เลือกตั้ง'66: 9 พรรคโชว์วิสัยทัศน์พัฒนาตลาดทุน-เก็บภาษีหุ้น อินโฟเควสท์
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ทาบทามทีมเศรษฐกิจ 9 พรรคการเมือง ร่วมประชันนโยบายขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย ภายใต้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาตินายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค กล่าวถึง แนวนโยบายเศรษฐกิจของพรรคว่า จะเน้นส่งเสริมกลไกลตลาดที่นำไปสู่การแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม นำสู่นโยบายที่เสนอรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจหลายๆเรื่อง...
นายสันติ กล่าวว่า รัฐบาลเวลามองไปที่ตลาดทุน มองด้วยความไม่เข้าใจ จึงอยากให้ผู้บริหารเข้าใจกลไกตลาดทุน เพื่อออกนโยบายได้ถูกต้อง และอยากเห็นคนที่เข้าในตลาดหลักทรัพย์เป็นธุรกิจใหม่ๆมากขึ้นม.ล.
ทั้งนี้ ม.ล.ชโยทิต กล่าวว่า หากพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาล จะเก็บภาษีกำไรขายหุ้น แต่ไม่เก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้น นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงนโบายของพรรคว่า จะเสนอการลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการสร้างพลังคนตัวเล็กให้เกิดความเข้มแข็ง ด้วยการแก้ไขกฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ 1,400 ฉบับ ลดการบังคับชั่วคราว โดยออกพ.ร.ก.
ผลิตภัณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ต้องตามให้ทัน สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในตลาดสุขภาพและเรื่อง BCG รวมถึงตลาดคริปโตต้องตามให้ทัน โจทย์สำคัญ คือทำอย่างไรเอาระบบไฟฟ้า มาสร้างพลังให้กับประชาชน แนวทางที่หนึ่ง ทำให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เอง ในเมืองคือ โซล่าร์รูฟท๊อป และหนึ่งอบต. หนึ่งโรงไฟฟ้า ถือว่า เป็นการปฏิวัติการผลิตไฟฟ้าครั้งใหญ่
สำหรับโครงการที่ประสบปัญหาและยื่นกู้จากสถานบันการเงิน ในความเห็นของตน ถ้าโครงการไหนเป็นการกู้ก่อนใหม่ แต่ไม่ใช้ไปชำระหนี้ก้อนเก่า และธนาคารให้ปล่อยกู้ได้ ตนอยากเสนอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ค้ำประกันในสัดส่วนประมาณ 60-70% เป็นเวลา 1 ปี
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เลือกตั้ง'66: 'อรรถวิชญ์' เผยศาลปกครองสูงสุดรับคำร้องแบ่งเขตเลือกตั้งกทม. : อินโฟเควสท์นายอรรถวิชญ์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ขัดต่อมาตรา 17 ของ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ว่า ศาลปกครองสูงสุดรับคำร้องปมการแบ่งเขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 เป็นคดีดำหมายเลข ฟ.16/2566 สืบเนื่องจากการแบ่งเขตเลือกตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ มี 13 เขตเลือกตั้ง จาก 33 เขตเลือกตั้ง ที่ผิดปกติ เนื่องจากไม่มีอำเภอหลัก (สำนักงานเขต) ทำให้เขตเลือกตั้งเดิมหาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “กกต.อ้างเรื่องส่วนต่างราษฎรแต่ละเขตเลือกตั้งไม่เกิน 10% ตามระเบียบ กกต.ซึ่งเป็นกฎหมายหมายรอง แต่ไม่ยึดตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 17 ที่ให้ยึดอำเภอหลัก” นายอรรถวิชญ์ กล่าวกับ “อินโฟเควสท์” นายอรรถวิชญ์ กล่าวว่า แนวทางการพิจารณาของศาลปกครองจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง 7 วัน ซึ่งเชื่อว่าศาลจะเร่งพิจารณาในเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้หากล่าช้าออกไปจะเกิดความเสียหาย เพราะพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครจะต้องดำเนินการเรื่องการทำไพรมารี่โหวต การสั่งพิมพ์แผ่นป้ายหาเสียง “ความเสียหายจะเกิดขึ้นทุกวันหากล่าช้าออกไป ซึ่งคิดว่า กกต.ไม่น่าจะฝืนทำอย่างนี้ เพราะกฎหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งต้องรอดูว่าศาลจะดำเนินการอย่างไร […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: กำหนดวันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร 29 มี.