อย่ามองข้ามอาการไอที่ดูเหมือนธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณของ 'โรคไอกรน'

ไอกรน ข่าว

อย่ามองข้ามอาการไอที่ดูเหมือนธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณของ 'โรคไอกรน'
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 amarintvhd
  • ⏱ Reading Time:
  • 54 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 25%
  • Publisher: 53%

'ไอกรน' โรคร้ายที่อาจทำให้ทำให้เด็กเล็กมีโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตได้สูงกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า

หลายคนอาจมองข้ามอาการไอที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ในความเป็นจริงอาจเป็นสัญญาณของ"โรคไอกรน" ที่หากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงในเด็ก เพราะระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดี ทำให้เด็กเล็กมีโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตได้สูงกว่าผู้ใหญ่หลายเท่าเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากแบคทีเรีย Bordetella pertussis ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ โรคนี้จะมีความรุนแรงในเด็กทารกและเด็กเล็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง...

ปัจจุบันโรคไอกรนได้กลับมาระบาดอีกครั้งในหลายประเทศ แม้ว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่มีการใช้วัคซีน แต่รายงานจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าในปี 2023 ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วยโรคไอกรนกว่า 150,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำหรือไม่มีการเข้าถึงวัคซีนอย่างเพียงพอ เช่น ในสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยไอกรนกว่า 15,000 รายต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนประเทศไทย พบผู้ป่วยไอกรนเพิ่มขึ้น...

2.

โรคไอกรนสามารถรักษาได้ โดยการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าแบคทีเรีย Bordetella pertussis ที่เป็นสาเหตุของโรค ซึ่งยาจะทำงานได้ดีที่สุดในช่วง 7 วันเเรกที่มีอาการถึงจะได้ผลการรักษาดีที่สุด แต่ในเด็กเล็กบางราย อาจจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเเละต้องให้น้ำเกลือเมื่อมีอาการไอจนกินอะไรไม่ได้ ไอจนอาเจียน และเบื่ออาหารมาก สำหรับการป้องกันโรคไอกรนที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีน ซึ่งวัคซีนนี้มักรวมอยู่ในวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน โดยมีกำหนดการฉีดในเด็กที่อายุ 2, 4, 6, และ 18 เดือน และกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 4-6 ปี นอกจากนี้ ควรฉีดวัคซีนกระตุ้นในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ทุก 10 ปี เพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกัน

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

amarintvhd /  🏆 40. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

โรคไอกรนระบาด เช็คสาเหตุ อาการที่ควรรู้ ลดความเสี่ยงโรคไอกรนระบาด เช็คสาเหตุ อาการที่ควรรู้ ลดความเสี่ยงชวนศึกษาสาเหตุ โรคไอกรน ลักษณะอาการเด่นที่ควรรู้ พร้อมวิธีการป้องกันบุตรหลานจากความเสี่ยง หลังมีรายงานการระบาดของโรคนี้ ในพื้นที่ รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ก่อนสั่งปิดเรียนสองสัปดาห์
อ่านเพิ่มเติม »

'โรคไอกรน' อาการที่ต้องรีบพบแพทย์ หลังพบผู้ป่วยกลางกรุง'โรคไอกรน' อาการที่ต้องรีบพบแพทย์ หลังพบผู้ป่วยกลางกรุงสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ กรมการแพทย์ เผยกลุ่มเสี่ยง 'โรคไอกรน' ที่อาการจะรุนแรง เผยอาการที่ต้องรีบพบแพทย์ เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการไอ จาม และการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อเข้าไป ย้ำมีวัคซีนป้องกัน
อ่านเพิ่มเติม »

15 ข้อไขสงสัย 'โรคไอกรน' หลังพบระบาดเด็กนักเรียนกลางกรุง15 ข้อไขสงสัย 'โรคไอกรน' หลังพบระบาดเด็กนักเรียนกลางกรุง“หมอยง”ไขข้อข้องใจ 'โรคไอกรน '15 เรื่อง ย้ำมีวัคซีนป้องกัน แนะนำเด็กอายุ 10-12 ปี ควรรับวัคซีนกระตุ้น หลังพบระบาดในเด็กนักเรียนโรงเรียนกลางกรุง
อ่านเพิ่มเติม »

'โรคไอกรน' ร.ร.สาธิต มศว ปทุมวัน สงสัยเริ่มจากทีมบาส ป่วยทุกรายรับวัคซีนครบ'โรคไอกรน' ร.ร.สาธิต มศว ปทุมวัน สงสัยเริ่มจากทีมบาส ป่วยทุกรายรับวัคซีนครบ“สมศักดิ์” เผย “โรคไอกรน” ร.ร.สาธิต มศว ปทุมวัน สงสัยการระบาดเริ่มจากทีมบาสเก็ตบอล ทุกรายฉีดวัคซีนครบ เฝ้าระวังจนถึงสิ้นปี ชี้เด็กไทยส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนครบ ช่วยลดอาการรุนแรง
อ่านเพิ่มเติม »

รู้จัก 'โรคไอกรน' อันตรายแค่ไหน ทำไมเด็กเล็กถึงต้องระวังรู้จัก 'โรคไอกรน' อันตรายแค่ไหน ทำไมเด็กเล็กถึงต้องระวัง'หมอยง' ไขข้อข้องใจ 'โรคไอกรน' กำลังระบาดอยู่ขณะนี้ อันตรายแค่ไหน ทำไมเด็กเล็กถึงต้องระวัง ชี้ ปิดโรงเรียน 2 สัปดาห์ ไม่เกิดประโยชน์
อ่านเพิ่มเติม »

'โรคไอกรน' ป่วยยืนยัน 20 คน ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด'โรคไอกรน' ป่วยยืนยัน 20 คน ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกรมควบคุมโรค ส่งทีมลงพื้นที่สอบสวน 'โรคไอกรน' ยืนยันผู้ป่วย 20 คน อยู่ระหว่างติดตามและควบคุมโรคในกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม แนะผู้ปกครองพาบุตรหลานไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนด วันนี้ (13 พ.ย.2567) นพ.
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-26 14:56:40