หุ้นไทยปิดเช้าบวก 0.03 จุดทรงตัว Wait&see รอผลประชุมเฟดคืนนี้ SET SETIndex ตลาดหุ้นไทย หุ้นไทย อินโฟเควสท์
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,562.43 จุด เพิ่มขึ้น 0.03 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 18,809 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทรงตัว นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมเฟด หากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยส่งผลดีต่อกลุ่มแบงก์ พลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ต้องจับตาดูการประชุม ECB และ BOJ แนวโน้มช่วงบ่ายยังทรงตัวต่อเนื่อง ให้แนวรับ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,565 จุดการซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,569.34 จุด และต่ำสุด 1,559.
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า ระบุว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทรงตัวเนื่องจากนักลงทุนจับตาทิศทางผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในคืนนี้ หากเฟตจะคงอัตราดอกเบี้ย ส่งผลบวกต่อกลุ่มธนาคาร พลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งดูทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยจากการประชุมธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดยังทรงตัวต่อเนื่อง รอดูทิศทางการประชุม 3 ธนาคารกลางใหญ่ โดยให้แนวรับ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,565 จุดCBG มูลค่าการซื้อขาย 670.61 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทBANPU มูลค่าการซื้อขาย 532.54 ล้านบาท ปิดที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาทCPALL มูลค่าการซื้อขาย 472.55 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
หุ้นไทยปิดเช้าบวก 10.31 จุด วอลุ่ม 2.1 หมื่นล้าน รับแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ กลุ่มเทคฯนำตลาดตลาดหุ้นไทยปิดเช้าวันนี้(13 มิ.ย.)ที่ 1,561.72 จุด เพิ่มขึ้น 10.31 จุด (+0.66%) มูลค่าการซื้อขายราว 21,083.29 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,563.85 จุด และต่ำสุด 1,552.30 จุด น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวขึ้นมาตามแรงซื้อกลับหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มค้าปลีก โรงไฟฟ้า การบิน รวมถึงหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เด้งขึ้นมาตามตลาดหุ้น NASDAQ เป็นแรงหนุนสำคัญต่อภาพรวมดัชนีเช้านี้ ขณะที่ตลาดซึมซับปัจจัยการเมืองในประเทศไประดับหนึ่งแล้ว เห็นได้ว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่เกี่
อ่านเพิ่มเติม »
'เซเลนสกี' สั่งตรวจสอบสถานที่หลบภัยในยูเครน หลังประชาชน 3 รายเสียชีวิต : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนแสดงความไม่พอใจเมื่อวันจันทร์ (12 มิ.ย.) เกี่ยวกับผลการสอบสวนที่เขาสั่งให้ดำเนินการกับสถานที่หลบภัยของยูเครนทั้งหมด หลังจากที่มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่หลบภัยได้ในระหว่างที่รัสเซียทำการโจมตีทางอากาศในกรุงเคียฟ ปธน.เซเลนสกีกล่าวปราศรัยผ่านทางวิดีโอว่า เขาได้รับรายงานสรุปเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมและความไม่พร้อมของสถานที่หลบภัยจากนายอิฮอร์ ไคลเมนโก้ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครน, นายโอเล็กซานเดอร์ คามีชิน รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ และนายโอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รองนายกรัฐมนตรียูเครน ปธน.เซเลนสกีระบุว่า “ผลการสอบสวนที่ผมได้รับนั้นไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ดังนั้นร่างการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดเตรียมภายในวันศุกร์นี้ (16 มิ.ย.) เกี่ยวกับผู้รับผิดชอบและรับประกันระดับการป้องกันที่เหมาะสมสำหรับประชาชนของเราในทุกเมืองของยูเครน” การเสียชีวิตของประชาชน 3 รายเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ทำให้สาธารณชนไม่พอใจ และปธน.เซเลนสกีได้ให้สัญญาว่าจะดำเนินการอย่างรุนแรง ซึ่งดูเหมือนจะพุ่งเป้าไปที่นายวิทาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ซึ่งเคยขัดแย้งกับเขามาก่อน นายคลิทช์โกได้ยอมรับว่า เขามีความรับผิดชอบบางส่วน แต่กล่าวว่าคนอื่น ๆ ก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน โดยเฉพาะพันธมิตรของประธานาธิบดีที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเขตต่าง ๆ ของกรุงเคียฟ ส่วนนายคามีชินกล่าวเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ว่า หลุมหลบภัยเกือบครึ่งหนึ่งในกรุงเคียฟที่ได้รับการตรวจสอบในเบื้องต้นนั้น ได้ถูกปิดให้บริการหรือไม่เหมาะสำหรับการใช้งาน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. […]