ค. จัดระบบป้องกันปัญหาบัตรตกหล่น : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดการเลือกตั้งสำหรับคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้เตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ปี 2566 นอกราชอาณาจักร โดยสถานทูตและสถานกงสุลจะประกาศสถานที่ลงคะแนน วันเวลา และสถานที่ลงคะแนนในวันที่ 29 มีนาคมนี้ คาดว่า จะเปิดให้คนไทยในต่างประเทศเริ่มลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งภายในสิ้นเดือนมีนาคม ทั้งนี้ การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร กฎหมายกำหนดให้สถานทูตและสถานกงศุลจะต้องจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรก่อนการเลือกตั้งภายในประเทศไม่น้อยกว่า 7 วัน สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดทำระบบเรียลไทม์ Oversea Voting Monitoring System หรือ OVMS เพื่อติดตามการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่การจัดอบรม การไปใช้สิทธิ รวมถึงการส่งถุงเมล์ทางการทูต ซึ่งระบบ OVMS ช่วยป้องกันปัญหาบัตรตกหล่นอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: 'สุวัฒน์ ม่วงศิริ' ทิ้งพปชร.ซบปชป. ร่วมพี่น้องสู้เลือกตั้งฝั่งธน : อินโฟเควสท์นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งนายสากล นายสาทร นายสารัช และน.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ร่วมกันต้อนรับ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ซึ่งได้ลาออกจากพลังประชารัฐ (พปชร.) มาสมัครสมาชิกประชาธิปัตย์แบบตลอดชีพ และเสนอตัวลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร นายสุวัฒน์ กล่าวถึงสาเหตุของการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า เพื่อให้ตระกูลม่วงศิริไม่ต้องส่งผู้สมัครลงแข่งขันกันเอง ซึ่งจะกระทบต่อความเป็นปึกแผ่นของตระกูลม่วงศิริ และฐานเสียงของประชาชนเกิดความยากลำบากในการตัดสินใจ การที่ตนเข้ามาอยู่ในทีมเดียวกันอยู่พรรคเดียวกันจะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ประกอบกับการที่ กกต. เพิ่งมีการแบ่งเขตอย่างกระชั้นชิด ก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญ “เขตเลือกตั้งมีความซับซ้อนกัน และแทนที่จะเห็นตระกูลม่วงศิริส่งผู้สมัครแข่งขันกันเอง แต่จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากกว่าหากตนมาอยู่ร่วมกับทีมเดียวกัน และยังทำให้ประชาชนง่ายต่อการตัดสินใจ ส่วนเรื่องการร่ำลานั้นหลังจากที่มีความชัดเจนแล้วตนก็ได้บอกกล่าวกับผู้ใหญ่ พร้อมกับขอนัดหมายเข้ากราบลาท่านด้วยตัวเองแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ สำหรับผู้สมัครบางท่านที่สนิทตนก็ได้ปรึกษาหารือ และเมื่อตนได้ตัดสินใจชัดเจนแล้วก็ได้ติดต่อกลับไปแจ้งให้ทราบแล้ว” นายสุวัฒน์ กล่าว นอกจากนี้ยังเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ยั่งยืนและมีความสำคัญในการบริหารประเทศชาติ นายเฉลิมชัย กล่าวภายหลังมอบเสื้อและมอบบัตรสมาชิกให้กับนายสุวัฒน์ ว่า พรรคได้สมาชิกครอบครัวตระกูลม่วงศิริเข้ามาร่วมในการลงสมัครผู้แทนในเขต 26 โดยหลังจากการแบ่งเขตของ กกต.แล้ว ทำให้ผู้สมัครของพรรคที่วางตัวไปแล้วมีความจำเป็นต้องปรับให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ จากการพูดคุยกับนายสากล นายสาคร นายสามารถ ม่วงศิริ ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นอดีต […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: รวมไทยสร้างชาติติวเข้ม-เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ : อินโฟเควสท์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดสัมมนาให้ความรู้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 400 เขต เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการลงพื้นที่หาเสียงตามแนวทางเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีตัวแทนจาก กกต. เดินทางมาให้ความรู้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เดินทางมาร่วมสัมมนากันอย่างพร้อมเพรียง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้กล่าวเปิดการสัมมนาว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ได้จัดกิจกรรมร่วมกับสมาชิกพรรคที่พร้อมจะลงเลือกตั้ง และขอให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ขยันลงพื้นที่พบปะประชาชนให้มากที่สุด เชื่อว่าความขยันและความตั้งใจจะสามารถเอาชนะทุกสิ่ง และเมื่อสามารถเข้าเป็นส.ส.ได้แล้วก็ต้องขยันเดินลงพื้นที่ไม่น้อยกว่าช่วงหาเสียงด้วยเช่นกัน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนผ่านการต่อสู้มา 8 สมัย อยู่ในการเมืองมา 31 ปี ผ่านการเลือกตั้งที่ไม่เคยมีกฎเกณฑ์กติกาที่มากเหมือนในปัจจุบัน และมั่นใจว่าหลายคนในที่นี้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว เคยผ่านกฎเกณฑ์กติกาของ กกต. แต่ขอให้เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์กติกาหลายเรื่อง ดังนั้นถ้าไม่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้แม้จะได้รับคะแนนสูงสุดหรือชัยชนะในการเลือกตั้งและเข้าไปทำงานให้กับประชาชน แต่อาจถูกปรับให้แพ้เพราะอาจจะมีการทำผิดกฎเกณฑ์กติกาได้ จึงขอให้ทำความเข้าใจตามกิจกรรมที่พรรคได้จัดขึ้นมานี้ รวมทั้งให้ดูฝ่ายตรงข้ามว่าทำผิดกติกาหรือไม่ และขอให้ระวังการถูกกลั่นแกล้ง ขณะเดียวกันในวันนี้ คาดว่าจะมีการเปิดตัวแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรค 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์ด้วย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 66) Facebook […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: 'สุพัฒนพงษ์' สวมเสื้อรทสช.ลงปาร์ตี้ลิสต์ สานต่อคนละครึ่ง-ช้อปดีมีคืน-เราเที่ยวด้วยกัน : อินโฟเควสท์นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังร่วมเปิดตัวเป็น 1 ในทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า จะรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับพรรค โดยมี มล.ชโลทิต กฤดากร เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค และพร้อมที่จะลงส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพรรค สำหรับการเปิดตัวนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคนั้น ได้ทยอยเปิดมาแล้ว โดยจะไม่เน้นการให้ในลักษณะเหวี่ยงแห แต่จะให้แบบมุ่งเป้า สำหรับกลุ่มที่จำเป็น และเชื่อเหลืออย่างเป็นระบบ ซึ่งเมื่อเกิดวิกฤตก็ใช้เงินอย่างเหมาะสม ให้กับกลุ่มคนที่เดือดร้อนที่สุด จึงออกมาในรูปแบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ทำให้ประชาชนดำรงชีวิตได้ระดับหนึ่ง ก่อนที่จะมีเวลาหายใจทำมาหากิน สร้างรายได้ต่อไป ซึ่งพรรคเติมเรื่องของโอกาสให้ไปเรื่อยๆ เน้นการส่งเสริมในธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่เน้นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ส่วนวิธีการจะออกมารูปแบบใด ม.ล.ชโยทิต จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (24 มี.ค.) สิ่งที่พรรคจะดำเนินการคือ เตรียมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยตนพร้อมที่จะแก้ไขและตั้งทีมขึ้นมาดูแลโดยตรง ซึ่งมีแนวทางไว้หมดแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือการหารายได้เข้าประเทศ ทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจต่อการลงทุนและประกอบธุรกิจในประเทศอย่างถูกกฏหมาย ซึ่งเรื่องนี้ม.ล.ชโยทิต ได้ดำเนินการตลอด 2 ปีที่ผ่าน ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงว่า ไม่ได้ทำ แต่ทั้งหมดได้ทำแล้ว และจะทำต่อไป พร้อมกันนี้ นายสุพัฒนพงษ์ ยืนยันว่า โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: พปชร.ดึง 'บิ๊กแอ๊ด พล.อ.ธรรมรักษ์' เสริมแกร่งภาคอีสาน : อินโฟเควสท์พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค และนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม และ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยการทาบทามจากผู้บริหารของพรรค เพื่อที่จะให้มาช่วยในพื้นที่อีสานสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะถือว่ามีความชำนาญและมีประสบการณ์ ซึ่งจะทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็ง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ธรรมรักษ์ ที่มาร่วมงานกับพรรค ต้องนับว่าเป็นบุญคุณอย่างยิ่ง ถึงแม้จะอายุมากแต่ไม่ได้มีความสำคัญเทียบเท่ากับสมอง ด้านนายสันติ กล่าวว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ จะเข้ามาร่วมในคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การเมือง ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ทางการเมือง เข้าใจปัญหาของประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งจะนำไปสู่การวางกลยุทธ์ในการหาเสียงพื้นที่ต่างๆ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้วางมือทางการเมืองไปแล้ว แต่ในเมื่อ พล.อ.ประวิตร ให้เกียรติมาเชิญไปร่วมทำงานจึงตอบตกลง รวมถึงตนมีแนวคิดที่ตรงกับนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงการสร้างความปรองดอง เพราะคนไทยเกิดความแตกแยก มีความเหลื่อมล้ำสูง ซึ่งตลอดชีวิตรับราชการตนได้ทำโครงการเกี่ยวกับการสร้างความสามัคคี เรื่องนโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ […]
อ่านเพิ่มเติม »