เงินบาทเปิด 36.02 แข็งค่าจากวานนี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่ารับเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดบ. : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

เงินบาทเปิด 36.02 แข็งค่าจากวานนี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่ารับเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดบ. : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 41 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 20%
  • Publisher: 68%

เงินบาทเปิด 36.02 แข็งค่าจากวานนี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่ารับเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดบ. ค่าเงินบาท อัตราแลกเปลี่ยน เงินบาท อินโฟเควสท์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.02 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.26 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.85 – 36.20 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี คืนนี้ตลาดทางฝั่ง สหรัฐฯ จะปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งอาจทำให้ตลาดเงินค่อนข้างเงียบเงินเยนอยู่ที่ระดับ 138.85 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 141.34 เยน/ดอลลาร์อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 36.158 บาท/ดอลลาร์

ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า สกนช.ได้เริ่มกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสินแล้วแห่งละ 5,000 ล้านบาท รวม 10,000 ล้านบาท มีแผนการชำระหนี้ 7 ปี ปีนี้สกนช.มีแผนจะทำการกู้เงินรวม 30,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 120,000 ล้านบาท สกนช.

ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 56.8 ในเดือนพ.ย. ซึ่ง เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 59.9 ในเดือนต.ค.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

เงินบาทเปิด 36.30 อ่อนค่าหลังดอลลาร์ทยอยกลับมาแข็งค่าจากความกังวลโควิดระบาดในจีน : อินโฟเควสท์เงินบาทเปิด 36.30 อ่อนค่าหลังดอลลาร์ทยอยกลับมาแข็งค่าจากความกังวลโควิดระบาดในจีน : อินโฟเควสท์นักบริหารเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.30 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.21 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากตลาดกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีนที่เกรงจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนปิดรับความเสี่ยงหันมาถือครองดอลลาร์ “บาทอ่อนค่าตามทิศทางตลาดโลก หลังดอลลาร์แข็งค่าตามแรงซื้อ จากนักลงทุนที่ปิดรับความเสี่ยงจากความกังวลเรื่องโควิด-19 ในจีน” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.15 – 36.45 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (17 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.29359% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.61772% ปัจจัยสำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 141.91 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 141.80 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0251 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0230 ดอลลาร์/ยูโร อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ …
อ่านเพิ่มเติม »

เงินบาทเปิด 36.08 แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดรอปัจจัยใหม่ จับตารายงานประชุมเฟดคืนนี้ : อินโฟเควสท์เงินบาทเปิด 36.08 แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดรอปัจจัยใหม่ จับตารายงานประชุมเฟดคืนนี้ : อินโฟเควสท์นักบริหารเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.08 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.11 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย เนื่องจากเมื่อคืนนี้ดอลลาร์อ่อนค่าตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ย่อลง ในภาพรวมยังคงไร้ปัจจัยใหม่ ด้านสกุลเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.90 – 36.20 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) THAI BAHT FIX 3M (22 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.42979% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.67047% ปัจจัยสำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 141.36 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 141.32 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0304 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0269 ดอลลาร์/ยูโร อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ …
อ่านเพิ่มเติม »

'อีลอน มัสก์' เล็งสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเกาหลีใต้ : อินโฟเควสท์'อีลอน มัสก์' เล็งสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเกาหลีใต้ : อินโฟเควสท์ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยืนยันว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเปิดเผยในวันนี้ (23 พ.ย.) ว่า เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่เทสลาให้ความสนใจเข้าลงทุนด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในขณะที่ทางบริษัทกำลังผลักดันการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ EV ในภูมิภาคเอเชีย ทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอลแห่งเกาหลีใต้ระบุว่า นายมัสก์ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวผ่านทางวิดีโอคอลร่วมกับปธน.ยุน และยังกล่าวด้วยว่า เทสลาได้วางแผนที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานร่วมกับเกาหลีใต้ ในระหว่างการประชุมทางวิดีโอคอลครั้งนี้ ปธน.ยุนได้ขอให้นายมัสก์สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ EV ในเกาหลีใต้ ขณะที่นายมัสก์กล่าวตอบในเรื่องนี้ว่า เขาได้พิจารณาให้เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้น ๆ ที่เทสลาจะเข้าลงทุนด้านการผลิตรถยนต์ EV และเขาจะตัดสินใจในเรื่องนี้หลังจากทบทวนเงื่อนไขด้านการลงทุนในประเทศอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงเงื่อนไขเกี่ยวกับคุณภาพแรงงาน ระดับของเทคโนโลยี และสาธารณูปโภคด้านการผลิต “เราคาดว่าจะซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ จากบริษัทเกาหลีใต้มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566 เมื่อเราทำการขยายความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานอย่างมีนัยสำคัญกับบริษัทเกาหลีใต้” นายมัสก์ กล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

WHO จ่อเปลี่ยนชื่อฝีดาษลิงเป็น 'MPOX' หลังหลายฝ่ายเรียกร้องขจัดความเข้าใจผิด : อินโฟเควสท์WHO จ่อเปลี่ยนชื่อฝีดาษลิงเป็น 'MPOX' หลังหลายฝ่ายเรียกร้องขจัดความเข้าใจผิด : อินโฟเควสท์เว็บไซต์ข่าวโพลิติโครายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนชื่อ Monkeypox (โรคฝีดาษลิง) เป็น “เอ็มพอกซ์” (MPOX) เพื่อขจัดความเข้าใจผิดที่ว่าโรคดังกล่าวมีสาเหตุมาจากลิงเท่านั้น เนื่องจากไวรัสชนิดนี้พบได้ในสัตว์หลายชนิด และมักพบในสัตว์ฟันแทะเป็นส่วนใหญ่ แหล่งข่าวระบุว่า WHO จะประกาศการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันนี้ (23 พ.ย.) เพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่ออกมาเรียกร้องให้ WHO เปลี่ยนชื่อโรคฝีดาษลิง และส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐอาจจะกระทำการเพียงฝ่ายเดียว หากองค์กรระดับโลกอย่าง WHO ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ที่มากพอ โดยปกติแล้ว WHO จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระดับโลกในประเด็นสาธารณสุข ซึ่งรวมถึงการประกาศมาตรการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับชื่อโรคที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับชื่อของโรคฝีดาษลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนผิวสี และความพยายามเคลื่อนไหวให้มีการเปลี่ยนชื่อโรคใหม่นั้นได้กลายมาเป็นอุปสรรคขัดขวางการรณรงค์วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง อย่างไรก็ดี ทั้ง WHO และทำเนียบขาวยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวของโพลิติโค ก่อนหน้านี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ได้ออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อโรคฝีดาษลิงเช่นกัน โดยพวกเขากล่าวว่า การเรียกโรคนี้ว่าฝีดาษลิงนั้นถือเป็นการสร้างความคลุมเครือ และอาจหมิ่นเหม่ที่จะกลายเป็นประเด็นเหยียดเชื้อชาติเกี่ยวกับแอฟริกา รวมทั้งอาจส่งผลกระทบต่อการรับมือทั่วโลก ทั้งนี้ นอกจาก WHO ได้ประกาศให้การระบาดของฝีดาษลิงทั่วโลกเป็นเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่น่ากังวลในระดับนานาชาติแล้ว WHO ยังระบุอย่างชัดเจนว่า …
อ่านเพิ่มเติม »

พาณิชย์ เตือนภาคธุรกิจตรวจสอบผู้ทำบัญชีก่อนจ้าง หลังพบบกพร่องเกือบ 7 พันราย : อินโฟเควสท์พาณิชย์ เตือนภาคธุรกิจตรวจสอบผู้ทำบัญชีก่อนจ้าง หลังพบบกพร่องเกือบ 7 พันราย : อินโฟเควสท์นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ทำบัญชีรวมทั้งสิ้น 78,858 ราย จำนวนนี้มีชื่อเป็นผู้ทำบัญชีในการนำส่งงบการเงินของธุรกิจรวมทั้งสิ้น 52,134 ราย จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า มีผู้ทำบัญชีที่บกพร่องในการปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี ทั้งเรื่องการแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีไม่ครบถ้วน หรือ แจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีเกินกว่า 30 วันนับจากวันที่รับจ้างทำบัญชีจากธุรกิจ จำนวน 6,973 ราย โดยกรมฯ ได้มีหนังสือเตือนผู้ทำบัญชีให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังพบมีผู้ทำบัญชีจำนวน 64 ราย รับทำบัญชีเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ เกินกว่า 100 รายธุรกิจ ซึ่งกรมฯ ได้มีหนังสือเรียกให้เข้าชี้แจง หากพบตั้งใจกระทำความผิดจะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ธุรกิจในฐานะผู้ว่าจ้างผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ทั้งผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชี ก่อนว่าจ้างงาน ธุรกิจควรตรวจสอบและสอบถามผู้ทำบัญชีว่ายังคงเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีฯ อยู่หรือไม่ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือไม่ เมื่อตกลงว่าจ้างแล้ว ควรจัดทำสัญญาจ้างงาน กำหนดขอบเขตการจ้างงาน และราคาให้ชัดเจน รวมทั้งหลังจากที่ได้มีการว่าจ้างผู้ทำบัญชีแล้ว ควรตรวจค้นข้อมูลว่า ผู้ทำบัญชีได้แจ้งรายชื่อธุรกิจ (ที่ว่าจ้าง) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือยัง ทาง www.dbd.go.th || …
อ่านเพิ่มเติม »

TH ฟื้นพุ่ง 19.82% สวนทาง MORE ยังดิ่งฟลอร์ HEMP-GSC-COMAN ร่วงต่อ โบรกฯแนะ 'เลี่ยง' : อินโฟเควสท์TH ฟื้นพุ่ง 19.82% สวนทาง MORE ยังดิ่งฟลอร์ HEMP-GSC-COMAN ร่วงต่อ โบรกฯแนะ 'เลี่ยง' : อินโฟเควสท์หุ้น TH ดีดกลับมาพุ่งแรงถึง 19.82% เช้านี้ จากช่วงก่อนหน้านี้ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องหลังจากมีชื่อนายสมนึก กยาวัฒนกิจ ประธานกรรมการ รวมถึงบริษัทในเครือ เข้าเกี่ยวพันกับคดีฉ้อโกงด้วยการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) โดยเมื่อเวลา 10.26 น.หุ้น TH เพิ่มขึ้น 0.44 บาท มาที่ 2.66 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 344.19 ล้านบาท ขณะที่หุ้น MORE ยังคงดิ่งฟลอร์อย่างต่อเนื่อง 29.41% มาที่ 0.48 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.2 ล้านบาท รวมถึงหุ้นที่ปรากฎชื่อในผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง HEMP ก็ยังร่วงลงต่ออีก 15.93% มาที่ 4.54 บาท ลดลง 0.86 บาท และ GSC ร่วงไปถึง 24.09% มาที่ …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-28 03:32:03