น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นการโพสต์ขายธนบัตรปลอมบนสื่อออนไลน์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงว่าเพจดังกล่าวเป็นเพจหลอกลวงผู้ซื้อให้โอนเงิน ซึ่งไม่ได้มีการขายธนบัตรปลอมจริง และบัญชีธนาคารที่เพจใช้ให้ลูกค้าโอนเงิน เป็นบัญชีที่ถูกร้องเรียนว่าใช้ในการหลอกลวง ประชาชนควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเพจต่างๆ ที่โพสต์ขายธนบัตรปลอมนั้น กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปิดเพจแล้ว สำหรับผู้เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายธนบัตรปลอม หรือการเปิดเพจขายธนบัตรปลอมจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยผู้ทำธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-400,000 บาท ส่วนผู้ที่ใช้โดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-300,000 บาท โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นการโพสต์ขายธนบัตรปลอมบนสื่อออนไลน์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงว่าเพจดังกล่าวเป็นเพจหลอกลวงผู้ซื้อให้โอนเงิน ซึ่งไม่ได้มีการขายธนบัตรปลอมจริง และบัญชีธนาคารที่เพจใช้ให้ลูกค้าโอนเงิน เป็นบัญชีที่ถูกร้องเรียนว่าใช้ในการหลอกลวง ประชาชนควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเพจต่างๆ ที่โพสต์ขายธนบัตรปลอมนั้น กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปิดเพจแล้ว
สำหรับผู้เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายธนบัตรปลอม หรือการเปิดเพจขายธนบัตรปลอมจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยผู้ทำธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-400,000 บาท ส่วนผู้ที่ใช้โดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-300,000 บาท
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ ศก.สหรัฐจ่อเผชิญภาวะถดถอยเล็กน้อย-คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% : อินโฟเควสท์ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยระยะสั้นและไม่รุนแรงในปีหน้า โดยคาดการณ์กันเป็นเอกฉันท์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ในวันที่ 14 ธ.ค. ทั้งนี้ เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในช่วงต้นปีใหม่ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงขยายตัวสูงเกินกรอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2% แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จะมองว่ามีโอกาสราว 60% ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 หลังจากที่เฟดได้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.75% ตลอดการประชุมทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมด 84 คนจากการสำรวจความคิดเห็นในวันที่ 2-8 ธ.ค.คาดว่า ในการประชุมที่จะถึงนี้ เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแค่ 0.50% แตะที่ระดับ 4.25%-4.50% นายซาล กัวเทียรี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ (BMO Capital Markets) กล่าวว่า “เว้นแต่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มจะเผชิญกับปัญหาบางประการ แม้ว่าปัญหาอาจจะมาช้ากว่าที่คาดไว้ก็ตาม ข่าวดีก็คือการชะลอตัวดังกล่าวน่าจะบรรเทาได้ด้วยการออมเงินเพิ่มเติม” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
