ออสซี่เกินดุลการค้าต่อเนื่องในเดือนต.ค. หลังส่งออกโลหะ-ก๊าซเพิ่มขึ้น ก๊าซธรรมชาติ ออสเตรเลีย เกินดุลการค้า เศรษฐกิจออสเตรเลีย โลหะ อินโฟเควสท์
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย รายงานในวันนี้ ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้า 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในเดือนต.ค. หลังจากที่เกินดุล 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนก.ย. เนื่องจากการส่งออกก๊าซธรรมชาติและโลหะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าเดือนต.ค.ของออสเตรเลียสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และเป็นการเกินดุลที่ต่อเนื่องยาวนานนับตั้งแต่เดือนม.ค.
นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ เช่น ข้าวสาลี โดยยอดส่งออกข้าวสาลีเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลที่ว่า สงครามที่ยืดเยื้อในยูเครนจะทำให้ยูเครนไม่สามารถส่งออกผลผลิตได้ ทั้งนี้ ABS ระบุว่า ยอดส่งออกเชื้อเพลิง ซึ่งรวมถึงก๊าซธรรมชาติ ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนต.ค. ขณะที่ยอดส่งออกโลหะต่าง ๆ ปรับตัวขึ้น 6.1% ส่วนยอดส่งออกธัญพืชเพิ่มขึ้น 9.8%
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
UBA พร้อมลงสนามเทรดวันแรก 7 ธ.ค. ชูผู้นำธุรกิจจัดการน้ำครบวงจรรายแรก : อินโฟเควสท์นายสมชาติ สังหิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ (UBA) มั่นใจว่าในวันที่ 7 ธันวาคม 2565 หุ้น UBA จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการเป็นวันแรก เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก เนื่องจากบริษัทฯเป็นผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการจัดการน้ำ เดินระบบ และบำรุงรักษาแบบครบวงจร และเป็นผู้ให้บริการจัดการน้ำเอกชนรายใหญ่ มีเชี่ยวชาญการบริหารจัดการเดินระบบ และบำรุงรักษาอุโมงค์ระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร(กทม.) และเป็นเอกชนรายแรกที่ประกอบธุรกิจการบริการจัดการน้ำแบบครบวงจรเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมทั้งมีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุดผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 50.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6 %จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 17.74 % ซึ่งเป็นอัตราที่อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของ ปี 2563 – 64 อยู่ที่ระดับ 17 …
อ่านเพิ่มเติม »
SCB นำร่องขึ้นดอกเบี้ยกู้-เงินฝาก มีผล 7 ธ.ค. : อินโฟเควสท์ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น 0.125 – 0.25% ต่อปี โดย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) ปัจจุบันอยู่ที่ 5.995% เป็น 6.120% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (Minimum Loan Rate) ปัจจุบันอยู่ที่ 5.500% เป็น 5.750% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) ปัจจุบันอยู่ที่ 6.095% เป็น 6.345% ต่อปี ขณะที่ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นสูงสุด 0.45% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่อยู่ระหว่าง 0.25- 1.40% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.65 เป็นต้นไป นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในครั้งนี้ เป็นไปตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลก ประกอบกับสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปของไทย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อแม้มีแนวโน้มปรับลดลง …
อ่านเพิ่มเติม »
รัสเซียเผยโดรนยูเครนโจมตีแทงก์น้ำมันลานจอดเครื่องบินของรัสเซีย : อินโฟเควสท์นายโรมัน สตาโรวอยต์ ผู้ว่าการแคว้นคูร์ส (Kursk) ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนยูเครน รายงานวันนี้ (6 ธ.ค.) ว่า โดรนลำหนึ่งได้บุกเข้าจู่โจมลานจอดเครื่องบินในแคว้นคูร์สของรัสเซีย จนทำให้เกิดไฟลุกท่วมแทงก์น้ำมัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่รัสเซียเพิ่งออกมากล่าวหาว่า ยูเครนได้ใช้โดรนโจมตีลานจอดเครื่องบินในเขตกองทัพรัสเซียอย่างอุกอาจ ทั้งนี้ นายสตาโรวอยต์ ระบุผ่านเทเลแกรมว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุโจมตีครั้งล่าสุดนี้ และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ไว้ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่ายังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของรายงานดังกล่าว ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า โดรนของยูเครนได้บุกจู่โจมฐานทัพอากาศ 2 แห่งในเมืองไรซาน (Ryazan) และ ซาราตอฟ (Saratov) ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนใต้ของรัสเซีย ทำให้มีทหารเสียชีวิตไปทั้งสิ้น 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย และทำให้เครื่องบินเสียหาย 2 ลำ อย่างไรก็ตาม ยูเครนไม่ได้ออกมายอมรับว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี โดยหากยูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจริง การโจมตีเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) นับว่าเป็นการจู่โจมที่รุกล้ำเข้าไปในดินแดนของรัสเซียมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส (New York Times) ได้รายงานโดยอ้างอิงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 7.28 จุด ซึมลง ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น : อินโฟเควสท์SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,634.35 จุด ลดลง 7.28 จุด (-0.44%) มูลค่าการซื้อขายราว 31,246.87 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าซึมลงกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อ หลังตัวเลขดัชนีภาคบริการและตัวเลขการจ้างงานเดือน พ.ย. สูงกว่าคาด ซึ่งยังต้องติดตามการประชุมเฟด และ ECB รวมถึงการปรับน้ำหนักการลงทุนของ FTSE Rebalance ในสัปดาห์หน้า บ่ายคาดตลาดฯซึมตัวในทิศทางเดียวกับช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,633 จุด และ 1,630 จุด แนวต้าน 1,640-1,645 จุด ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,634.35 จุด ลดลง 7.28 จุด (-0.44%) มูลค่าการซื้อขายราว 31,246.87 ล้านบาท การซื้อขายในช่วงเช้านี้ แกว่งตัวไซด์เวย์ในแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,640.87 จุด และต่ำสุด 1,633.52 จุด นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี …
อ่านเพิ่มเติม »
'สแตนชาร์ด' คาดราคาทองพุ่ง 30% แตะระดับ $2,250 ในปีหน้า : อินโฟเควสท์ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้น 30% สู่ระดับ 2,250 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีหน้า ทั้งนี้ นายเอริค โรเบิร์ตเซน หัวหน้านักวิจัยระดับโลกของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานชื่อ “เรื่องเซอร์ไพรส์ของตลาดการเงินในปี 2566” หรือ “The financial-market surprises of 2023” โดยได้ระบุถึงเหตุการณ์หลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งตลาดได้มองข้ามไป หนึ่งในเหตุการณ์ในรายงานดังกล่าวคือการที่ราคาทองจะพุ่งขึ้น 30% สู่ระดับ 2,250 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองเพื่อหาเสถียรภาพ ท่ามกลางความผันผวนในตลาดหุ้น นอกจากนี้ นายโรเบิร์ตเซนคาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะทรุดตัวลงสู่ระดับ 5,000 ดอลลาร์ ซึ่งหากเป็นจริงตามรายงาน ก็หมายความว่าบิตคอยน์จะดิ่งลงราว 70% จากในขณะนี้ที่ระดับ 17,000 ดอลลาร์ “แรงเทขายบิตคอยน์จะรุนแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทคริปโทฯ และกระดานเทรดจำนวนมากเผชิญกับการขาดแคลนสภาพคล่อง ทำให้เกิดการล้มละลายมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัล” รายงานระบุ ทั้งนี้ บิตคอยน์ได้ทรุดตัวลงมากกว่า 60% ในปีนี้ หลังจากเผชิญกับข่าวอื้อฉาวมากมายเกี่ยวกับการล่มสลายของอุตสาหกรรมคริปโทฯ โดยล่าสุด …
อ่านเพิ่มเติม »
จีนเล็งผ่อนคลายมาตรการโควิดเพิ่มเติมวันนี้ หลังยอดติดเชื้อลดต่อเนื่อง : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลจีนเตรียมประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เพิ่มเติมในวันนี้ (7 ธ.ค.) ซึ่งครอบคลุมถึงการอนุญาตให้ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สามารถกักตัวอยู่ที่บ้านและให้ถือเป็นนโยบายที่บังคับใช้ทั่วประเทศ รวมทั้งการยกเลิกการตรวจเชื้อโควิด-19 ในกรณีที่ไม่จำเป็น ในขณะที่รัฐบาลยังคงเร่งผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังจากเกิดการประท้วงต่อต้านทั่วประเทศเมื่อไม่นานมานี้ แหล่งข่าวระบุว่า หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่จะมีการประกาศในสัปดาห์นี้คือ การอนุญาตให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงต่ำสามารถกักตัวอยู่ที่บ้านได้ แทนการถูกส่งตัวไปยังสถานที่กักตัวที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ จะมีการยกเลิกการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR ยกเว้นในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ทางการจีนอาจจะลดหรืออาจจะยกเลิกข้อกำหนดให้ประชาชนต้องสแกนรหัสสุขภาพผ่านทางแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนทุกครั้งที่จะเข้าใช้บริการในพื้นที่สาธารณะ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้เงินหยวนในตลาดออนชอร์ดีดตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 6.98 หยวนต่อดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ลดลง 0.01% คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 25,321 รายในวันอังคาร (6 ธ.ค.) โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 4,409 ราย และไม่แสดงอาการ 20,912 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อในวันอังคารลดลงจากระดับ 28,062 รายในวันจันทร์ …
อ่านเพิ่มเติม »