อ่านเพิ่มเติม »
NER คาด Q2/66 โตดีกว่า Q1/66 รับผลดีปรับขึ้นราคาขาย-ขยับแผน รง.3 เล็กน้อย : อินโฟเควสท์นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/66 ตามยอดขายยางที่จะส่งมอบได้ตามเป้าหมาย หรือมียอดขายใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ทำได้ราว 120,000 ตัน หรือคิดเป็น 25% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี ขณะที่บริษัทปรับขึ้นราคาขายเล็กน้อยตามราคายางในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นมา ด้านแนวโน้มในยอดขายในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก จากปัจจุบันมีการขายสินค้าเพื่อรอส่งมอบไปจนถึงไตรมาส 4/66 แล้ว ทำให้มั่นใจว่าทั้งปี 66 บริษัทจะมียอดขายเติบโตเป็น 500,000 ตัน จากปีก่อนอยู่ที่ 440,000 ตัน โดยไตรมาส 1/66 ส่งมอบไปแล้วประมาณ 120,000 ตัน และคาดว่าจะส่งออกใกล้เคียงกันในทุกๆ ไตรมาส สำหรับแนวโน้มราคายาง TOCOM ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 ไปจนถึงปี 67 คาดว่าจะทรงตัว โดยมองว่าจุดนี้เป็นจุดต่ำสุดของราคายางในปีนี้และปีหน้าแล้ว เนื่องจากภาวะภัยแล้งเกิดขึ้นทั่วโลกทำให้ซัพพลายยางในปีหน้าอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็จะทำให้ราคายางสูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อมาร์จิ้นของบริษัทให้ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย ด้านความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน มูลค่าลงทุนประมาณ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ฮ่องกงเตรียมเปิดรับแรงงานต่างชาติ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก : อินโฟเควสท์นายจอห์น ลี ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงกล่าวในวันนี้ (13 มิ.ย.) ว่า ฮ่องกงจะผ่อนปรนกฎการเข้าเมืองสำหรับแรงงานต่างชาติเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานบนเกาะฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงิน นายลีกล่าวว่า ในเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลจะประกาศแผนการดึงดูดคนให้เข้ามาทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่าง “รุนแรง” “เมื่อเรามีปัญหาด้านแรงงานอย่างรุนแรง และหากเราไม่แก้ไข ชุมชนทั้งหมดจะได้รับผลกระทบ” นายลีกล่าว พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของฮ่องกง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฮ่องกงกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคบริการและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในขณะที่จำนวนธุรกิจเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่มีการยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้านนักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่าปัญหามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงแรงงานท้องถิ่นที่ลดลง และนโยบายการย้ายถิ่นฐานของฮ่องกงเองด้วย เศรษฐกิจของฮ่องกงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสแรก โดยฟื้นตัวจากภาวะถดถอยขณะที่การเปิดพรมแดนได้ฟื้นฟูการใช้จ่าย โดยจากผลสำรวจล่าสุดของสำนักข่าวบลูมเบิร์กนั้น นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของฮ่องกงจะเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 4.6% ในปีนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า แม้ว่านายลีไม่ได้ระบุรายละเอียดเฉพาะเจาะจงใด ๆ ของแผนการแก้ไขปัญหาแรงงาน แต่เขาได้อ้างถึงปัญหาในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ การเดินทาง การขนส่ง และการก่อสร้าง โดยฮ่องกงต้องการแรงงานก่อสร้างอย่างน้อย 10,000 คน และแรงงานในภาคการเดินทางและขนส่ง 8,000 คน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องลดต้นทุนการประปาฯ ปิดช่องขึ้นค่าน้ำ : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการพูดคุยถึงผลการดำเนินงานในอนาคตของการประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะขาดทุนได้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม ไปหารือร่วมกัน เพื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานให้กับการประปาฯ เพื่อไม่ให้เกิดผลขาดทุน และจะไปกระทบต่อการปรับขึ้นราคาค่าน้ำประปา ซึ่งจะเป็นภาระค่าใช้จ่ายต่อประชาชนได้ “นายกฯ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง ช่วยดูเรื่องการนำส่งเงิน กระทรวงเกษตรฯ ดูเรื่องแหล่งน้ำ และกระทรวงคมนาคม ดูเรื่องการคิดค่าธรรมเนียมในการวางท่อ โดยขอให้ไปหารือร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนให้การดำเนินงานของการประปาