อิรัก ชวนบริษัทต่างชาติร่วมประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ 11 แห่ง ก๊าซธรรมชาติ ต่างชาติ ประมูล อิรัก แหล่งก๊าซธรรมชาติ อินโฟเควสท์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮายาน อับดุล-กานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของอิรักได้เชิญชวนบริษัทพลังงานระหว่างประเทศเข้ามาประมูลสัมปทานสำรวจและพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ 11 แห่ง
นายอับดุล-กานี ระบุในแถลงการณ์ที่ออกโดยกระทรวงน้ำมัน ว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติ 8 จาก 11 แห่งอยู่ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของประเทศ, 1 แห่งอยู่ในจัดหวังนิเนเวห์ ทางตอนเหนือ, 1 แห่งอยู่ในพื้นที่ระหว่างจังหวัดอันบาร์และจังหวัดนาจาฟ และอีกแห่งอยู่ระหว่างจังหวัดอันบาร์และจังหวัดนิเนเวห์รายงานระบุว่า อิรักได้เปิดให้มีการลงทุนจากต่างประเทศสำหรับภาคส่วนน้ำมันและก๊าซเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2552
เมื่อเดือนพ.ค. นายอับดุล-กานี กล่าวว่า ปริมาณสำรองน้ำมันของประเทศเพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาร์เรล และปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หลังดำเนินการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ ใกล้กับจังหวัดบัสรา ซึ่งเป็นศูนย์กลางน้ำมันที่สำคัญซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางใต้ประมาณ 550 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ตัวเลขใหม่ดังกล่าวทำให้ปริมาณน้ำมันดิบสำรองของอิรักเพิ่มขึ้นแตะที่ประมาณ 1.55 แสนล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติประมาณ 140 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตทั้งนี้ เศรษฐกิจของอิรักพึ่งพาการส่งออกน้ำมันดิบเป็นอย่างมาก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมดของประเทศ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'อิรัก'เสียบแทน! 'ยูเออี'ถอนตัว ไม่เล่นบอลคิงส์คัพ เพราะเปลี่ยนโค้ช'อิรัก'เสียบแทน! 'ยูเออี'ถอนตัว ไม่เล่นบอลคิงส์คัพ เพราะเปลี่ยนโค้ช อ่านรายละเอียด : ทีมชาติไทย ช้างศึก คิงส์คัพ ฟุตบอลอาเซียน แข้งช้างศึก มาโน
อ่านเพิ่มเติม »
แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา ไม่กระทบเขื่อน 2 แห่ง จ.กาญจนบุรีเหตุแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา ขนาด 6.0 ไม่กระทบความมั่นคงแข็งแรง เขื่อนวชิราลงกรณ์ - เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ ไม่สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน
อ่านเพิ่มเติม »
ผ่าปม STARK แต่งบัญชี พบมือการเงินนั่งบอร์ด 3 บริษัทลูกเจ้าปัญหาผ่าปม 2 บริษัทลูก “STARK” เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง - ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งบัญชีกว่า 1 หมื่นล้าน พบ มือการเงิน นั่งกรรมการบริษัทลูกเจ้าปัญหา 3 แห่ง ก่อนถูกเปลี่ยน STARK
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิชาการคาดรัฐบาลใหม่อาจมีงบปี 67 ไม่พอสนองรัฐสวัสดิการ แนะทยอยทำช่วงปี 68-70 : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า คาดรัฐบาลใหม่ปรับงบประมาณปี 2567 สนองรัฐสวัสดิการได้แค่ 2 แสนล้านบาท โดยต้องไปปรับลดงบประมาณในส่วนที่สามารถพอปรับลดได้ในกระทรวงและส่วนราชการต่างๆ ขาดอีกอย่างน้อย 4.5 แสนล้านบาท หากต้องการจัดสรรให้ครบถ้วนตามนโยบายรัฐสวัสดิการที่หาเสียงเอาไว้ซึ่งต้องใช้เม็ดเงินประมาณ 6.5 แสนล้านบาท ต้องปรับลดงบกลางฉุกเฉินลงมาอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ปรับลดงบหมวดป้องกันประเทศและหมวดความสงบภายในประเทศ อีก 30% จะได้เม็ดเงินอีกประมาณ 1.06 แสนล้านบาท (46.5 พันล้านบาท + 59.568 พันล้านบาท) ในการดูแลสวัสดิการประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอตามนโยบายรัฐสวัสดิการ จึงควรทยอยจัดสวัสดิการให้ตามลำดับความจำเป็นในปีต่อๆไป โดยหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เพิ่ม หรือ เพิ่มภาษีใหม่ แต่เน้นเก็บภาษีที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นปรับปรุงประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจให้สามารถส่งเงินเข้ารัฐได้มากขึ้นหากไม่สามารถปรับลดในส่วนที่เกี่ยวกับหมวดป้องกันประเทศ หรืองบกลางฉุกเฉินหากต้องการทำให้เป้าหมายการดูแลสวัสดิการประชาชนบรรลุตามที่หาเสียงเอาไว้ก็อาจใช้วิธีขยายวงเงินงบประมาณจาก 3.35 ล้านล้านบาท เป็น 3.45-3.8 ล้านล้านบาท ด้วยเพิ่มการขาดดุลงบประมาณและก่อหนี้มาชดเชย สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพียังคงต่ำกว่าเพดาน 70% หรือ เพิ่มรายได้และเก็บภาษีให้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในกรอบงบประมาณปี 67 ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท หากเร่งทำนโยบายรัฐสวัสดิการปี 67 ต้องขยายฐานภาษีและเพิ่มอัตราภาษีหรือก่อหนี้สาธารณะเพิ่มอย่างแน่นอนการก่อหนี้สาธารณะแม้นยังอยู่ภายในเพดานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี 70%แต่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงวิกฤติฐานะการคลังในอนาคตได้ และ นอกจากนี้เมื่อรัฐบาลเพิ่มรายจ่ายสาธารณะมากเกินพอดีอาจทำให้การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของภาคเอกชนลดลงก็ได้เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยแท้จริงปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุนของเอกชนสูงขึ้น จนก่อให้เกิดการชะลอการลงทุนโดยรวมได้ผ่านการลงทุนของเอกชนทางด้านทุนด้านสวัสดิการสังคมและโครงสร้างพื้นฐานอาจลดลงได้ […]
อ่านเพิ่มเติม »
มาแรง!! ตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว หัวเว่ยเจาะตลาดตรงกลุ่มส่ง HUAWEI nova 11 series มัดใจคนเจนใหม่ พุ่งต่อคิวรอสัมผัสเครื่องเป็นกลุ่มแรกในไทย ก่อนเริ่มจำหน่าย 24 มิถุนายนนี้หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) เจาะตลาดตรงกลุ่มสำหรับ HUAWEI nova 11 Series เรียกได้ว่ากระแสตอบรับมาแรงตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ล่าสุดจัดงานเอ็กซ์คลูซีฟพรีวิวเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเครื่องก่อนเปิดตัวและวางจำหน่ายในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยลูกค้าให้ความสนใจและเดินทางมาเข้าคิวต่อแถวรอสัมผัสเครื่องเป็นกลุ่มแรกในประเทศไทยกันอย่างล้นหลามที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ HUAWEI nova 11 Series ผสมผสานความมีชีวิตชีวา ความมั่นใจ และคาแรคเตอร์ของคนเจนใหม่เข้ากับแนวคิดการออกแบบที่มุ่งเน้นเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมทั้งนวัตกรรมกล้อง
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดจับตา 'พาวเวล' แถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสสัปดาห์นี้ : อินโฟเควสท์นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดแถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธที่ 21 มิ.ย. และจากนั้นจะแถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิ.ย. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายพาวเวลมีแนวโน้มที่จะถูกซักถามเกี่ยวกับการที่เฟดตัดสินใจระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ทั้งนี้ แม้ว่าผลการประชุมเฟดครั้งล่าสุดจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่นักลงทุนในตลาดมีความกังวล เนื่องจากในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ในการแถลงต่อสภาคองเกรสครั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจะกดดันให้นายพาวเวลอธิบายเกี่ยวกับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลด้านการเงิน หลังจากมีธนาคาร 3 แห่งของสหรัฐประสบปัญหาล้มละลายในปีนี้ ในการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น นายพาวเวลแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้เฟดมีเวลาในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมทั้งผลกระทบจากการล้มละลายของธนาคาร 3 แห่งในสหรัฐว่าจะมีผลต่อกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจอย่างไร “แต่ทิศทางนโยบายการเงินในวันข้างหน้านั้น กรรมการเฟดเกือบทั้งหมดต่างก็มีมุมมองที่สอดคล้องกันว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% […]
อ่านเพิ่มเติม »