เปิดทรัพย์สิน 'จิรายุ-จุลพันธ์-ศุภชัย-สินิตย์' หลังพ้นส.ส. รวยขึ้น การเมือง บัญชีทรัพย์สิน ปปช สส หนี้สิน อินโฟเควสท์
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 จำนวน 47 ราย โดยมีบุคคลสำคัญ ได้แก่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย แสดงบัญชีฯ พร้อมแจ้งสถานะโสด แต่มีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย 2 คน ว่ามีทรัพย์สินรวม 204.01 ล้านบาท หนี้สินที่เป็นเงินกู้ 4.86 ล้านบาท
หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเข้ารับตำแหน่งจะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 161.27 ล้านบาท จากเดิม 42.27 ล้านบาท ส่วนหนี้สินลดลง 4.56 ล้านบาท จากเดิม 9.42 ล้านบาทนายจุลพันธ์ อมรวิวฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย แสดงบัญชีฯ พร้อมคู่สมรสแต่ไม่เปิดเผยชื่อ และบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย 1 คน ว่ามีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 73.34 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินของนายจุลพันธ์ 54.69 ล้านบาท ส่วนคู่สมรสมีทรัพย์สิน 18.65 ล้านบาท
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง แสดงบัญชีฯ พร้อมกับคู่สมรส นางพูนสุข โพธิ์สุ ว่ามีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 58.03 ล้านบาท และหนี้สิน 5.7 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินของนายศุภชัย 33.33 ล้านบาท หนี้เงินกู้ 5.7 ล้านบาท ส่วนคู่สมรสมีทรัพย์สิน 24.69 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเข้ารับตำแหน่งจะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 17.63 ล้านบาท จากเดิม 40.40 ล้านบาท ส่วนหนี้สินลดลง 4.69 ล้านบาท จากเดิม 10.39 ล้านบาทนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ แสดงบัญชีฯ พร้อมกับคู่สมรส น.ส.เยาวลักษณ์ จันทร์หุ่น และบุตรสาวฝาแฝด 2 คน ว่ามีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 219.83 ล้านบาท หนี้สิน 80.44 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินของนายสินิตย์ 29.89 ล้านบาท หนี้เงินกู้ 4.41 ล้านบาท ส่วนคู่สมรสมีทรัพย์สิน 187.51 ล้านบาท หนี้เงินกู้ 76.04 ล้านบาท และบุตรสาวฝาแฝดมีทรัพย์สิน 2.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เปิดเซฟ “ศุภชัย โพธิ์สุ” ทรัพย์สิน 58 ล้าน หนี้ 5 ล้านป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กรณีพ้นจาก ส.ส. ทรัพย์สิน 58 ล้าน อ่านต่อ : PPTVHD36 PPTVNews ช่อง36 ครบทุกข่าวเข้าใจคอกีฬา บัญชีทรัพย์สิน เปิดบัญชีทรัพย์สิน ปปช บัญชีทรัพย์สินศุภชัย ศุภชัยโพธิ์สุ
อ่านเพิ่มเติม »
TOPICSTODAY: ส.ส.ใหม่รายงานตัวสภาฯ วันที่ 3/ส.อ.ท.แถลงยอดผลิต-ส่งออกรถยนต์ : อินโฟเควสท์ความเคลื่อนไหวทางการเมือง วันนี้เข้าสู่วันที่ 3 ของการเปิดให้ ส.ส.ใหม่ เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ยังคงมี ส.ส.ทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ ทยอยเข้ารายงานตัวต่อสภาฯ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้อมูลล่าสุดของเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการรายงานตัว พบว่า มี ส.ส.ใหม่เข้ามารายงานตัวต่อสภาฯ รวมทั้งสิ้น 56 คน ประกอบด้วย ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ 13 คน, พรรคประชาธิปัตย์ 11 คน, พรรคเพื่อไทย 9 คน, พรรคประชาชาติ 9 คน, พรรคไทยสร้างไทย 6 คน, พรรคภูมิใจไทย 2 คน, พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคใหม่ อีกพรรคละ 1 คน – ส่วนเรื่องของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังคงเป็นประเด็นร้อน […]
อ่านเพิ่มเติม »
'เศรษฐา' ลั่น 'เลอะเทอะ' ข่าวพรรคอื่นจ่อชงชื่อ ส.ส.พท.ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ : อินโฟเควสท์นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรณีที่มี ส.ส.ไม่เห็นด้วยที่ยกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นั้น การแข่งขันระหว่าง พท.กับ ก.ก.ได้จบไปแล้วตั้งแต่วันเลือกตั้ง วันนี้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 2 พรรคควรร่วมมือกันตั้งรัฐบาล ตอนนี้ก็ได้มีการตั้งคณะเจรจาอย่างชัดเจนเชื่อว่าหลังจากได้คุยกันแล้วจะหาข้อสรุปร่วมกันได้ แต่วันนี้ปัญหาใหญ่กว่า คือ ต้องตั้งรัฐบาลที่มาจากฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ เพราะประเทศประสบปัญหามามากแล้วควรจะมีรัฐบาลได้สักที นายเศรษฐา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้บริหารพรรค ทุกเสียงของประชาชนมีความสำคัญ พท.