อนุทิน มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม ปัดข่าว 'สันติ' ย้ายซบภูมิใจไทย : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

อนุทิน มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม ปัดข่าว 'สันติ' ย้ายซบภูมิใจไทย : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 20 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 11%
  • Publisher: 68%

อนุทิน มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม ปัดข่าว 'สันติ' ย้ายซบภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทย อินโฟเควสท์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในวันนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า ครม.ยังบริหารราชการแผ่นดินได้ตามปกติ และยังไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนลำดับของรองนายกรัฐมนตรีที่จะทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ ทุกคนก็รับทราบดี

“พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลอยู่ ยังไม่ได้ไปไหน มีการติดตาม กำชับการทำงาน แต่ไม่ได้สั่งการอะไร และในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องให้กำลังใจท่าน ให้มีความเข้มแข็งประคองสถานการณ์ต่อไป อย่างไรก็ตามทุกคนต้องเคารพกฎหมาย”สำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุม ครม.ได้อย่างสมบูรณ์และเรียบร้อย ส่วน พล.อ.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ไบแนนซ์ ร่วมมือฟิลิปปินส์-กัมพูชา-เกาหลีใต้ วางรากฐานพัฒนาคริปโทฯ-DeFi : อินโฟเควสท์ไบแนนซ์ ร่วมมือฟิลิปปินส์-กัมพูชา-เกาหลีใต้ วางรากฐานพัฒนาคริปโทฯ-DeFi : อินโฟเควสท์ไบแนนซ์ (Binance) ผู้นำบล็อกเชนอีโคซิสเต็ม (Blockchain Ecosystem) ระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และเกาหลีใต้ ในการหารือและร่วมร่างกรอบกฎหมายเพื่อเสริมสร้างการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมวางรากฐานคริปโทเคอเรนซีและระบบการเงินไร้ตัวกลาง (DeFi) ตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวในตลาดคริปโตได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย เห็นได้จากการที่ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมทำให้ภาคการเงินของแต่ละประเทศต่างต้องมองหาวิธีการเสริมสร้างความรู้เพื่อให้ก้าวทันสู่นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อกำหนดแนวทางในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งครอบคลุมถึงคริปโตเคอเรนซี สำหรับประเทศฟิลิปปินส์ ไบแนนซ์ ได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนจากภาคเอกชน ร่วมกับสมาพันธ์เทคโนโลยีทางการเงิน ในการเข้าร่วมการประชุมพิจารณาของวุฒิสภากับคณะกรรมาธิการกำกับดูแลธนาคาร สถาบันทางการเงินและสกุลเงิน พร้อมร่วมหารือกับหน่วยงานรัฐ ได้แก่ ธนาคารกลางหรือ Banko Sentral ng Pilipinas (BSP) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษคากายัน (Cagayan Economic Zone Authority หรือ CEZA) เกี่ยวกับแนวคิดริเริ่มหลักในการจัดทำนโยบายและแนวทางการกำกับดูแลเทคโนโลยีทางการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ โดยการหารือดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่วิธีการกำกับดูแลนวัตกรรม ควบคู่ไปกับมาตรการรองรับที่เหมาะสมเพื่อวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองผู้บริโภค ไบแนนซ์ ในฐานะตัวแทนจากภาคธุรกิจได้นำเสนอข้อมูลเบื้องลึกที่สำคัญ รวมถึงมาตรการที่ใช้เพื่อคลายข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งาน ให้คณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบระหว่างการประชุมพิจารณา พร้อมย้ำชัดว่าทางบริษัทฯ ได้จัดทำและดำเนินการตามนโยบายคุ้มครองผู้ใช้งานและนโยบายรักษาความปลอดภัยมาโดยตลอด โดยบางนโยบายถือได้ว่าเข้มงวดที่สุดในวงการเทคโนโลยีทางการเงินอีกด้วย ทั้งนี้ …
อ่านเพิ่มเติม »

AH คาดผลงาน Q3/65 โตต่อเนื่องตามยอดขายโปรดักส์ใหม่-ออเดอร์เพิ่ม : อินโฟเควสท์AH คาดผลงาน Q3/65 โตต่อเนื่องตามยอดขายโปรดักส์ใหม่-ออเดอร์เพิ่ม : อินโฟเควสท์นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/65 และช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะรักษาระดับการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 10-12% ในครึ่งปีหลังนี้ ตามการเติบโตของยอดขายโปรดักส์ใหม่ และออเดอร์ที่เข้ามาเพิ่มขึ้น จากรถโมเดลรุ่นใหม่ของค่ายรถยนต์จะเริ่มทยอยเปิดตัวมากขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงบริษัทฯ ย่อยในต่างประเทศ อย่างจีน และมาเลเซีย ก็มีการเติบโตอย่างโดดเด่นด้วย ตามดีมานด์ที่มากกว่าซัพพลาย ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 30% จากปีก่อน และคาดปี 66 ก็จะเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ จากการรับรู้รายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแอฟฟริกา และอาร์เจนตินา ตามการส่งมอบสินค้าใหม่ นอกจากนี้ยังคงมองหาโอกาสการเติบโตในประเทศสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ชิปขาดแคลนในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันก็เริ่มดีขึ้น ส่วนราคาเหล็กที่เริ่มลดลง ก็อาจส่งผลกระทบต่อราคาขายให้ปรับตัวลงมาบ้าง สำหรับกรณีรถพลังงานไฟฟ้า(EV) ที่เริ่มผลิตมากขึ้น มองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ เนื่องจากชิ้นส่วนบางอย่างยังคงใช้ชนิดเดียวกับรถเติมน้ำมัน นอกจากนี้บริษัทเตรียมความพร้อมด้านทีมงาน สำหรับผลิตชิ้นส่วนรถEV รองรับเทรนด์ในอนาคต โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …
อ่านเพิ่มเติม »