บริษัทเทคโนฯอินเดีย-มาเลย์จับมือลุยพัฒนา 5G แม้ความเสี่ยงสูง : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทเทค มหินทรา (Tech Mahindra) บริษัทไอทีและที่ปรึกษายักษ์ใหญ่ของอินเดีย และเอเซียต้า กรุ๊ป เบอร์ฮัด (Axiata Group Berhad) บริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของมาเลเซีย ได้ลงนามบรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจะร่วมมือในการค้าและพัฒนาโซลูชัน 5G ในระดับองค์กร ในประเทศมาเลเซีย ศรีลังกา บังกลาเทศ เนปาลและกัมพูชา ฟิทช์ โซลูชันส์ (Fitch Solutions) บริษัทวิจัยด้านการเงินการลงทุนวิเคราะห์ว่า การร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจเครือข่ายและการให้บริการ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก้าวหน้ามากขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและอุปสรรคอื่น ๆ ใน 2 จาก 5 ประเทศที่มีแผนจะเข้าไปลงทุน คือบังกลาเทศและศรีลังกา รายงานระบุว่า บังกลาเทศ คาดว่าจะเริ่มใช้ 5G ได้ในช่วง 18 – 24 เดือนข้างหน้า เนื่องจากค่าโทรศัพท์มือถือและค่าบริการที่รองรับ 5G มีราคาแพง ในขณะที่ศรีลังกาก็กำลังต่อสู้กับสถาวะเศรษฐกิจถดถอย บวกกับวิกฤตการขาดแคลนเชื้อเพลิง และการขยายระยะเวลาการตัดไฟฟ้า ฟิทช์ โซลูชันส์ ชี้ว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
CONSENSUS: โบรกฯ เชียร์'ซื้อ'GPSC รับ Ft ขาขึ้น-ค่าพลังงานขาลง หนุนกำไร Q4/65-ปี 66 ฟื้น : อินโฟเควสท์โบรกเกอร์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) จากกำไรไตรมาส 4/65 ฟื้นตัว ตามการรับรู้ค่า Ft งวดเกือนก.ย.-ธ.ค.65 เข้ามาเต็มไตรมาส และยังรับรู้รายได้จากการ COD โรงไฟฟ้าเข้ามาเต็มไตรมาสเช่นกัน รวมถึงจะได้รับเงินเคลมประกันเข้ามาอีก ขณะที่ในปี 66 ยังได้ปัจจัยบวกจากค่า Ft ที่จะปรับขึ้นต่อเนื่อง และต้นทุนพลังงานปรับตัวลดลง อีกทั้งแผนการ COD ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งจะเข้ามาหนุนการเติบโตในปีหน้าได้ ราคาหุ้น GPSC เมื่อเวลา 14.43 น.อยู่ที่ 70.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท +0.72% ขณะที่ดัชนี SET +0.42% โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ซื้อ 74.00 คิงส์ฟอร์ด ซื้อ 75.00 ดาโอ …
อ่านเพิ่มเติม »
'ไชน่า อีสเทิร์น' รับมอบเครื่องบิน C919 ที่ผลิตในจีนลำแรกของโลก : อินโฟเควสท์เครื่องบิน C919 ซึ่งเป็นอากาศยานลำตัวแคบที่ผลิตในจีนลำแรกของโลก ได้ถูกส่งมอบให้กับสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ในนครเซี่ยงไฮ้แล้วในวันนี้ (9 ธ.ค.) โดยเครื่องบินลำดังกล่าวได้ประเดิมด้วยการขึ้นบินเป็นเวลา 15 นาที เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาประวัติศาสตร์ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เครื่องบินลำนี้มีแนวโน้มเริ่มออกให้บริการบินในเชิงพาณิชย์ครั้งแรกช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ซึ่งเส้นทางบินแรกจะเป็นการเดินทางระหว่างเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่ง รายงานระบุว่า เครื่องบินลำนี้มีขนาด 164 ที่นั่ง พร้อมเขียนข้อความว่า “C919 ลำแรกของโลก” เป็นภาษาจีนและอังกฤษบริการด้านข้าง ทั้งนี้ เครื่องบินรุ่นดังกล่าวผ่านการรับรองสำหรับการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยเมื่อเดือนก.ย. และการผลิตในปริมาณมากเมื่อเดือนพ.ย. โดยเป็นคู่แข่งกับเครื่องบินรุ่น A320neo และเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 Max ด้านเดอะ เปเปอร์ สื่อท้องถิ่นของเซี่ยงไฮ้รายงานว่า สายการบินไชน่า อีสเทิร์น ระบุว่า บริษัทมีแผนจะได้รับเครื่องบิน C919 ชุดแรกที่เหลืออีก 4 ลำในอีก 2 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับแผนการก่อนหน้านี้ที่จะได้รับทั้ง 4 ลำในปีหน้า โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
