ประชาชนชาวอิตาลีเริ่มออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้วในวันนี้ (25 ก.ย.) ท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วยุโรป เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้อาจทำให้อิตาลีได้รัฐบาลฝ่ายขวาจัดมาบริหารประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งนี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางจอร์เจีย เมโลนี วัย 45 ปี ผู้นำพรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของอิตาลี มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิตาลี โดยบริหารประเทศร่วมกับอีก 2 พรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ก่อนหน้านี้ นางเมโลนีได้ปรับภาพลักษณ์ให้นุ่มนวลยิ่งขึ้น และไม่พอใจที่ถูกเชื่อมโยงกับลัทธิฟาสซิสต์ในอดีตของอิตาลี โดยเธอสนับสนุนตะวันตกในการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เธอยังคงสนับสนุนสโลแกนเก่าแก่ของลัทธิฟาสซิสต์อย่าง “พระผู้เป็นเจ้า ปิตุภูมิ และครอบครัว” การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้เปิดฉากขึ้นตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันนี้ตามเวลาไทยและมีกำหนดปิดคูหาเวลา 04.00 น.ของวันจันทร์ที่ 26 ก.ย.ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะได้รับทราบผลการเลือกตั้งเบื้องต้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
ประชาชนชาวอิตาลีเริ่มออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้วในวันนี้ ท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วยุโรป เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้อาจทำให้อิตาลีได้รัฐบาลฝ่ายขวาจัดมาบริหารประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางจอร์เจีย เมโลนี วัย 45 ปี ผู้นำพรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของอิตาลี มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิตาลี โดยบริหารประเทศร่วมกับอีก 2 พรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ก่อนหน้านี้ นางเมโลนีได้ปรับภาพลักษณ์ให้นุ่มนวลยิ่งขึ้น และไม่พอใจที่ถูกเชื่อมโยงกับลัทธิฟาสซิสต์ในอดีตของอิตาลี โดยเธอสนับสนุนตะวันตกในการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เธอยังคงสนับสนุนสโลแกนเก่าแก่ของลัทธิฟาสซิสต์อย่าง “พระผู้เป็นเจ้า ปิตุภูมิ และครอบครัว”
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้เปิดฉากขึ้นตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันนี้ตามเวลาไทยและมีกำหนดปิดคูหาเวลา 04.00 น.ของวันจันทร์ที่ 26 ก.ย.ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะได้รับทราบผลการเลือกตั้งเบื้องต้น
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
สิงคโปร์แซงฮ่องกงเป็นฮับการเงินอันดับ 1 ของเอเชีย-อันดับ 3 ของโลก : อินโฟเควสท์สิงคโปร์แซงหน้าฮ่องกงขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับหนึ่งของเอเชียแล้วในขณะนี้ และผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 3 ของโลก Global Financial Centres Index (GFCI) จัดอันดับให้มหานครนิวยอร์กของสหรัฐเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ของโลก รองลงมาได้แก่กรุงลอนดอนของอังกฤษอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนสิงคโปร์ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 และฮ่องกงหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 4 ของโลก เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 และปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรที่มีทักษะสูง ขณะที่เมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐขยับขึ้นมาอยู่ใน 5 อันดับเมืองที่เป็นศูนย์กลางการเงินของโลก ที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงเผชิญกับความยากลำบากในการพลิกฟื้นสถานะของการเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก เนื่องจากฮ่องกงจำเป็นต้องดำเนินการตามแนวทางของจีนในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุด สวนทางกับประเทศอื่น ๆ ในโลกที่เริ่มเปิดพรมแดน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากกว่า 4 ล้านคนในปี 2565 นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการประชุม Milken Institute Asia Summit, การประชุม Forbes Global CEO Conference และการแข่งขัน Singapore Grand Prix จะช่วยยกสถานะของสิงคโปร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทาง ส่วนเมืองเซี่ยงไฮ้ …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ หลังแบงก์ชาติสำคัญแห่ขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์หุ้นยุโรปเปิดตลาดลบเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสำคัญหลายแห่งแห่ขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 