พาณิชย์ร่วมจัดทำวิสัยทัศน์ของเสาเศรษฐกิจอาเซียนชงรมต.อาเซียนกลางก.ย.นี้ : อินโฟเควสท์พาณิชย์ร่วมจัดทำวิสัยทัศน์ของเสาเศรษฐกิจอาเซียนชงรมต.อาเซียนกลางก.ย.นี้ : อินโฟเควสท์นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงพาณิชย์ (นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร) ให้เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน (High Level Task Force on ASEAN Economic Integration: HLTF-EI) ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยที่ประชุมได้หารือถึงการขับเคลื่อนประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียนที่จะผลักดันการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 54 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายนนี้ นางสาวโชติมา กล่าวว่า ที่ประชุมได้จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) การวางแผนวิสัยทัศน์ของ AEC หลังปี 2568 (AEC Post-2025 Vision) ให้มีองค์ประกอบสำคัญที่ครอบคลุม กระชับ ชัดเจน สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มที่เป็นรูปธรรม รองรับประเด็นท้าทายด้านเศรษฐกิจใหม่ๆ โดยให้จัดตั้งคณะทำงานภายใต้ HLTF-EI และกลไกภายใต้สำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อจัดทำวิสัยทัศน์ดังกล่าว …
อ่านเพิ่มเติม »

ปากีสถานเผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุน้ำท่วมทะลุ 1 พันราย วอนนานาชาติช่วยเหลือ : อินโฟเควสท์ปากีสถานเผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุน้ำท่วมทะลุ 1 พันราย วอนนานาชาติช่วยเหลือ : อินโฟเควสท์สำนักงานบริหารภัยพิบัติแห่งชาติปากีสถานเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในปากีสถานเพิ่มขึ้นเป็น 1,033 รายแล้ว โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 119 ราย และแม้ว่า สหรัฐ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และนานาประเทศต่างให้ความช่วยเหลือปากีสถานแล้ว แต่ความช่วยเหลือที่ได้รับก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ นายซัลมาน ซูฟี เจ้าหน้าที่กระทรวงหมาดไทย กล่าวว่า ปากีสถานต้องการการสนับสนุนจากนานาประเทศเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาปากีสถานต้องรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจ และตอนนี้เราก็ต้องฟันฝ่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติในฤดูมรสุม ประชาชนหลายพันคนในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานต้องอพยพหนีออกจากบ้านเรือน ภายหลังจากที่แม่น้ำในจังหวัดไคเบอร์พาคทุนควาล้นตลิ่งและแนวกั้นน้ำส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน นอกจากนี้ จังหวัดสินธ์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักด้วยเช่นกัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

นักวิชาการแนะไทยเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ลดพึ่งพาเมียนมา : อินโฟเควสท์นักวิชาการแนะไทยเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ลดพึ่งพาเมียนมา : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการบริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล จำกัด และอดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึง ประเทศไทยควรเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชาเพื่อความมั่งคงทางด้านพลังงาน พร้อมเตรียมรับมือราคาพลังงานพุ่งสูงระลอกใหม่และลดการพึ่งพิงแหล่งก๊าซธรรมชาติจากเมียนมา แหล่งปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนไทยกับกัมพูชาต้องร่วมพัฒนาให้เกิดประโยชน์เช่นเดียวกับที่ไทยร่วมกับมาเลเซียพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนในรูปแบบ JDA (Joint Development Area) โดยกรณีของ Malaysia-Thailand Joint Development Area นั้นได้มีการจัดตั้งเป็นองค์กรนิติบุคคล Malaysia-Thailand Joint Authority บริหารทรัพยากรปิโตรเลียมร่วมกันและแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม 50:50 และองค์กรร่วมนี้มีอำนาจในการทำสัญญาให้สิทธิสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมแก่บริษัทผู้ประกอบการได้ภายใต้เงื่อนไขของระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract) กรณีของไทย-กัมพูชาก็สามารถใช้แนวทางเดียวกันในการบริหารจัดการทรัพยากรพลังงานร่วมกันได้เพื่อความมั่งคงทางด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกันการได้แหล่งพลังงานใหม่จากพื้นที่ทับซ้อนไทยกัมพูชานี้จะช่วยทำให้ไทยลดการพึ่งพาพลังงานนำเข้าจากเมียนมาได้ โดยคาดการณ์ว่า เหตุการณ์สงครามกลางเมืองและความไม่สงบในเมียนมาจะยืดเยื้อยาวนาน นอกจากนี้ รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าอาจเผชิญแรงกดดันและการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากชาติตะวันตกในอนาคตจนกว่าเมียนมาจะกลับสู่ประชาธิปไตยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและแรงกดดันที่เข้มข้นขึ้นอาจกระทบต่อโครงการลงทุนต่างๆทางด้านพลังงานของไทยในเมียนมาส่งผลต่อความมั่นคงทางด้านพลังงานได้จากการที่ไทยอาศัยการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากเมียนมาค่อนข้างมาก นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากโครงการยาดานา ในอ่าวเมาะตะมะของเมียนมานั้น มีปริมาณ 770-780 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งประมาณ 220-230 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ใช้ในเมียนมาเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า หรือคิดเป็นประมาณ 50% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในเมียนมา อีก 550-560 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันส่งออกมาที่ไทย สำหรับเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จำนวน …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-07 23:11:25