อาเซียน ถกคู่เจรจาบวกสามเดินหน้ารับรองแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจปี 66-67 เศรษฐกิจอาเซียน อินโฟเควสท์
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้รับมอบหมายจาก รมว.พาณิชย์ ให้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและประเทศคู่เจรจาบวกสาม ครั้งที่ 25 ณ จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ 17 ก.ย.
โดยที่ประชุมได้รับรองแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม ปี 2566-2567 ซึ่งเป็นแผนกิจกรรมที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่น การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียนกับคู่เจรจา การส่งเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการเพิ่มขีดความสามารถของอาเซียนบวกสามในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งนี้แผนงานดังกล่าวยังได้เพิ่มความร่วมมือด้านใหม่ ได้แก่...
ทั้งนี้ สภาธุรกิจเอเชียตะวันออก ได้นำเสนอกิจกรรมสำคัญในปีนี้ โดยเฉพาะการจัดทำ E-book การจัดสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับความตกลง RCEP เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้าใจและใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP มากขึ้น โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ http://www.eabex.
สำหรับในปี 2564 การค้าระหว่างอาเซียนและประเทศบวกสาม มีมูลค่า 1.098 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 25.1% ของปริมาณการค้ารวมของอาเซียน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ที่มาจากประเทศบวกสาม มีมูลค่ากว่า 32.65 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 25.4% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมายังอาเซียน สำหรับในช่วง 7 เดือน การค้าระหว่างไทยกับประเทศบวกสาม มีมูลค่า 126,760.52 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.63% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และในปี 2564 มีมูลค่าการค้ารวม 180,284.38 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 33.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ปัตตานีระทึก รถรับส่งนักเรียนเข้าด่านตรวจ พลิกคว่ำเจ็บ 6 คนที่ จ.ปัตตานีเกิดเหตุการณ์เกือบสูญเสียชีวิตของกลุ่มเด็กนักเรียนในพื้นที่ โดยเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดคลิปรถกระบะรับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ
อ่านเพิ่มเติม »
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธขู่ ก่อนสหรัฐ-เกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบ : อินโฟเควสท์คณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยในวันนี้ (25 ก.ย.) ว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ตกลงในน่านน้ำตะวันออกจากเมืองแทชอน จังหวัดพยองอันเหนือเมื่อเวลา 6.53 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 4.53 น.ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ขณะที่ ยามชายฝั่งญี่ปุ่นยืนยันเรื่องการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ พร้อมเตือนให้เรือระมัดระวังตัว โดยคาดว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวตกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น สำนักข่าวบีบีซีรายงานโดยอ้างอิงสื่อทางการเกาหลีใต้ว่า เกาหลีเหนืออาจกำลังเตรียมการทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวจากเรือดำน้ำ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น 2 วัน หลังจากเรือบรรทุกเครื่องบินโรนัลด์ เรแกนของสหรัฐเดินทางมาถึงปูซาน เมืองท่าของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีเพื่อเข้าร่วมการซ้อมรบกับกองทัพเรือเกาหลีใต้ และก่อนนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางเยือนเกาหลีใต้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลเร่งพัฒนาศักยภาพสนามบินทั่วประเทศเพื่อมุ่งเป็นศูนย์กลางคมนาคมอาเซียน : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาท่าอากาศยานทั่วประเทศ โดยเร่งปรับปรุงพัฒนาสนามบินที่มีอยู่เดิมให้มีศักยภาพการรองรับการเดินทางและขนส่งทั้งในและระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น สอดรับกับนโยบายเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบของรัฐบาล รวมทั้งเป็นการใช้เงินงบประมาณของภาครัฐในการช่วยกระจายเม็ดเงินลงสู่ท้องถิ่น ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบหมายกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่รับผิดชอบการบริหารจัดการสนามบินในประเทศไทย ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. และกรมท่าอากาศยาน ดำเนินการปรับปรุงและขยายพื้นที่การใช้งานของสนามบินนานาชาติรวม 3 แห่ง คือ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินต่างๆ ในภูมิภาค ให้มีความพร้อมที่จะรองรับการเดินทางท่องเที่ยวและขนส่งทางอากาศเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิเป็นการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดความแออัด พร้อมเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคอาเซียน โดยดำเนินการดังนี้ 1.ก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรองที่ 1 (Satellite 1) ซึ่งมีหลุมจอดเครื่องบินประชิดอาคารเพิ่มอีก 28 หลุม จากเดิมที่มีอยู่ 51 หลุม จะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2565 รวมถึงก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2566 2.ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักหลังที่ 1 ด้านทิศตะวันออก (East Expansion) รองรับผู้โดยสาร 15 …
อ่านเพิ่มเติม »
จนท.มั่นคงจีนถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต เหตุ 'สี จิ้นผิง' ปราบปรามกลุ่มการเมือง : อินโฟเควสท์ศาลจีนตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตอดีตเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูง ซึ่งถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจปราบปรามกลุ่มการเมือง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนถึงการปรับเปลี่ยนคณะผู้นำทางการเมืองครั้งสำคัญ ที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลางเดือนหน้า ทั้งนี้ สำนักข่าวซีซีทีวีรายงานว่า นายซุน ลี่จวิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน อายุ 53 ปี ถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยศาลในเมืองชางฉุน มณฑลจี๋หลิน หลังพบว่ามีความผิดจริงในคดีรับสินบน 646 ล้านหยวน (91 ล้านดอลลาร์) รวมถึงการปั่นหุ้นและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ก่อนหน้านี้ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีนกล่าวหาว่านายซุนใช้อำนาจในทางมิชอบและจัดตั้งกลุ่มผลประโยชน์ รวมถึงละทิ้งหน้าที่ในระหว่างเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 และเปิดเผยเอกสารลับของทางการ นอกจากนี้ นายฟู่ เจิ้งหัว อดีตรัฐมนตรียุติธรรมและนายหวัง ลี่เคอ อดีตเจ้าหน้าที่ในมณฑลเจียงซู ซึ่งเกี่ยวพันกับกลุ่มผลประโยชน์ของนายซุน ก็ถูกศาลตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกันในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีก 3 รายที่ถูกตัดสินโทษจำคุกระยะยาวในวันพุธ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การตัดสินโทษครั้งนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมีความพยายามในการปราบปรามเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ระดับสูง ก่อนถึงการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคฯที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 16 ต.ค. ณ กรุงปักกิ่ง โดยคาดการณ์กันว่า ปธน.สีจะกุมอำนาจต่อเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งถือเป็นการท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมที่บัญญัติให้ประธานาธิบดีแต่ละคนสามารถรั้งตำแหน่งผู้นำแดนมังกรได้เพียง 2 สมัย รวมทั้งสิ้น 10 …
อ่านเพิ่มเติม »
กรมชลฯ บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ลดผลกระทบด้านท้าย : อินโฟเควสท์นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยจากรายงานของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ว่า สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาปัจจุบัน (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,968 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที มีแนวโน้มลดลง สมทบกับแม่น้ำสะแกกรัง ผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จ.อุทัยธานี วัดได้ 88 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะใช้ระบบชลประทานในพื้นที่ตอนบน ในการควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 2,000 ลบ./วินาที เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน ขณะเดียวกันได้ลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ตอนล่างให้ได้มากที่สุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »