หุ้นไทยปิดลบ 3.70 จุดแกว่งกรอบแคบวอลุ่มบาง รอเงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุมเฟด-การเมืองไทย หุ้น หุ้นไทย อินโฟเควสท์
SET ปิดวันนี้ที่ 1,551.41 จุด ลดลง 3.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,787.93 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวกรอบแคบ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ และวอลลุ่มค่อนข้างเบาบาง รอติดตามการประชุมเฟดในกลางสหัปดานี้ รวมถึงการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนวันพรุ่งนี้ และยังรอความชัดเจนของการเมืองในประเทศ แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวต้าน 1,560 จุด แนวรับ 1,545 จุดการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งกรอบแคบในแดนลบ โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,547.46 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,555.
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 179 หลักทรัพย์ ลดลง 282 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 190 หลักทรัพย์กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และมูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างเบาบาง เพราะนักลงทุนยังอยู่ระหว่างการรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ในกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดยังคงดอกเบี้ย
ขณะเดียวกันยังรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนวันพรุ่งนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาทิศทางดอกเบี้ยของเฟด อีกทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน ยังมีผลต่อตลาดหุ้นไทยด้วย แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่ายังแกว่งตัวไซด์เวย์ รอปัจจัยจากฝั่งสหรัฐ โดยเฉพาะการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนวันพรุ่งนี้ โดยให้แนวต้าน 1,560 จุด แนวรับ 1,545 จุดKBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,332.72 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 0.50 บาทTTB มูลค่าการซื้อขาย 1,144.43 ล้านบาท ปิดที่ 1.61 บาท ลดลง 0.05 บาทSCB มูลค่าการซื้อขาย 1,038.03 ล้านบาท ปิดที่ 99.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
VGI เชื่อปีนี้อัตรากำไรสุทธิสูงกว่า 10%จากขาดทุนปีก่อน วางงบ 1.15 พันลบ.ขยายกลุ่มแรบบิท : อินโฟเควสท์นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน บมจ.วีจีไอ (VGI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้รวมปีบัญชี 66/67 (เม.ย.66-มี.ค.67) ไว้ที่ 6,000–6,500 ล้านบาท หรือเติบโต 20-30% จากปีก่อน โดยจะมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน (Advertising) ราว 42%, ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล (Digital Services) ราว 32% และธุรกิจ Distribution ราว 26% บริษัทฯ ยังวางเป้าหมายจะมีอัตรากำไรสุทธิที่มากกว่า 10% จากปีบัญชีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิลดลง 64.88% (-68.88%) ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่ม Advertising ตามอัตราการใช้ (Utilization rate) ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง 55-60% และจำนวน unit price ที่จะเพิ่มขึ้น หลังจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการลดราคาให้กับลูกค้าค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นปีที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในปีบัญชี 66/67 จะมีการให้ส่วนลดที่น้อยลง โดยคาดจำนวน […]
อ่านเพิ่มเติม »
'สุทิน'เชื่อ'พิธา'ไม่จนมุม หลังกกต.ตั้งเรื่องไต่สวนเอาผิดม.151 : อินโฟเควสท์นายสุทิน คลังแสง ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งเรื่องไต่สวนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายรัฐมนตรี เป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเตะตัดขาการตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้นว่า แล้วแต่ใครจะมอง แต่ส่วนตัวคิดว่าการจะได้ซึ่งนายกฯนั้น ทุกคนอยากได้นายกฯที่ไม่มีข้อตำหนิ จึงต้องมีการตรวจสอบให้ถึงที่สุด การคัดกรองคงทำกันเต็มที่เพื่อให้ได้นายกฯที่ไม่มีข้อกังขา ก็ต้องไปดูที่ข้อเท้จจริงข้อกฎหมาย ถ้าไม่มีความผิดไม่มีประเด็นแล้วไปกล่าวหา ก็มองได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือเตะตัดขา แต่ถ้าหากมีประเด็นฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ควรพิสูจน์ให้ได้ข้อยุติ ตนยังมองในแง่บวก แต่ถึงอย่างไรตนก็จะติดตามถึงตอนจบว่าเป็นอย่างไร ถึงจะชี้ได้ว่าเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ล่าวว่า ทั้งนี้ นายสุทินกล่าวว่า ไม่ห่วงนายพิธา จากการไต่สวนเรื่องดังกล่าว แม้ดูข้อกล่าวหาจะหนักหน่วง แต่คิดว่ามีข้อต่อสู่ที่สามารถชี้แจงได้ ซึ่งสุดท้ายก็อยู่ที่องค์กรที่จะชี้จะชี้ออกมาอย่างไร เชื่อว่าทั้งนายพิธา และพรรคก้าวไกลยังไม่จนมุม ส่วนกรณี นายอานนท์ นำภา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ระบุวันโหวตเลือกนายกฯ จะมีประชาชนออกมาให้กำลังใจ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกลจำนวนมาก ห่วงจะมีความวุ่นวายหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คิดว่าการไปให้กำลังใจ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน มีกฎหมายระเบียบเกี่ยวข้องอยู่ ถ้าไปตามกฎหมายไม่น่าจะมีอะไร เชื่อว่าทุกฝ่าย ประสงค์ให้การเลือกตั้งทำให้ประเทศเดินต่อไปได้ ไม่ใช่เลือกตั้งแล้วประเทศหยุดชะงัก ถ้าทุกคนตระหนักตรงนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง […]
อ่านเพิ่มเติม »
เกาหลีใต้ฟ้องอดีตผู้บริหาร 'ซัมซุง' ฐานปล่อยข้อมูลรั่วไหลไปจีน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัยการเกาหลีใต้ได้ยื่นฟ้องอดีตผู้บริหารรายหนึ่งของซัมซุง อิเล็คโทรนิคส์ (Samsung Electronics) ในวันนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมขโมยเทคโนโลยีของบริษัทไปใช้ในการสร้างโรงงานชิปในจีน สำนักงานอัยการเขตซูวอนระบุว่า ทางฝ่ายจำเลย ซึ่งเคยเป็นรองประธานของเอสเค ไฮนิกส์ (SK Hynix) ด้วยนั้น ถูกกล่าวหาว่าได้นำข้อมูลของซัมซุงไปใช้อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยนำไปใช้สร้างโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองซีอานของจีน ระหว่างปี 2561 ถึง 2562 ส่วนวันที่พิจารณาคดีนั้นยังไม่ได้รับการยืนยันจากศาล และไม่ได้แจ้งให้ทราบว่าบุคคลที่ถูกจับไปนั้นชื่ออะไร ทางอัยการระบุว่า จำเลยได้ถูกจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีประสบการณ์ทำงานในบริษัททั้งสองแห่งรวมกันถึง 28 ปี โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
จีนเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์ 60 ลูกใน 1 ปี มากสุดใน 9 ชาติอาวุธนิวเคลียร์ : อินโฟเควสท์สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) เผยแพร่รายงานประจำปีในวันนี้ (12 มิ.ย.) ระบุว่า จีนเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์อีก 60 ลูก เข้าในคลังสรรพาวุธ ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนม.ค. 2566 รวมเป็น 410 ลูก พร้อมเสริมว่าการเพิ่มขึ้นดังกล่าวนับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีที่มากที่สุดบรรดากลุ่ม 9 ประเทศติดอาวุธนิวเคลียร์ รายงานของ SIPRI กล่าวว่า 5 ชาติมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐ, รัสเซีย, จีน, ฝรั่งเศส และอังกฤษ รวมถึงอินเดีย, ปากีสถาน, เกาหลีเหนือ และอิสราเอล มีจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ในครอบครองเพิ่มขึ้น 86 ลูก เป็น 9,576 ลูก ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เนื่องจากมีการปรับปรุงคลังสรรพาวุธให้ทันสมัย จากจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ 9,576 ลูกนั้น สหรัฐถือครองอยู่ 3,708 ลูก ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้า และรัสเซียเพิ่มจำนวนเป็น 4,489 ลูก จาก 4,477 […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิเคราะห์คาดแบงก์ชาติไต้หวันตรึงดอกเบี้ยสัปดาห์นี้ หลังแรงกดดันเงินเฟ้อลดลง : อินโฟเควสท์นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางไต้หวันจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อผ่อนคลายลง และเศรษฐกิจไต้หวันกำลังเผชิญภาวะอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอ โดยเศรษฐกิจไต้หวันนั้นพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก นักเศรษฐศาสตร์ 19 คนจาก 23 คนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางไต้หวันมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.875% ในการประชุมประจำไตรมาสในวันพฤหัสบดี (15 มิ.ย) ซึ่งในการประชุมครั้งล่าสุดที่มีขึ้นในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางไต้หวันได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสวนทางคาดการณ์ที่ 0.25% สู่ระดับ 1.875% ส่วนนักเศรษฐศาสตร์อีก 4 คนที่เหลือคาดว่า ธนาคารกลางไต้หวันจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.125% เป็น 2.0% ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์โดยเฉลี่ยว่า ธนาคารกลางไต้หวันจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.875% ตลอดทั้งปี 2566 และครึ่งแรกของปี 2567 ก่อนที่จะปรับลดเหลือ 1.75% ในไตรมาส 3/2567 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »