เบสเรย์ ประกาศความพร้อมก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง 'การเลี้ยงลูกตามแนวทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่' Besrey เบสเรย์ อินโฟเควสท์
เบสเรย์ แบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง “การเลี้ยงลูกตามแนวทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่” ด้วยผลิตภัณฑ์หลัก 4 กลุ่ม พร้อมแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคตตามแนวคิดดังกล่าวเป็นสำคัญ
เบสเรย์มีความภาคภูมิใจในความเป็นแบรนด์ที่มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในความเป็นมืออาชีพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยทุ่มเทเพื่อความเป็นเลิศ สะท้อนให้เห็นในทุกแง่มุมของกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตอันพิถีพิถันไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม พร้อมกระบวนการทดสอบที่เข้มงวด ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเบสเรย์มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และความทนทานที่เหนือกว่า...
1. การเดินทาง: เบสเรย์คือผู้ผลิตจักรยานสำหรับเด็ก รถเข็นเด็ก สกูตเตอร์ขาไถ เป้สำหรับเดินป่า และเป้อุ้มเด็ก เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับเจ้าตัวเล็ก
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
พาณิชย์ตรวจเข้มเครื่องชั่งผลไม้ สั่งดำเนินดคี 90 เครื่องฐานโกงน้ำหนัก : อินโฟเควสท์ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้สำนักงานชั่งตวงวัดทั่วประเทศ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบเครื่องชั่งที่ใช้ซื้อขายผลไม้ตามล้ง จุดรับซื้อ ตลาดขายส่ง และแผงรับซื้อริมทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผลผลิตทุเรียนกำลังออกมากขณะนี้ และตรวจสอบเครื่องคัดขนาดลำไย ณ สถานที่รับซื้อลำไย และโรงอบลำไยในเขตภาคเหนือ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตรวจเครื่องชั่งร้านค้า และรถเร่ขายผลไม้ทั่วประเทศ เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรในการขายผลไม้ และคุ้มครองผู้บริโภคที่ซื้อผลไม้ไปบริโภค ซึ่งจากการตรวจสอบดังกล่าว ระหว่างวันที่ 1-24 มิถุนายน 2566 พบเครื่องชั่งที่ไม่ได้มาตรฐาน 90 เครื่อง โดยได้มีการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นอกจากการตรวจสอบเครื่องชั่งแล้ว ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ และราคาจำหน่ายปลีกผลไม้ให้ชัดเจนด้วย หากเกษตรกร หรือประชาชนผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบเกี่ยวกับการใช้เครื่องชั่งที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคา สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ศูนย์ชั่งตวงวัด และสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทั่วประเทศ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
หัวเว่ย จับมือ IUCN เปิดตัว 'Tech4Nature' เฟสใหม่ มุ่งปกป้องแนวปะการัง : อินโฟเควสท์หัวเว่ย มอริเชียส (Huawei Mauritius) ร่วมมือกับ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และอีโคโหมด โซไซตี (EcoMode Society)เปิดตัวโครงการเฟสใหม่ Tech4NatureMauritius เพื่อศึกษาความสำเร็จของการขยายพันธุ์สิ่งมีชีวิตในพื้นที่ฟื้นฟูแนวปะการังในมอริเชียส ทั้งนี้ โซลูชันที่ประกอบด้วยกล้องและเครื่องรับ GPS, 4G และระบบคลาวด์ได้ถูกนำมาใช้งานเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตบริเวณพื้นที่ฟื้นฟูแนวปะการัง และพิจารณาปัจจัยที่รบกวนความสำเร็จของการขยายพันธุ์ สำหรับโครงการในเฟสที่สองนี้จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ AI เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจด้านการอนุรักษ์ ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยของนักชีววิทยาทางทะเล และให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการัง เนื่องจากมอริเชียสเป็นประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก จึงต้องพึ่งพาทรัพยากรแนวปะการังอย่างมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการประมงและการท่องเที่ยว ดังนั้น การเพาะเลี้ยงปะการังเพื่อซ่อมแซมแนวปะการังที่เสื่อมโทรมได้รับความสนใจมากขึ้นในมอริเชียส โดยใช้เทคนิคการทำชิ้นส่วนปะการังขนาดเล็กด้วยการติดชิ้นส่วนปะการังขนาดเล็กในแปลงอนุบาลนอกสถานที่โดยใช้บล็อกคอนกรีต โครงสร้างชุบสังกะสี และหินบะซอลต์ตามธรรมชาติเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของปะการัง ด้านเจมส์ ฮาร์ดคาสเซิล หัวหน้าทีมพื้นที่คุ้มครองและอนุรักษ์ของ IUCN ได้พูดถึงโครงการเฟสใหม่นี้ว่า เรามีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และรวมเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ากับมาตรการอนุรักษ์ระบบนิเวศของเรา โครงการนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าความร่วมมือและการผลักดันเข้าสู่กระแสหลักเป็นหนทางที่นำไปสู่การหยุดยั้งความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าจะมีการดำเนินโครงการลักษณะนี้ในพื้นที่อื่น ๆ ของมอริเชียส เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความต้องการด้านการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ และเนื่องจากแนวปะการังถึง 50% ของโลกที่ถูกทำลายหรือเสื่อมโทรม ความสำเร็จของโครงการจนถึงปัจจุบันจึงแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการฟื้นฟูแนวปะการังขนาดใหญ่ทั่วโลกเพิ่มเติมต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีดิจิทัล “บทบาทของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการรับมือกับความท้าทายนี้คือกุญแจสำคัญ แต่การร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่มีความมุ่งมั่นเท่านั้นจึงจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง” เจิ้
อ่านเพิ่มเติม »
ตลท.สรุปโกงงบ STARK กว่า 2.1 หมื่นลบ.ยกบทเรียนปรับเกณฑ์กำกับ บจ.-เพิ่มคำเตือนผู้ลงทุน : อินโฟเควสท์นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าความเสียหายที่พบในงบการเงินของ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) รวมกว่า 2.15 หมื่นล้านบาท นอกเหนือจากการผิดนัดการชำระหนี้หุ้นกู้อีกกว่า 9.1 พันล้านบาท ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับผู้ลงทุนในตลาดทุน หลังจากที่ STARK รายงานข้อมูลทางงบการเงินปี 65 ออกมาในวันที่ 16 มิ.ย. 66 ซึ่งได้พบว่ามีการปรับปรุงข้อมูลทางบัญชี ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ STARK เกิดความเสียหายทางบัญชีมูลค่ารวมกว่า 2.15 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 5 เรื่อง ได้แก่ 1. การสั่งซื้อวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าของ STARK และการสั่งสินค้าจากซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.65 มีการปรับตัวเลขถึง 1.04 หมื่นล้านบาท 2. การรับรู้รายได้จากการขายและลูกหนี้การค้าสูงเกินความจริงตั้งแต่ก่อนปี 64 จนถึงปี 65 รวมมูลค่า 7.76 พันล้านบาท 3. การจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการขายที่ไม่เกิดขึ้นจริงตั้งแต่ก่อนปี 64 […]
อ่านเพิ่มเติม »
กทม.นำร่องติดตั้งระบบควบคุมไฟจราจรบนถนนหลัก 4 สาย : อินโฟเควสท์นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (Bangkok Area Traffic Control Project: BATCP) โดยกล่าวว่า การริเริ่มโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นำร่องนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการบริหารจัดการจราจรด้วยระบบอัจฉริยะ เพื่อปรับปรุงสภาพการจราจรในกรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน *โครงการนำร่อง 4 สาย สำหรับพื้นที่โครงการนำร่องของระบบ ATC นี้ จะครอบคลุมพื้นที่บนถนนหลัก 4 สาย ได้แก่ 1. ถนนพระราม 6 2. ถนนราชวิถี 3. ถนนพหลโยธิน และ 4. ถนนประดิพัทธ์ ซึ่งมีระบบสัญญาณไฟจราจรทางแยก 13 แห่งและสัญญาณไฟทางข้ามอีก 4 แห่ง โดยมีศูนย์ควบคุมกลางตั้งอยู่ที่สำนักการจราจร และขนส่งกรุงเทพมหานคร ระบบ ATC ที่นำมาติดตั้งในพื้นที่โครงการนำร่องนี้ จะใช้เซนเซอร์เก็บข้อมูลสภาพจราจรในพื้นที่ผ่านเครื่องตรวจจับยานพาหนะแบบ Ultrasonic และกล้อง CCTV ที่คอยตรวจจับสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ อุปกรณ์ตรวจจับเหล่านี้จะส่งข้อมูลที่รวบรวมได้ผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงไปยังศูนย์ควบคุมการจราจร จากนั้นจะใช้อัลกอริทึมขั้นสูง […]