มี ส.ส. 141 คน นอกเหนือจากนั้นก็มีผู้ใหญ่ในพรรค ซึ่งต้องให้เกียรติ วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่พรรคได้จัดสัมมนา และเปิดโอกาสให้ ส.ส.ทุกคนได้พูดคุยและแสดงความคิดเห็นของตัวเอง “การแข่งขันจบไปแล้ว การจะยกเก้าอี้ให้พรรคก้าวไกลหรือไม่เป็นเรื่องรอง แต่ภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ ต้องจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต้องเดินหน้าไปด้วยกันให้ได้” นายเศรษฐา กล่าว สำหรับเสียงสะท้อนจาก ส.ส.ส่วนใหญ่ที่อยากให้ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของ พท.นั้น คงต้องขอฟังความคิดเห็นก่อน เพราะยังไม่มีข้อสรุป ส่วนกระแสข่าว ส.ส.พรรคอื่นจะเสนอชื่อ ส.ส.พท.ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ นั้น ในความเห็นส่วนตัวมองว่า “เลอะเทอะ” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
TOPICSTODAY: ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 47 ส.ส. ยังไร้ชื่อ 'พิธา'/ส.ส.ใหม่ทยอยรายงานตัวสภาฯ : อินโฟเควสท์ติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรค ในส่วนการการเจรจาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่เห็นความชัดเจน ส่วนจะบานปลายหรือไม่คงต้องรอผลการเจรจาระหว่าง 2 พรรค ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 29 มิ.ย. – ขณะที่ส.ส.ใหม่ ยังคงทยอยเดินทางเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรภาย หลังรับหนังสือรับรองการได้รับการเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยยอดรวม 3 วัน (20-22 มิ.ย.) มี ส.ส.มารายงานตัวแล้ว รวม 243 คน จาก 500 คน – สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 47 ราย กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีชื่อ ส.ส.คนดัง ได้แก่ นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์, นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นต้น โดยยังไม่มีชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โดยรอบนี้ยังไม่มีชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล […]
อ่านเพิ่มเติม »
นายก ส.นักวิเคราะห์ แนะแนวทางตลาดหุ้นไทยจากหมีสู่กระทิงต้องหยุดนโยบายไม่เป็นมิตรกับนักลงทุน : อินโฟเควสท์นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ และนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวปาฐกถา เรื่อง “ตลาดทุนปรับโหมด หุ้นกระทิง” ว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ตลาดหุ้นที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด โดยตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในสภาวะตลาดหมี จากเหตุผลหลัก คือ เศรษฐกิจฟื้นตัวค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจประเทศอื่น ที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 ปีก็สามารถฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโควิดได้แล้ว อีกทั้งเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้าหลังเปิดประเทศถือเป็นอีกปัจจัยลบสำหรับตลาดหุ้นไทย พร้อมมองว่า ภาคการท่องเที่ยว เป็นจุดขายและเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย แต่เศรษฐกิจไทยยังติดปัญหาอุปสรรคหลายด้าน จากแนวโน้มการส่งออกที่ยังมีความน่าเป็นห่วง เพราะติดลบต่อเนื่องกัน 7 เดือนแล้ว นอกจากนี้ กำไรบริษัทจดทะเบียนไทยที่ยังอยู่ในโหมดหดตัว และการตั้งรัฐบาลล่าช้า ทำให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นแล้วกว่าแสนล้านบาท นายไพบูลย์ กล่าวว่า หุ้นไทยยังมีโอกาสรีบาวน์ได้ หากสามารถตั้งรัฐบาลได้เร็ว และมีนโยบายเศรษฐกิจเป็นที่ยอมรับและเป็นมิตรกับภาคธุรกิจ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าภาคธุรกิจจะได้รับการดูแลอย่างดี ขณะที่ตลาดหุ้นไทยราคาไม่แพง แต่ยังขาดจุดขายในการดึงดูดเงินกองทุนระยะยาว ซึ่งเหตุผลที่กองทุนต่างชาติระยะยาวไม่สนใจหุ้นไทย เพราะให้ผลตอบแทนที่ไม่จูงใจ “ตลาดหุ้นไทย เป็นทศวรรษที่ไม่ไปไหน หากนับจากหลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ตลาดหุ้นไทยจาก 400-500 จุด ยังอยู่ที่ 1,500 จุด แต่เมื่อเทียบกับ อินโดนีเซีย จาก 400-500 จุด […]
อ่านเพิ่มเติม »