คิดมาอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตือนให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงรายละเอียดของนโยบายนี้โดยตลอดนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า กกต. ทำไปตามหน้าที่ ไม่ได้พุ่งเป้าที่จะเอาผิดพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเคารพต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ทั้งนี้ หากจะให้นำนโยบายนี้ไปเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองอื่น ก็คงจะไม่ใช่แนวทางของตนเอง หากลองศึกษานโยบายดูจะพบว่าในบางพรรคการเมืองใช้เงินค่อนข้างมาก เช่น กรณีจ่ายเงิน 700 บาทต่อเดือน ให้ผู้มีสิทธิกว่า 20 ล้านคน ก็ใช้งบประมาณกว่า 8 แสนล้านบาทแล้ว “การให้แบบนี้ เป็นการให้แบบหยอดน้ำข้าวต้ม แต่ของพรรคเพื่อไทย เป็นการให้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ หลังประชาชนเดือดร้อนกันมานาน” นายเศรษฐา กล่าว แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะเดินสายพบปะประชาชน และชี้แจงนโยบายพรรคให้ประชาชนได้รับทราบ พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นเพื่อนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการประชาชน โดยมั่นใจว่าทุกนโยบายฝ่ายกฎหมายจะสามารถชี้แจงกับ กกต.ได้ และเมื่อได้เข้าไปเป็นรัฐบาลแล้ว จะสามารถเดินหน้านโยบายได้โดยไม่มีอุปสรรค และทันต่อที่เคยประกาศไว้ว่าจะเริ่มต้นนโยบายได้ทันทีต้นปี 2567 แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการประกาศรับรอง […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-26 03:53:57