หุ้นบริษัทเทคโนฯจีนร่วงเช้านี้ หลังรัฐสั่งปรับอาลีบาบา-เทนเซ็นต์ จีน ตลาดหุ้นฮ่องกง ผิงอัน อาลีบาบา เทนเซ็นต์ อินโฟเควสท์
หุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนในจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังทางการจีนสั่งปรับบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของจีน โทษฐานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดการค้า
บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง, บริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ และบริษัทผิงอัน เฮลท์แคร์ แอนด์ เทคโนโลยี ต่างมีชื่ออยู่ในรายชื่อถูกสั่งปรับ โดยหุ้นของบริษัทร่วงลง 6.4%, 2.7% และ 4.0% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นบริษัทเจดีดอทคอม ร่วงลง 4.7% และหุ้นบริษัทเหม่ยถวนร่วงลง 5.5% สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ ของจีนสั่งปรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง รวมถึงบริษัทอาลีบาบาและเทนเซ็นต์ โทษฐานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดการค้าในการเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรม
SAMR ได้เปิดเผยรายชื่อข้อตกลงทางธุรกิจ 28 รายการซึ่งละเมิดกฎหมายดังกล่าว โดยในจำนวนนี้มี 5 รายการที่เกี่ยวข้องกับอาลีบาบา ซึ่งรวมถึงการซื้อหุ้นบริษัทในเครืออย่าง Youku Tudou ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงเมื่อปี 2564ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีนเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่รัฐบาลจีนเข้ามากำกับดูแลการผูกขาดตลาดอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ปลายปี 2563 ซึ่งตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดนั้น บทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนอาจต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 500,000...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
จีนสั่งปรับบ.เทคโนฯฐานปกปิดข้อมูลธุรกรรม รวมอาลีบาบา-เทนเซ็นต์ด้วย : อินโฟเควสท์จีนสั่งปรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง รวมถึงบริษัทอาลีบาบาและเทนเซ็นต์ โทษฐานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดการค้าในการเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรม สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ (SAMR) ของจีนได้เปิดเผยรายชื่อข้อตกลงทางธุรกิจ 28 รายการซึ่งละเมิดกฎหมายดังกล่าวในวันนี้ (10 ก.ค.) ในจำนวนนี้มี 5 รายการที่เกี่ยวข้องกับอาลีบาบา ซึ่งรวมถึงการซื้อหุ้นบริษัทในเครืออย่าง Youku Tudou ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงเมื่อปี 2564 ด้านบริษัทเทนเซ็นต์พบการทำธุรกรรมที่ขัดต่อกฎหมายดังกล่าว 12 รายการ อย่างไรก็ดี บริษัทที่มีรายชื่อในบัญชีของ SAMR ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีนเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่รัฐบาลจีนเข้ามากำกับดูแลการผูกขาดตลาดอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ปลายปี 2563 ซึ่งตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดนั้น บทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนอาจต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 500,000 หยวน (74,688 ดอลลาร์) โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
รมว.ต่างประเทศจีนแนะออสเตรเลียมองจีนเป็นพันธมิตร-ฟื้นสัมพันธ์สองชาติ : อินโฟเควสท์นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนเรียกร้องให้นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ปฏิบัติกับจีนในฐานะพันธมิตร ไม่ใช่ศัตรู และสร้างพลังในเชิงบวกเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ในการประชุมนอกรอบรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) รมว.ต่างประเทศของจีนแสดงความหวังว่า ออสเตรเลียจะใช้โอกาสนี้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และทำความเข้าใจจีนอย่างถูกต้อง ตามรายงานสรุปการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศจีนเผยแพร่เมื่อคืนวันเสาร์ (9 ก.ค.) นายหวังกล่าวอีกว่า “ต้นเหตุของปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เป็นเพราะรัฐบาลชุดเก่าของออสเตรเลียยืนกรานที่จะปฏิบัติกับจีนเหมือนเป็นศัตรู และมองจีนเป็นเสมือนภัยคุกคาม” และเพิ่มเติมอีกว่า “คำพูดและการกระทำของออสเตรเลียนั้นบ่งบอกถึงความไม่รับผิดชอบ” สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนได้จำกัดการนำเข้าถ่านหินและสินค้าอื่น ๆ จากออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี 2563 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่พอใจที่รัฐบาลออสเตรเลียในขณะนั้นเรียกร้องให้มีการสอบสวนต้นตอการระบาดของโควิด-19, การสอบสวนการแทรกแซงทางการเมืองของจีนในออสเตรเลีย รวมถึงการสั่งแบนบริษัทหัวเว่ยของจีนไม่ให้เข้าร่วมโครงการ 5G ของออสเตรเลีย ทางด้านนางหว่องเผยว่า การหารือกับรัฐมนตรีของจีนถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ให้มีเสถียรภาพ แต่อาจต้องใช้เวลากว่าที่รัฐบาลจีนจะยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้ากับออสเตรเลีย นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก โดยนายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียออกมาแสดงความเห็นเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลจีนมีท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ยูเครนปะทะรัสเซียทางตะวันออก-ตอนใต้ พลเรือนสังเวยชีวิต 6 ราย : อินโฟเควสท์ยูเครนรายงานการปะทะกับกองกำลังรัสเซียในวันอาทิตย์ (10 ก.ค.) ที่แนวรบด้านตะวันออกและด้านใต้ โดยมีพลเรือนเสียชีวิต 6 รายจากเหตุโจมตีด้วยจรวด ขณะที่สหรัฐพยายามหาทางเพิ่มการสนับสนุนจากนานาชาติ เพื่อต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย กองทัพของยูเครนเผยว่า กองกำลังรัสเซียได้โจมตีที่มั่นของยูเครน ใกล้กับเมืองสลอเวียนสก์ (Sloviansk) ทางตะวันออก แต่จำต้องถอนกำลัง และเพิ่มเติมว่า กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธแบบร่อนในเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหาย หรือจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทางด้านนายเซอรีย์ เกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์เปิดเผยว่า กองกำลังรัสเซียรวมพลอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านบิโลโฮริฟกา (Bilohorivka) ห่างจากเมืองสลอเวียนสก์ไปทางตะวันออกประมาณ 50 กม. (30 ไมล์) “ศัตรูกำลัง … โจมตีฐานที่มั่นโดยรอบ ทั้งทางอากาศด้วย แต่ก็ยังไม่อาจเข้ายึดพื้นที่แคว้นลูฮันสก์ทั้งหมดได้โดยเร็ว” นายเกไดเปิดเผยในแอปเทเลแกรม “เมื่อคืนที่ผ่านมาเพียงคืนเดียว รัสเซียได้ยิงปืนใหญ่เจ็ดนัดและจรวดอีกสี่ลูก” สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขในสมรภูมิรบได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิชาการมองเศรษฐกิจไทยไม่พร้อมรับดอกเบี้ยขาขึ้นใน Q3/65 ควรชะลอถึงปลายปี : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางบางประเทศยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยประเทศดังกล่าวล้วนมีสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี อุปสงค์มวลรวมและตลาดการจ้างงานขยายตัวเพิ่มขึ้น อย่างกรณีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 372,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.6% ซึ่งถือว่าต่ำ ส่วนอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 5.1% ความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยหากธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปอาจเป็นเรื่องวิตกกังวลเกินเหตุกับที่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค.นี้ ซึ่งไม่น่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวถึงขั้นถดถอยแต่อย่างใด และคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะอยู่ที่ระดับ 3.25-3.50% ในช่วงปลายปี หากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเลยในปีนี้ก็จะทำให้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาก กระตุ้นให้เกิดเงินทุนไหลออกของเงินทุนระยะสั้นเพิ่มเติม โดยเฉพาะเม็ดเงินเก็งกำไรในตลาดการเงิน เงินบาทอ่อนค่าลงได้อีกจากระดับปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้ออาจปรับเพิ่มได้อีก อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยไตรมาสสามและโครงสร้างหนี้ในประเทศ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนและหนี้ของกิจการเอสเอ็มอีอยู่ในระดับสูงมาก เศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมจึงไม่พร้อมสำหรับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ควรรอให้เห็นสัญญาณของการกระเตื้องขึ้นของเศรษฐกิจและกำลังซื้อภายในให้ชัดเจนก่อนจึงตัดสินปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไม่จำเป็นต้องกังวลเงินบาทอ่อนค่ามากเกินไป เพราะเมื่อเงินบาทอ่อนถึงจุดหนึ่งแล้ว กลไกอัตราแลกเปลี่ยนจะปรับสมดุลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากการเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดจะขาดดุลลดลงจากภาคการท่องเที่ยว …
อ่านเพิ่มเติม »
กอนช.เตือน 11-15 ก.ค.หลายพื้นที่ทั่วประเทศเตรียมรับมือน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน : อินโฟเควสท์กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 10-14 ก.ค.65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง หลังจาก กอนช.ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) แล้วพบว่าจะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนักอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 11-15 ก.ค.65 ดังนี้ 1.เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ภาคเหนือ จังหวัดพะเยา (อำเภอเชียงคำ ปง และภูซาง) จังหวัดลำปาง (อำเภองาว แจ้ห่ม เมืองปาน และวังเหนือ) จังหวัดแพร่ (อำเภอร้องกวาง วังชิ้น และสอง) จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอนครไทย) จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ วิเชียรบุรี และหล่มสัก) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย (อำเภอด่านซ้าย และปากชม) จังหวัดหนองบัวลำภู (อำเภอสุวรรณคูหา) จังหวัดอุดรธานี (อำเภอกุมภวาปี …
อ่านเพิ่มเติม »