TK ประคองตัวรอภาพชัดหลังรัฐคุมดอกเบี้ยเช่าซื้อ หันเน้นบริการสินเชื่อใหม่ : อินโฟเควสท์บมจ.ฐิติกร (TK) ขอเลือกแนวทางประคองตัวรอสถานการณ์ชัดเจนขึ้นหลังจากภาครัฐประกาศ พ.ร.บ. เช่าซื้อใหม่ เริ่มมีผลบังคับใช้ 10 ม.ค.66 ซึ่งสร้างผลกระทบต่อภาพรวมทั้งอุตสาหกรรมสินเชื่อ โดยบริษัทเริ่มปรับนโยบายให้เหมาะสมตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/65 ด้วยการดูแลคุณภาพของหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงให้ความสำคัญกับบริการสินเชื่อใหม่ๆ อาทิ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และ สินเชื่อส่วนบุคคล นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า ผู้ให้บริการสินเชื่อมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบแรกเห็นว่าดอกเบี้ยกำลังจะถูกควบคุมแล้วต้องรีบปล่อย อีกกลุ่มคือยังมีความไม่แน่นอนก็ต้องรอดูก่อน ซึ่งเราอยู่ในกลุ่มหลัง “ความปลอดภัยเราควรจะรักษาตัว และดูให้แน่นอนก่อนเพราะทุนเราไม่มีปัญหา คนเราไม่มีปัญหา ความไม่นอนนี้ตอบยาก ปีหน้าเราก็ยังคงเน้นที่จะเติบโตอยู่แล้ว แต่เราจะต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างหลังจากที่มีเกณฑ์การควบคุมดอกเบี้ยออกมา”นายประพล กล่าว ด้านการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่เร่งตัวขึ้นมาจากฐานที่ต่ำ และรัฐบาลให้การสนับสนุนเต็มที่นั้น บริษัทยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด หากว่ามีคุณภาพลูกหนี้ที่ดีและมือสองราคาไม่ตก บริษัทก็มีความพร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อได้ สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปัจจุบันค่อนข้างสูงที่ระดับ 5.6% โดยได้รับแรงกดดันต่อเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้รายได้ของประชาชนลดลง แต่หลังจากนี้คาดว่า NPL จะค่อยๆ ปรับตัวลดลงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ การท่องเที่ยว นายประพล กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
เจ้าหน้าที่มะกันเผยสหรัฐวางแผนประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย-จีนเพิ่มวันนี้ : อินโฟเควสท์เจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 รายเปิดเผยว่า สหรัฐวางแผนที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียและจีนในวันนี้ (9 ธ.ค.) ซึ่งรวมถึงการลงโทษรัสเซียสำหรับการใช้โดรนของอิหร่านในสงครามกับยูเครน ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐทั้ง 2 รายว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะพุ่งเป้าไปที่องค์กรจีนประมาณ 170 แห่ง โทษฐานทำประมงผิดกฎหมายในมหาสมุทรแปซิฟิก ท่ามกลางความกังวลว่าจีนกำลังทำประมงเกินขนาดและใช้กองเรือประมงของตนขยายอิทธิพลทางทะเล มาตรการคว่ำบาตรหลายรายการจะถูกกำหนดภายใต้กฎหมายแมกนิตสกีฉบับที่ใช้ครอบคลุมทั่วโลก (Global Magnitsky Act) ซึ่งเป็นกฎหมายปี 2559 ที่อนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติทั่วโลกที่ถือว่าเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงอายัดทรัพย์สิน และห้ามไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐ นอกจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวยังคาดว่าจะพุ่งเป้าไปที่องค์กรด้านอุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบโดรนของอิหร่านไปยังรัสเซีย ด้านนายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) ว่า โดยประณามอิหร่านที่ทำการส่งออกโดรนทางทหารให้แก่รัสเซีย เพื่อนำไปใช้ทำสงครามกับยูเครน พร้อมเสริมว่า สหรัฐยังเห็นการส่งมอบโดรนของอิหร่านไปยังรัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »