เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกเช้านี้ ขู่จะยิงเพิ่มอีกหากถูกสหรัฐคุกคาม ขีปนาวุธ ญี่ปุ่น ทะเลญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ อินโฟเควสท์
กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธจำนวน 3 ลูกตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่เพิ่งทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้
ขณะที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่งของญี่ปุ่นระบุว่า ขีปนาวุธทั้ง 3 ลูกที่เกาหลีเหนือยิงในช่วงเช้านี้อาจเป็นขีปนาวุธแบบทิ้งตัว โดยยิงตกลงบริเวณด้านนอกของเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่มีต่อเครื่องบินหรือเรือ นางคิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจจะยิงขีปนาวุธอีกหลายลูกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอาจจะยิงข้ามเขตแดนญี่ปุ่น
“เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกถี่แค่ไหนนั้น จะขึ้นอยู่กับปฏิบับัติการทางทหารของสหรัฐ เกาหลีเหนือพร้อมที่จะเผชิญหน้า หากเราเห็นว่าปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐเป็นภัยคุกคามกับเราไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม”นางคิม โยจองกล่าว
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
NER เล็งลงทุน 700 ลบ. ขยายกำลังผลิตอีก 1.7 แสนตัน : อินโฟเควสท์บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ตั้งเป้าปี 66 ปริมาณขายรวม 5 แสนตัน คิดเป็นรายได้ราว 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปริมาณออเดอร์จากลูกค้าเพิ่มขึ้น ยอดส่งออกสินค้ามีความคล่องตัวมากขึ้น และเตรียมงบลงทุนสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน คาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาส 1/67 นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทยางแท่งและยางแท่งผสม โดยการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน ใช้งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการและการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งคาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จในไตรมาส 1/67 ซึ่งภายหลังจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว บริษัทจะมีกำลังการผลิตสินค้ารวมทั้งสิ้น 688,400 ตันต่อปี ด้านธุรกิจสินค้าสำเร็จรูป (สินค้าปลายน้ำ) บริษัทมีแผนการทำการตลาด โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าสำเร็จรูป (สินค้าปลายน้ำ) ต่างๆ ที่ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบหลักให้เป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้สัดส่วนยอดขายสินค้าปลายน้ำจะเติบโตขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มสินค้าสำเร็จรูปที่ใช้ส่วนผสมของยางพาราเป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทในระยะยาว สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 66 […]
อ่านเพิ่มเติม »
'คิม จองอึน' ควงลูกสาวสุดรักโชว์สื่ออีกแล้ว คราวนี้พาชมกีฬา ไม่ใช่ขีปนาวุธ : อินโฟเควสท์สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ (18 ก.พ.) ว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้พาบุตรสาวของเขาไปชมการแข่งขันฟุตบอลในการเฉลิมฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิดของบิดาที่ล่วงลับเมื่อวันศุกร์ (17 ก.พ.) โดยเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งล่าสุดซึ่งทำให้มีการถกเถียงกันว่านายคิมกำลังเตรียมการเพื่อให้บุตรสาวคนนี้เข้ารับบทบาทผู้นำในอนาคตหรือไม่ KCNA ระบุว่า การที่นายคิม และคิม จูแอ “บุตรสาวผู้เป็นที่รักยิ่ง” วัย 10 ขวบของเขาเข้าร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลดังกล่าวนั้น ได้สร้างความปลาบปลื้มและความตื่นเต้นให้การแข่งขันระหว่างเจ้าหน้าที่จากคณะรัฐมนตรีและกระทรวงกลาโหมของเกาหลีเหนือ รายงานระบุว่า ทีมฟุตบอลของกระทรวงกลาโหมสามารถเอาชนะทีมของครม.ได้ 3 ต่อ 1 และต่อมาทีมกลาโหมยังสามารถเอาชนะอีกครั้งในการแข่งขันชักเย่อด้วย รายงานข่าวไม่ได้ระบุถึงการแสดงความคิดเห็นใด ๆ ของนายคิม โดยการแข่งขันกีฬาดังกล่าวจัดขึ้นในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของนายคิม จองอิล ผู้นำคนก่อนของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นบิดาของนายคิม ผู้นำคนปัจจุบัน ทั้งนี้ ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุนของทางการเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นภาพนายคิมและลูกสาวยิ้มแย้มและปรบมือจากที่นั่งวีไอพี โดยทั้งคู่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและกองทัพ ขณะที่คิม โยจอง น้องสาวของนายคิมและเจ้าหน้าที่นโยบายต่างประเทศระดับสูงคนหนึ่งนั่งอยู่ในแถวหลังถัดจากนายคิมและบุตรสาว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
อ.แหม่ม หวั่น SMEs เจอวิกฤติสภาพคล่อง หนุนบสย.ค้ำประกันสินเชื่อ : อินโฟเควสท์นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรมช.แรงงาน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวฝากถึงรัฐบาลและบรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่จะเข้าช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ SMEs ที่มีโอกาสฟื้นตัว เพื่อต่อลมหายใจให้คนตัวเล็กสามารถลุกขึ้นยืน และเดินต่อไปได้อย่างมั่นคงในที่สุด เพราะในปีนี้หวังกันว่าธุรกิจ SMEs จะได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว แต่การเข้าไม่ถึงสินเชื่อของ SMEs จะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจขาดเงินทุนหมุนเวียนในการฟื้นฟูธุรกิจ โดยจากการที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพิ่งเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยปี 65 ขยายตัวได้เพียง 2.6% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 3.2% เป็นผลมาจากการหดตัวของภาคการส่งออก ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และสศช.ยังปรับประมาณสำหรับในปี 66 ลดลงจากเดิม 3 – 4% เหลือแค่ 2.7 – 3.7% ยิ่งจะทำให้สถาบันการเงินเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อกับธุรกิจ SMEs มากขึ้น เช่น ปรับเพิ่ม margin สำหรับลูกค้ากลุ่มเสี่ยง ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้รายงานตัวเลขความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจในไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในทุกขนาดและสาขาธุรกิจทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ต่างต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่า ไตรมาสที่ 1/66 ธุรกิจทุกขนาดและทุกสาขาธุรกิจยังคงมีแนวโน้มต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง […]