อ่านเพิ่มเติม »
อินโดนีเซียจ่อออกกฎไบโอดีเซลต้องผสมน้ำมันปาล์ม 40% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า : อินโฟเควสท์นายอาริฟิน ตัซริฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียวางแผนเพิ่มสัดส่วนการนำน้ำมันปาล์มไปผสมเป็นไบโอดีเซลที่ 40% (B40) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ปัจจุบันจะยังคงสัดส่วนไว้ที่ 35% (B35) ตามเดิม ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ประกาศเพิ่มสัดส่วนการผสมเป็นไบโอดีเซลจาก 30% เป็น 35% ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ตาม สัดส่วนดังกล่าวยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในบางพื้นที่ นายตัซริฟให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์นอกรอบการประชุมพลังงานเอเชีย (Energy Asia) วันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า “ตอนนี้เรายังไม่เปลี่ยนแปลงจาก B35 จากนั้นจึงค่อยเตรียมพร้อมสำหรับ B40 และเมื่อเรารู้สึกว่าพร้อมเมื่อไร เมื่อนั้นเราจึงจะเริ่มการเปลี่ยนแปลง” นายตัซริฟระบุว่า อินโดนีเซียต้องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในประเทศให้ได้มากที่สุดและลดการพึ่งพาน้ำมันดิบ และตอนนี้ทางการได้เสร็จสิ้นการวิจัยและการทดสอบบนท้องถนนของ B40 เรียบร้อยแล้ว นายเอ็ดดี อับดูร์ราชมาน ซีอีโอของหน่วยงานกองทุนน้ำมันปาล์มดิบของอินโดนีเซียที่รับผิดชอบในการจัดหาเงินอุดหนุนไบโอดีเซล กล่าวว่า B35 ยังไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังมีโรงงานผสมบางแห่งที่ต้องการการอัปเกรด ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังพยายามผลักดันให้มีการผลิต B35 อย่างเต็มรูปแบบภายในวันที่ 1 ส.ค. นายเอดี วิโบโว เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานระบุว่า การบริโภคไบโอดีเซลจนถึงวันที่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ไรเดอร์ ฝากความหวัง 'ก้าวไกล' แก้ปัญหาแอปฯ จ้างงานไม่เป็นธรรม : อินโฟเควสท์สมาคมไรเดอร์ไทย พร้อมด้วยเครือข่ายไรเดอร์จากหลากหลายแอปพลิเคชัน นัดรวมตัวที่พรรคก้าวไกล เพื่อยื่นข้อเสนอต่อพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้พิจารณาปัญหาการจ้างงานไม่เป็นธรรมที่ไรเดอร์แอปพลิเคชันต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งพรรคก้าวไกล มีคณะทำงานเครือข่ายผู้ใช้แรงงานของพรรค นำโดยนายเซีย จำปาทอง และ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้งนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) ของพรรคก้าวไกล ร่วมรับข้อร้องเรียน พร้อมพูดคุยกับสมาคมไรเดอร์ในวันนี้ นายพรเทพ ชัชวาลอมรกุล นายกสมาคมไรเดอร์ไทย แถลงข้อเรียกร้อง โดยระบุว่า ไรเดอร์มีข้อเรียกร้องหลายข้อที่อยากให้รัฐบาลในอนาคตช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกำหนดให้มีราคากลางสำหรับค่ารอบ ที่ผ่านมา ทุกแอปพลิเคชันเปลี่ยนกฎได้ตามใจชอบ ลดค่ารอบลงมา แต่ค่าบริการระบบ (Gross Profit: GP) ไม่เคยลดลง ค่ารอบกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดก็แตกต่างกัน ทั้งที่ค่าครองชีพเท่ากัน ทำให้ไรเดอร์ในปัจจุบันอยู่ในสถานะที่ได้รับค่าแรงต่ำลง ทำงานยิ่งหนักค่ารอบยิ่งน้อยลง ทำให้ค่ารอบของไรเดอร์เกือบ 4 แสนคนในประเทศไทยวันนี้ ถูกกว่าค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว โดยที่ไม่มีสวัสดิการมารองรับด้วย นายพรเทพ กล่าวต่อถึงปัญหาระบบรับงานพ่วง ที่หลายบริษัทเริ่มเลียนแบบนำมาใช้ตามกัน ซึ่งมีปัญหาทั้งค่ารอบที่ลดลงจากออเดอร์ที่พ่วงเข้ามา โดยที่บริษัทยังคงเก็บจากร้านค้า และผู้ใช้บริการเต็มจำนวน […]
อ่านเพิ่มเติม »