399.69 จุด ลดลง 0.07 จุด หรือ -0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 12,506.64 จุด ลดลง 24.99 จุด หรือ -0.20% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 5,906.18 จุด ลดลง 12.32 จุด หรือ -0.21% เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติตต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมเมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์สิ้นสุดยุคอัตราดอกเบี้ยติดลบด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 0.50% จากเดิมอยู่ที่ -0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 15 ปี หุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปร่วง …
อ่านเพิ่มเติม »
ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 44,663 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 44,663 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 5,114 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 2,237 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 3,252 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.61% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.16% ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าประมาณ 2-16 bps. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury ภายหลังจากธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 2.25% ส่งสัญญาณว่าจะยังคงคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,000 …
อ่านเพิ่มเติม »
VIBHA คาดผลงาน Q3/65 ใกล้เคียง Q2/65 เล็งดัน 2 รพ.ในเครือเข้าตลาดหุ้น 1-2 ปีนี้ : อินโฟเควสท์นายพิจิตต์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 จะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/65 เนื่องจากคนไข้โควิด-19 ลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม โดยเฉพาะรพ.วิภาราม จะน้อยลง แต่ยังได้ปัจจัยหนุนจากคนไข้ปกติเพิ่มขึ้น เห็นได้จากยอดผู้ป่วยใน (IPD) เข้ามารักษาค่อนข้างมาก อีกทั้งมีผู้ป่วยเด็ก เข้ามารักษามากขึ้น หลังเกิดโรคระบาดในเด็ก หรือ RSV ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยนอก (OPD) เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ จะมีการบุ๊คกำไรจากวัคซีนโมเดอร์นา หลัก 10 ล้านบาท ในครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงจะมีกำไรจากการขายหุ้นสามัญของ บมจ.ศิครินทร์ (SKR) ออกไปบางส่วนด้วย ซึ่งจะไปรวมอยู่ในส่วนของกำไรสะสมของบริษัท โดยบริษัทจะนำกำไรในส่วนนี้ มาจ่ายเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น และชำระคืนเงินกู้ต่อไป ขณะที่จำนวนผู้ป่วยต่างชาติ ปัจจุบันมีสัดส่วนไม่ถึง 3% ของยอดผู้ป่วยรวม ซึ่งในส่วนนี้จะมาจากรพ.เชียงใหม่ ราม เป็นหลัก โดยเมื่อเจอผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติลดลง ทำให้รายได้ลดลงตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามคาดว่า หากการท่องเที่ยวดีขึ้น นักท่องเที่ยวกลับมา …
อ่านเพิ่มเติม »
รมว.ยุติธรรม ตั้งคณะทำงานศึกษากม.ตปท. ปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ : อินโฟเควสท์นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่จะปกป้องเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้สั่งการให้คณะทำงานนี้ไปศึกษากฎหมายของประเทศออสเตรเลีย ที่มีกฎหมายช่วยเกษตรกรผู้ทำฟาร์มม้า เพื่อนำมาร่างเป็นกฎหมายใช้กับประเทศไทย นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากนี้ คณะทำงานจะเข้าไปศึกษาและแปลกฎหมายของประเทศออสเตรเลียอย่างละเอียด รวมถึงศึกษากฎหมายของประเทศอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อจะนำมาร่างเป็นกฎหมายใช้ปกป้องเกษตรกรในประเทศไทย เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกษตรกร ประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน เหมือนประเทศออสเตรเลีย ที่มีกฎหมายคุ้มครองฟาร์มม้า เนื่องจากแต่ละปี เกษตรกรของออสเตรเลีย มีการส่งออกม้าจำนวนมาก เพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรได้ ดังนั้น กฎหมายนี้ อาจจะเป็นฉบับแรก ที่จะช่วยส่งเสริมผู้เลี้ยงสัตว์ อย่าง วัว ไก่ชน และนกกรงหัวจุกให้สามารถยกระดับอาชีพนี้ และมีรายได้อย่างมั่นคงได้ “บ้านเรา ประชาชนส่วนใหญ่ มีอาชีพทำไร่ ทำนา เลี้ยงสัตว์ ดังนั้น ผมจึงมีความสนใจเป็นพิเศษ ในการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะ วัว ไก่ชน และนกกรงหัวจุก ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรได้หลายเท่าตัว แต่ปัจจุบัน บ้านเรา ยังไม่มีกฎหมายที่จะปกป้องเกษตรกร เหมือนต่างประเทศ ผมจึงอยากผลักดันกฎหมายนี้ ให้กับผู้คนที่เลี้ยงสัตว์ …
อ่านเพิ่มเติม »