ฮอนด้าเตรียมเรียกคืนรถไฮบริด 200,000 คันที่ผลิตในจีน จีน รถยนต์ไฮบริด ฮอนด้า เรียกคืนรถ อินโฟเควสท์
สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของจีนเปิดเผยว่า ฮอนด้าเตรียมเรียกคืนรถยนต์ไฮบริดประมาณ 200,000 คัน เนื่องจากพบปัญหาเกี่ยวกับเซ็นเซอร์แป้นเหยียบเบรคในบางรุ่น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รถยนต์ไฮบริดทั้งหมด 105,608 คันที่ผลิตระหว่างวันที่ 8 ต.ค. 2561 ถึง 7 ก.ย. 2563 โดยบริษัทร่วมทุนของฮอนด้ากับตงเฟิง มอเตอร์ กรุ๊ป จะถูกเรียกคืนพร้อมกับยานยนต์อีก 95,081 คันจากความร่วมมือการผลิตของฮอนด้ากับกว่างโจว ออโต้โมบิล กรุ๊ป ที่ผลิตขึ้นระหว่างวันที่ 27 ส.ค. 2561 – 6 ส.ค. 2563
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับน้ำมันหล่อลื่นที่ใส่เข้าไปในเซ็นเซอร์แป้นเหยียบเบรกในระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหากับเซ็นเซอร์เมื่อเวลาผ่านไป โดยการเรียกคืนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2566
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เวียดนามซื้อเงินดอลลาร์เพิ่ม หลังต้องเทขายเพื่อพยุงค่าเงินดอง : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ระบุในวันนี้ (27 ธ.ค.) ว่า กำลังพยายามเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศด้วยการซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่จำเป็นต้องขายเงินดอลลาร์จำนวนมาก เพื่อพยุงค่าเงินดอง ก่อนหน้านี้ SBV ได้ขายเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวนมากออกสู่ตลาด เพื่อประคับประคองค่าเงินดอง หลังสกุลเงินดังกล่าวอ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดภาวะเงินทุนไหลออก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม SBV ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อดอลลาร์ครั้งนี้ ขณะที่ นักวิเคราะห์ทางการตลาดกล่าวว่า SBV ขายเงินดอลลาร์สหรัฐไปประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปฏิบัติการพยุงค่าเงินดองครั้งนั้น นอกจากนี้ SBV ประกาศด้วยว่า จะดำเนินนโยบายการเงินให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับ 4.5% ในปีหน้า โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
นักธุรกิจเชื่อเศรษฐกิจเยอรมนีถดถอยเพียงเล็กน้อยในปีหน้า : อินโฟเควสท์บริษัทในเยอรมนีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะถดถอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในปีหน้า แม้ว่าจะเผชิญอุปสรรคหลายประการ เช่น วิกฤตพลังงาน การขาดแคลนวัตถุดิบ และเศรษฐกิจโลกซบเซา นายซิกฟรีด รุสส์วูร์ม ประธานสภาอุตสหกรรมเยอรมนี (BDI) กล่าวว่า “กิจกรรมเศรษฐกิจมีแนวโน้มทรุดตัวลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 และช่วงเริ่มต้นปี 2566 แต่เราคาดว่าจะเป็นการทรุดตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ผลสำรวจความคิดเห็นบรรดาสมาคมขนาดใหญ่ที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (27 ธ.ค.) แสดงให้เห็นว่า มีสัญญาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะสามารถรอดพ้นจากภาวะเลวร้ายที่สุดได้ แม้ถูกกดดันจากอุปทานด้านพลังงานจากรัสเซียที่ลดน้อยลง หลังรัสเซียรุกรานยูเครน อย่างไรก็ดี นายรุสส์วูร์มเตือนว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนีจะยังคงอ่อนแอจนถึงปี 2567 เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ลดน้อยลง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออก ด้านอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีอยู่ที่ 11.3% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 11.6% ในเดือนต.ค. หลังราคาพลังงานเริ่มลดลง ขณะที่ รัฐบาลเยอรมนีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัว 1.4% ในปีนี้และปีหน้า โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ด่วน! ภูเก็ตยกเลิกคำสั่งเดิมงดจุดพลุปีใหม่ แต่ให้ขออนุญาตตามเกณฑ์ : อินโฟเควสท์นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงนายอำเภอทุกอำเภอ เรื่อง การจัดงานรื่นเริงเทศกาล “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2666” โดยระบุว่า ในระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.65 – 2 ม.ค.66 เป็นช่วงเทศกาล “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566” สถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม อาจมีการจัดงานเฉลิมฉลองกิจกรรมพิเศษในช่วงเทศกาลดังกล่าว จังหวัดภูเก็ต ขอแจ้งให้ทราบว่า กระทรวงมหาดไทย มิได้มีนโยบายหรือคำสังให้หน่วยงานราชการในสังกัด และสถานประกอบการที่อยู่ในความรับผิดชอบ งดการจัดงานรื่นเริงในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566 แต่อย่างใด แต่ให้ดำเนินการ ดังนี้ ขอยกเลิกตามหนังสือจังหวัดภูเก็ต ด่วนที่สุด ที่ ภก 0018.1/6 9928 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ในข้อ 1. ขอให้นายทะเบียนท้องที่พิจารณางดอนุญาตการจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน […]
