ข่าวหน้า1 สั่งเรียกสำนวนคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ คืน เนื่องจากเหตุดังกล่าวเป็นเรื่องกระทบกระเทือนความยุติธรรมของศาล
เพื่อมอบสำนวนคดีให้ผู้พิพากษาคนอื่นพิพากษาแทน เนื่องจากเหตุดังกล่าวเป็นเรื่องกระทบกระเทือนความยุติธรรมของศาล เกรงว่าคนภายนอกจะเข้าใจผิดในการทำงาน ขณะที่ศาลอาญาพระโขนงเดินเครื่องออกหมายนัดสืบพยานคดีฆ่านายชูวงษ์ยาวเหยียดหลังวันที่ 20 มี.ค.
มีรายงานด้วยว่า ในที่ประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ เน้นย้ำชุดทำงานให้เร่งพิสูจน์ทราบพยานแวดล้อม และยืนยันตัวบุคคลในภาพวงจรปิด ตลอดจนให้ชุดสอบสวนทำสำนวนให้รัดกุม ขณะนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามสอบปากคำพยานในคดีการอุ้มฆ่าไปแล้ว 40 ปาก เหลืออีก 20 ปาก เพื่อส่งฟ้องศาล จากนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างประสานขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อตรวจสอบหาเงินจำนวน 2 แสนบาทที่ทางการสืบสวนพบว่า เป็นเงินค่าจ้างก่อเหตุหลังจาก 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับว่า พ.ต.ท.บรรยินให้เงิน 2 แสนบาทกับ ส.จ.
มีรายงานอีกว่า จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมและบุคคลใกล้ชิด ต่างให้การเชื่อมโยงสอดคล้องกับข้อมูลที่ชุดสืบสวนพบ โดยเฉพาะเรื่องรถที่ใช้ในการก่อเหตุ ที่บุคคลใกล้ชิดเป็นลูกน้องภายในบ้าน พ.ต.ท.บรรยิน ต่างยืนยันว่า รถกระบะโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ หมายเลขทะเบียน ชฉ 583 กรุงเทพมหานคร ของกลางทางคดี เป็นรถที่ พ.ต.ท.บรรยินใช้เป็นประจำ รวมทั้งแม่บ้านของ พ.ต.ท.บรรยินยังยืนยันว่า ซิมการ์ดที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ติดต่อ ตัวเองเป็นคนไปซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ให้ภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน เมื่อวันที่ 5 ม.ค.