อ่านเพิ่มเติม »
คลังเผยไตรมาสแรกปีงบ 66 จัดเก็บรายได้เกินเป้า สะท้อนเศรษฐกิจฟื้นตัว : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงคลังรายงานช่วง 3 เดือน ของไตรมาสแรกประจำปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม-ธันวาคม 2565) รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ เป็นจำนวนถึง 6.33 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 13.2% ซึ่งเฉพาะกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้ได้มากถึง 4.46 แสนล้านบาท โดยเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 10% สะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทย ทั้งจากภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ทำให้มีเงินสะพัดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า ในปี 2566 ระบบเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ 3.8% จากอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว โดยกรมสรรพากรรายงานตัวเลขการจัดเก็บภาษี โดยในระยะเวลา 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่ ตุลาคม 2565 ถึง มกราคม 2566 สามารถจัดเก็บภาษีเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 6 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะมาจากการเก็บภาษีนิติบุคคล และมูลค่าเพิ่มเป็นหลัก ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ และการบริโภคในประเทศ […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ทวิตเตอร์' แจงผู้ใช้งานที่จ่ายเงินเท่านั้นสามารถใช้ระบบ SMS ยืนยันตัวตน : อินโฟเควสท์ทวิตเตอร์เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (17 ก.พ.) ว่า จะอนุญาตเฉพาะผู้ใช้งานที่เสียเงินเท่านั้นในการใช้การส่งข้อความ (text messages) หรือ SMS เพื่อทำการยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย (two-factor authentication – 2FA) เพื่อป้องกันความปลอดภัยของบัญชีทวิตเตอร์ ทวิตเตอร์ทวีตว่า “หลังจากวันที่ 20 มี.ค.เป็นต้นไป เฉพาะสมาชิกทวิตเตอร์ บลู (Twitter Blue) เท่านั้นที่จะสามารถใช้การส่งข้อความเป็นวิธียืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย” ทั้งนี้ 2FA จะทำให้บัญชีใช้งานมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยจะกำหนดให้เจ้าของบัญชีใช้วิธียืนยันตัวตนครั้งที่ 2 เพิ่มเติมจากการใช้รหัสผ่าน (password) โดยทวิตเตอร์อนุญาตให้ใช้วิธี 2FA ด้วยการส่งข้อความ, แอปพลิเคชันยืนยันตัวตน (authentication app) และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย (security key) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทวิตเตอร์ทวีตในบล็อกโพสต์เมื่อวันพุธ (15 ก.พ.) ว่า วิธีการยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัยที่อิงกับหมายเลขโทรศัพท์นั้นได้ถูกใช้โดยผู้ที่ไม่ประสงค์ดีในการลักลอบเข้าใช้บัญชีของผู้ใช้งานทวิตเตอร์ นายอีลอน มัสก์ เจ้าของทวิตเตอร์ทวีตว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
KTB คาด GDP ปี 66 โต 3.4% มองท่องเที่ยวเครื่องยนต์หนุนสำคัญหลังส่งออกหดตัว : อินโฟเควสท์Krungthai COMPASS คาดเศรษฐกิจปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว 3.4% เติบโตต่อเนื่องโดยมีภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์สำคัญ สอดคล้องกับมุมมองของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้น โดยภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องหลังจากที่ไทยมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สะท้อนจากอัตราการเข้าพักแรมและจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยในปี 2565 ที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 และคาดว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2566 อีกทั้ง ภาคการท่องเที่ยวยังมีปัจจัยหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่องหลังจากที่จีนเปิดประเทศ โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอาจมีแนวโน้มสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ และคาดว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชนซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงด้านต่ำจากแนวโน้มการส่งออกสินค้าที่อาจชะลอตัวกว่าที่เคยประเมินจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการส่งออกที่หดตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2565 สอดคล้องกับสภาพัฒน์ซึ่งได้ปรับลดประมาณการส่งออกสินค้าโดยมีแนวโน้มหดตัวที่ 1.6% (จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่ามูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 1.0% ในการประมาณการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565) สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2566 สภาพัฒน์คาดว่าจะขยายตัว ในช่วง 2.7-3.7% (ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ 3.0-4.0%) ตามแรงส่งของเศรษฐกิจแผ่วลงและแนวโน้มการส่งออกสินค้าที่อาจหดตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงเป็นสำคัญ แต่เศรษฐกิจไทยยังได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนซึ่งเร็วกว่าที่เคยประเมินไว้ และการใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะขยายตัวดีต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตเร่งขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก (1) การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนตามการเปิดประเทศที่เร็วกว่าคาด (2) การขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ […]
อ่านเพิ่มเติม »