อ่านเพิ่มเติม »
ทิสโก้ แนะลดน้ำหนักลงทุนหุ้น เปิด 3 ปัจจัยกดดันปี 66 : อินโฟเควสท์นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2565 เป็นจังหวะที่นักลงทุนควรปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นลง เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพง และไม่ได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ยังมีอยู่มาก พร้อมกับแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งให้ผลตอบแทน (ยิลด์) ที่ราว 3.8% ซึ่งมีโอกาสได้ผลตอบแทนส่วนจากกำไรจากการตีราคา (Capital gain) เพิ่มอีก หากบอนด์ยิลด์เริ่มกลับมาลดลงในปีหน้า ทำให้มีโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ สกุลเงินดอลลาร์ สูงถึง 6-8% ซึ่งมากว่าผลตอบแทนที่ได้จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินเป้าหมายดัชนี S&P500 ปี 2566 ไว้ที่ 4000 จุด สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น สามารถรอจังหวะเข้าทยอยสะสมอีกครั้งเมื่อดัชนี S&P 500 ลงมาต่ำกว่า 3600 จุด โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่กำไรไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจและโตได้ในระยะยาว และหุ้นเทคโนโลยีที่ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก และมีแนวโน้มฟื้นตัวในภาวะที่ Bond Yield เป็นขาลงในปี 2566 “ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวด์ขึ้นมาราว 15% จากจุดต่ำสุดของปี และค่า P/E […]
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยปิดพุ่ง 16.36 จุด กลุ่ม Reopening ขึ้นยกแผง ลุ้นพรุ่งนี้บวกต่อ : อินโฟเควสท์SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.16 จุด เพิ่มขึ้น 16.36 จุด (+1.01%) มูลค่าการซื้อขาย 53,259.96 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นได้รับจีนเปิดประเทศเลิกกักตัว ซึ่งมาเร็วกว่าดาด ส่งให้หุ้นกลุ่ม Reopening ขึ้นยกแผง รวมหุ้นปิโตรเคมีที่ตอบรับดีมานด์จากจีนมากขึ้นหลังเปิดประเทศ แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ คาดตลาดลดความร้อนแรงอาจแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวต้านหลักที่ 1,650 จุด แนวรับที่ 1,640-1,635 จุด SET ปิดวันนี้ที่ 1,643.16 จุด เพิ่มขึ้น 16.36 จุด (+1.01%) มูลค่าการซื้อขาย 53,259.96 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับขึ้นตามภูมิภาค โดยทำระดับสูงสุด 1,645.76 จุด และระดับต่ำสุด 1,631.14 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,092 หลักทรัพย์ ลดลง 370 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 456 หลักทรัพย์ นายวีระวัฒน์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
บอร์ด PTT เคาะแล้ว! แนวทางช่วยค่าไฟกลุ่มเปราะบาง : อินโฟเควสท์นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. ได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยจัดสรรก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า รวมทั้งพยายามจัดหา LNG ที่มีราคาเหมาะสม มุ่งลดต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าเทียบเท่า 6,000 ล้านบาท พร้อมมั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะทำได้เนื่องจากคาดการณ์ว่าความต้องการปิโตรเคมีช่วงต้นปี 2566 ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติส่งผลให้สามารถจัดส่งก๊าซธรรมชาติในส่วนนี้เพิ่มเติมให้กับภาคไฟฟ้าได้ โดยเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบแนวนโยบายการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน (ตั้งแต่มกราคม – เมษายน 2566) และขอความร่วมมือ ปตท. สนับสนุนรายได้จากธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ซึ่ง ปตท. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์วิกฤตพลังงานที่จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ผ่านมา ปตท. ได้บริหารจัดการด้านพลังงานเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุดโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง รวมงบประมาณการช่วยเหลือตลอดโครงการกว่า 1,223 ล้านบาท ได้แก่ การขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีก NGV สำหรับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ จนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2566 และการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม (LPG) ให้แก่กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่เป็นผู้มีรายได้น้อยตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ […]
อ่านเพิ่มเติม »