ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีที่ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมคณะทำงานได้เข้าหารือกับ นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 เพื่อหารือกรณีที่จะยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหาคาดว่าประกอบด้วย พันเอก หม่องชิตตู , พันโท โมเต โธน และ พันตรี ทิน วิน ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์คอลเซนเตอร์
จากกรณีที่ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยคณะทำงานได้เข้าหารือกับ นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการ พิเศษฝ่ายสำนักงานคดี ค้ามนุษย์ 1 เพื่อหารือกรณีที่จะยื่นคำร้องขอออก หมายจับ ผู้ต้องหาซึ่งคาดว่าประกอบด้วย พันเอก หม่องชิตตู , พันโท โมเต โธน และ พันตรี ทิน วิน ในความผิดเกี่ยวกับการ ค้ามนุษย์ คอลเซนเตอร์ มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 11 ก.พ.
ทางพนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ซึ่งเป็นอัยการร่วมสอบสวนในคดีนอกราชอาณาจักร ได้หารือเบื้องต้นพบว่า พยานหลักฐานน่ายังไม่เพียงพอที่จะให้ศาลออกหมายได้ จึงเห็นควรให้ดีเอสไปสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้รอบคอบรัดกุม ก่อนนำมาพิจารณาที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายจับต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพฤติการณ์ที่ DSI นำเข้าหารือกับพนักงานอัยการในเรื่องขออกหมายจับนั้น เนื่องด้วยเป็นกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหามีการนำชาวอินเดียไปทำการค้ามนุษย์และบังคับทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ่อนเฮงเชง เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ประเทศไทย แต่ทางการไทยสามารถช่วยกลับมาได้ 7 ราย โดยพบว่าทั้ง 7 รายมีลักษณะพฤติการณ์ถูกหลอกโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน คล้ายคลึงกับกรณีซิง ซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกหลอกและทางการไทยสามารถช่วยเหลือได้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินคดีขบวนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับใครบ้าง อย่างไรก็ตาม มีรายงานจาก DSI ว่า คดีนี้อาจจะมีชาวไทยเกี่ยวข้องประมาณ 2 ราย มีบทบาทเป็นกรรมการบริษัทและพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ให้บริการจัดทำรีสอร์ตทั้งในไทยและในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ โดยเกี่ยวขัองกับขบวนการนำส่งคนไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เเหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า กรณีเรื่องการขอออกหมายจับเป็นเรื่องระหว่างพนักงานสอบสวน กับศาล ที่พนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องพร้อมเอกสารพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ ซึ่งเมื่อศาลพิจารณาออกหมายจับเเล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็จะสามารถปฏิบัติตามหมายได้ ในกรณีที่ตัวผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ทางพนักงานสอบสวนผู้ร้องขอออกหมายจับจะมีการประสานขอออกหมายเเดง (อินเตอร์โพล) กับชาติสมาชิกอินเตอร์โพลทั้ง 194 ประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ที่จะขึ้นในประเทศสมาชิก เมื่อข้อมูลการออกหมายเเดงกระจายไปยังประเทศสมาชิก เเละพบว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับนั้นพำนักอยู่ในประเทศนั้น ตำรวจในประเทศปลายทางก็จะตามจับกุมตัว ในกรณีที่มีการจับกุมตัวได้ทางประเทศปลายทางก็จะมีการกุมตัวไว้ตามหมายจับชั่วคราวเเละเเจ้งประเทศต้นทางที่เป็นสมาชิกให้ทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายเเดนส่งมาโดยการเเจ้งจะเเจ้งผ่านอินเตอร์โพล ซึ่งเมื่อได้รับเเจ้งจากอินเตอร์โพลก็จะทำเรื่องมายัง อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง ตั้งเเเรกเริ่มทุกขั้นตอนจะส่งผ่านอัยการสูงสุดเพื่อทราบว่าบุคคลตามหมายจับถูกกุมตัวเเละพำนักในประเทศใด เมื่อได้รับทราบพิกัด หรือควบคุมตัวเเล้วทางอัยการสูงสุดจะเป็นผู้ประสานงานกลางในการทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดนไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอตัวผู้ร้ายข้ามเเดนตามหมายจับมาดำเนินคดีในไทย โดยหลักเกณฑ์ในการขอผู้ร้ายข้ามเเดนคร่าวๆก็จะมีรายละเอียดเช่น เป็นคดีอาญามีโทษร้ายเเรง เป็นคดีอาญาที่เป็นความผิดของทั้งสองประเทศ เเละไม่เป็นคดีทางการเมือง หรือศาสนา การขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดนจะมีการขอได้ 2 เเบบคือกรณีมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามเเดนจะพิจารณาจากการมีสนธิสัญญาที่ทำร่วมกันระหว่างประเทศ เเละ 2 กรณีที่ไม่มีสนธิสัญญาก็จะมีหลักสัญญาต่างตอบเเทนโดยการทำคำมั่นสัญญาว่าหากส่งตัวผู้ร้ายข้ามเเดนมายังประเทศต้นทางในครั้งหน้าก็จะดำเนินการต่างตอบเเทนเช่นเดียวกัน การร้องขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน มิใช่ว่าจะได้รับความร่วมมือทุกครั้งไป เเล้วเเต่ประเทศปลายทางจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้ศาลในประเทศนั้นเป็นผู้พิจารณาคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดน เเละจะมีการเปิดโอกาสให้มีการอุทธรณ์คำพิพากษาได้ ตรงนี้เเต่ละประเทศก็จะมีขั้นตอนระยะเวลาอยู่ อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศการจะส่งผู้ร้ายข้ามเเดนเเม้ศาลจะอนุญาตเเล้วก็ยังต้องได้รับอำนาจกลั่นกรองโดยฝ่ายบริหาร หรือที่เรียกว่า executive review ที่ฝ่ายบริหารอาจจะต้องมาพิจารณาที่ผ่านมา เคยมีกรณีที่ศาลอนุมัติเเล้วเเต่ฝ่ายบริหารประเมิณเเล้วมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศพิจารณาเเล้วไม่ส่งก็มี เช่นเป็นกรณีที่ บางทีผู้ร้ายเป็นที่ต้องการขอตัวของหลายประเทศหากส่งไปให้ประเทศใดประเทศหนึ่งเเล้วจะกระทบความสัมพันธ์ได้ ซึ่งคดีดังกล่าวที่จะมีการปรึกษาในเรื่องการขอออกหมายจับมีรายงานว่า เป็นคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ชาวอินเดีย เมื่อปี 2565 สำหรับพฤติการณ์ที่ DSI จะนำหารือกับพนักงานอัยการนั้น เนื่องด้วยเป็นกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหามีการนำชาวอินเดียไปทำการค้ามนุษย์และบังคับทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ่อนแห่งหนึ่ง เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ประเทศไทย แต่ทางการไทยสามารถช่วยกลับมาได้ 7 ราย โดยพบว่าทั้ง 7 รายมีลักษณะพฤติการณ์ถูกหลอกโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน คล้ายคลึงกับกรณีซิง ซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกหลอกและทางการไทยสามารถช่วยเหลือได้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินคดีขบวนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานจาก DSI ว่า คดีนี้อาจจะมีชาวไทยเกี่ยวข้องประมาณ 2 ราย มีบทบาทเป็นกรรมการบริษัทและพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ให้บริการจัดทำรีสอร์ตทั้งในไทยและในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ โดยเกี่ยวขัองกับขบวนการนำส่งคนไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร
ค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ หมายจับ อัยการ ดีเอสไอ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
“ทวี” เผย ดีเอสไอ เตรียมออกหมายจับ “หม่องชิตตู และพวก รวมถึงกลุ่มคนจีน““ทวี” เผย ดีเอสไอ เตรียมออกหมายจับ “หม่องชิตตู และพวก รวมถึงกลุ่มคนจีน“ เล็งใช้ช่องทาง “อาเซียน-จีน” ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
อ่านเพิ่มเติม »
รังสิมันต์ โมง จี้ 'รัฐบาลไทย' ออกหมายจับ 'หม่องชิตตู' ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์นายรังสิมันต์ โรม เรียกรัฐบาลไทยออกหมายจับ 'หม่องชิตตู' หัวหน้า BGF เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด เนื่องจาก BGF เช่า และร่วมลงทุนในชเวก๊กโก กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้คนกลายเป็นทาสและเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ นอกจากนั้นยังทราบว่า หม่องชิตตู กุมความลับของเจ้าหน้าที่รัฐไทย
อ่านเพิ่มเติม »
ดีเอสไอเตรียมออกหมายจับ'หม่องชิตตู' และพวกคดียาเสพติดค้ามนุษย์พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยว่า ดีเอสไอ เตรียมออกหมายจับ 'หม่องชิตตู' และพวก รวมกลุ่มคนจีน เอี่ยว'ค้ามนุษย์' ใช้ช่องทางอาเซียน-จีนส่งผู้ร้ายข้ามแดน
อ่านเพิ่มเติม »
'ทวี' เผย 'ดีเอสไอ' เตรียมออกหมายจับ 'หม่องชิตตู' และพวก รวมกลุ่มคนจีน เอี่ยว'ค้ามนุษย์' ใช้ช่องทางอาเซียน-จีนส่งผู้ร้ายข้ามแดนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมนำหลักฐานคดีค้ามนุษย์เข้าพบอัยการ เพื่อหารือประเด็นการออกหมายจับผู้ต้องหา ประกอบด้วย ผู้นำกองกำลัง BGF ที่จะมีการเสนอขอออกหมายจับ อาทิ พ.อ.ซอชิตตู หรือ พ.อ.หม่องชิตตู , พ.ท.โมเต โธน และ พ.ต.
อ่านเพิ่มเติม »
DSI หารืออัยการ ขอหมายจับ 'หม่องชิตตู' คดีค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมหารืออัยการ เพื่อขอออกหมายจับ พันเอก หม่องชิตตู ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF ที่ปรากฎ...
อ่านเพิ่มเติม »
ดีเอสไอหารืออัยการขอหมายจับ 'หม่องชิตตู' คดีค้ามนุษย์มีรายงานข่าวว่า ดีเอสไอเตรียมหารืออัยการเพื่อขอออกหมายจับ 'พ.อ.หม่องชิตตู' ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF ที่ปรากฏหลักฐานภายหลังการช่วยเหลือเหยื่อคดีค้ามนุษย์ วันนี้ (11 ก.พ.
อ่านเพิ่มเติม »