เทสลาเรียกคืนรถ 321,000 คัน ในสหรัฐ จากปัญหาไฟท้าย : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

เทสลาเรียกคืนรถ 321,000 คัน ในสหรัฐ จากปัญหาไฟท้าย : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 26 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 14%
  • Publisher: 68%

เทสลา เรียกคืนรถ 321,000 คัน ในสหรัฐ จากปัญหาไฟท้าย อินโฟเควสท์

เทสลา อิงค์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ ว่า บริษัทจะเรียกคืนรถยนต์จำนวน 321,000 คันในสหรัฐ จากปัญหาไฟท้ายที่อาจไม่ทำงานเป็นพัก ๆ

ทั้งนี้ เทสลารายงานต่อสำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐ ว่า การเรียกคืนรถครั้งนี้ครอบคลุมรถรุ่น 2023 โมเดล 3 และรุ่น 2020-2023 โมเดล วาย โดยเทสลาจะทำการแก้ไขปัญหาไฟท้ายผ่านการปรับปรุงทางอากาศ พร้อมระบุว่ายังไม่มีรายงานอุบัติเหตุหรือผู้บาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ เทสลายังได้ทำการเรียกคืนรถรุ่นโมเดล เอ็กซ์เกือบ 30,000 คัน เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคที่อาจทำให้ถุงลมนิรภัยฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าทำงานบกพร่อง โดยบริษัทจะดำเนินการแก้ไขผ่านการปรับปรุงทางอากาศเช่นเดียวกัน

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

รองปธน.สหรัฐมุ่งมั่นสร้างความร่วมมือกับเอเชียขณะเยือนไทย หลังจีนรุกคืบ : อินโฟเควสท์รองปธน.สหรัฐมุ่งมั่นสร้างความร่วมมือกับเอเชียขณะเยือนไทย หลังจีนรุกคืบ : อินโฟเควสท์นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ พยายามที่จะโน้มน้าวให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อว่า สหรัฐเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีค่าที่สุด ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงเทพฯ วันนี้ (18 พ.ย.) โดยคณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กำลังกังวลต่อการขยายอิทธิพลของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นางแฮร์ริสพยายามจะคลายความกังขาเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของสหรัฐที่มีต่อเอเชียแปซิฟิก หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา สามารถสร้างความคืบหน้าให้กับข้อตกลงการค้าที่สำคัญในเอเชีย แต่กลับถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.คนต่อมา ยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว โดยขณะนี้ ปธน.ไบเดนกำลังพยายามที่จะทำข้อตกลงใหม่ นางแฮร์ริสชี้ว่า ไม่ควรวัดความมุ่งมั่นของสหรัฐจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศเพียงอย่างเดียว “สหรัฐได้แสดงความมุ่งมั่นทางเศรษฐกิจในอินโด-แปซิฟิกอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจชี้วัดได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี แต่ต้องใช้เวลาหลายสิบปีและหลายชั่วอายุคน” นางแฮร์ริสกล่าวกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจ นอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) พร้อมเสริมว่า “ไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจใดที่จะดีต่อภูมิภาคนี้มากไปกว่าสหรัฐอีกแล้ว” อนึ่ง ปธน.ไบเดนได้เสนอข้อตกลงที่เรียกว่า กรอบการทำงานเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก ซึ่งจะมีผลผูกพันน้อยกว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) หรือเดิมคือข้อตกลง TPP และไม่รวมการลดการเรียกเก็บภาษีนำเข้า หลังจากที่สหรัฐภายใต้การนำของอดีตปธน.ทรัมป์ได้ถอนตัวจาก CPTPP ทำให้จีนก้าวเข้ามาทำข้อตกลงดังกล่าวแทน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

CRC ทุ่ม 1.2 พันลบ.เปิดแฟลกชิปสโตร์ 'โรบินสัน ราชพฤกษ์' รับกลุ่มไฮสเปนดิ้ง : อินโฟเควสท์CRC ทุ่ม 1.2 พันลบ.เปิดแฟลกชิปสโตร์ 'โรบินสัน ราชพฤกษ์' รับกลุ่มไฮสเปนดิ้ง : อินโฟเควสท์นายฟิลิปป์ โบรยานิโก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานอสังหาริมทรัพย์ และพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือบมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเผยว่า ได้ใช้งบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท ในการขยายสาขาที่ 27 ซึ่งเป็นแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ล่าสุด ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ บนพื้นที่รวมถึง 50,000 ตร.ม.จำนวน 3 ชั้น เพื่อตอบรับกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูง โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 17 พ.ย. 65 นี้ เป็นต้นไป การขยายธุรกิจครั้งล่าสุด เนื่องจากปัจจุบัน ย่านราชพฤกษ์ นับเป็นพื้นที่ทำเลศักยภาพสูงในกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ที่จะรองรับการขยายตัวของเมืองหลวงในอนาคตจากหลายปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การมีระบบเครือข่ายคมนาคมที่สะดวก มีโครงการระดับเมกาโปรเจกต์ของภาครัฐและเอกชนเกิดขึ้นมากมาย รวมทั้งเป็นคอมมูนิตี้ที่มีศักยภาพทั้งจำนวนประชากรในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัววัยทำงาน และการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัยโดยเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์เกิดขึ้นหลายแห่ง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้านกำลังซื้อที่สูงของประชากรในย่านนี้อีกด้วย พร้อม 3 กลยุทธ์สำคัญ เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และก้าวสู่การเป็น LIFESTYLE & EXPERIENTIAL COMMUNITY ศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกคนในชุมชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านราชพฤกษ์ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเติบโตทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ …
อ่านเพิ่มเติม »

COIN RESUME: รู้จักเหรียญ CRO : อินโฟเควสท์COIN RESUME: รู้จักเหรียญ CRO : อินโฟเควสท์ชื่อเต็ม : Cronos ชื่อย่อ : CRO FOUNDER: Kris Marszalek, Rafael Melo, Gary Or และ Bobby Bao Characteristic : เชื่อมต่อ Payment System ด้วย Cronos Usage : Native Token ของ Crypto.com Chain รองรับการชำระสกุลเงินตัวกลางข้ามสินทรัพย์ และทำหน้าที่ปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างคริปโทฯ และการชำระเงินสกุลเงิน Fiat ทำให้ธุรกรรมระหว่างผู้ใช้คริปโทฯ และผู้ค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ใช้ชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบน Crypto.com Chain พร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษอื่น เมื่อชำระด้วยเหรียญ CRO ผู้ใช้ CRO สามารถ stake เหรียญของตนบน Crypto.com Chain เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบและรับค่าธรรมเนียมสำหรับการประมวลผลธุรกรรมบนเครือข่าย Attribute : บล็อกเชน CRO มุ่งเน้นไปที่การให้บริการทางการเงินภายใต้ระบบนิเวศของ …
อ่านเพิ่มเติม »

'คริสติน ลาการ์ด' ชี้ ECB อาจต้องยับยั้งการเติบโตทางศก. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ : อินโฟเควสท์'คริสติน ลาการ์ด' ชี้ ECB อาจต้องยับยั้งการเติบโตทางศก. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ : อินโฟเควสท์นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยในวันนี้ (18 พ.ย.) ว่า ECB จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอาจถึงขั้นต้องจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยชี้ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญของ ECB เหนือการลดบัญชีงบดุล ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ECB ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมกันทั้งหมดมากถึง 2% นับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ พร้อมระบุว่าจะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และลดการถือพันธบัตรรัฐบาลจากที่ปัจจุบันถือเอาไว้ 5 ล้านล้านยูโร (5.2 ล้านล้านดอลลาร์) “เราคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก โดยอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นเครื่องมือหลักสำหรับการปรับจุดยืนด้านนโยบายของเรา” นางลาการ์ดกล่าว สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% นั้นไม่ห่างไกลจากสิ่งที่เรียกว่า “อัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง” (Neutral Rate) ซึ่งไม่กระตุ้น หรือฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยส่วนใหญ่แล้วประมาณการกันว่า อัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางนั้นจะอยู่ที่ระหว่าง 1.5% – 2% ซึ่งบ่งชี้ว่า หลังปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ECB ก็จะเลิกการปรับขึ้นดอกเบี้ย ปัญหาคือเงินเฟ้อเคลื่อนไหวแตะ 10.6% ซึ่งสูงเหนือเป้าหมาย 2% …
อ่านเพิ่มเติม »

นักเศรษฐศาสตร์คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่อาจเพิ่มเพดานดอกเบี้ยสูงสุด : อินโฟเควสท์นักเศรษฐศาสตร์คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่อาจเพิ่มเพดานดอกเบี้ยสูงสุด : อินโฟเควสท์ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ลงสู่ระดับ 0.50% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่บางส่วนมองว่า การที่เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินยาวนานมากขึ้นและปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดให้สูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐลดลงระดับต่ำกว่า 8% สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งหนุนคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของรอยเตอร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในปีที่จะถึงนี้และในปีถัดไปอาจสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้เมื่อเดือนก่อนเล็กน้อย พร้อมแนะนำว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่เฟดจะพิจารณาการหยุดใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดในเร็ว ๆ นี้ นักเศรษฐศาสตร์ 78 จาก 84 คนจากผลสำรวจเมื่อวันที่ 14-17 พ.ย. คาดว่า เฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่กรอบ 4.25-4.50% ในการประชุมนโยบายวันที่ 13-14 ธ.ค. ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งเฟดได้ปรับขึ้นจากระดับใกล้เคียง 0% ในเดือนมี.ค. กลายเป็นหนึ่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วที่สุด โดยหลายฝ่ายคาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะแตะระดับสูงสุดที่อย่างน้อย 4.75-5.00% ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งสูงกว่าระดับที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ 0.25% เมื่อเดือนก่อน และอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ในปัจจุบันอยู่ที่ 4.25-4.50% …
อ่านเพิ่มเติม »

ชาวยุโรปเริ่มปรับลดงบท่องเที่ยว หลังรายจ่ายภาคครัวเรือนพุ่ง : อินโฟเควสท์ชาวยุโรปเริ่มปรับลดงบท่องเที่ยว หลังรายจ่ายภาคครัวเรือนพุ่ง : อินโฟเควสท์ทรีวาโก เอ็นวี (Trivago NV) บริษัทรับจองห้องพักออนไลน์ เปิดเผยว่า ชาวยุโรปเริ่มปรับลดงบประมาณสำหรับการท่องเที่ยวลง หลังต้นทุนภาคครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น ทำให้รายได้สำหรับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยลดลง นายมัทธีอัส ทิลมันน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของทรีวาโก ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลในช่วงเดือนพ.ย.-ม.ค.ชี้ให้เห็นว่า ผู้คนมีแนวโน้มที่จะชื่นชอบโรงแรมราคาถูกและการเดินทางระยะสั้นมากขึ้น โดยยอดคลิกตัวเลือกที่มีราคาถูกกว่ามีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ขณะเดียวกัน นายทิลมันน์ระบุในระหว่างการประชุมเทค, มีเดีย แอนด์ เทเลคอม (TMT conference) ของมอร์แกน สแตนลีย์ ณ เมืองบาร์เซโลนาว่า การจองที่พักผ่านทางเว็บไซต์ดึสเซิลดอร์ฟ (Dusseldorf) ของทางบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ ขณะนี้อยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แนวโน้มดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า แม้ชาวยุโรปจะหันมาใส่ใจเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ละทิ้งการหยุดพักผ่อนและการท่องเที่ยวไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งน่าจะเอื้อประโยชน์ต่อสายการบินราคาประหยัดอย่างไรอันแอร์ โฮลดิงส์ (Ryanair Holdings) เนื่องจากลูกค้าที่มีเงินน้อยเริ่มหันมาสนใจเที่ยวบินที่มีราคาย่อมเยามากขึ้น นายทิลมันส์กล่าวว่า “อาจเป็นไปได้ว่าผู้คนกำลังมองหาตัวเลือกที่ถูกกว่า หรืออาจกำลังค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ของต่าง ๆ มีราคาสูง” และเสริมว่า นักท่องเที่ยวเริ่มลดระยะเวลาการอยู่แบบค้างคืนลงราว 10% โดยเฉลี่ย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-19 19:50:27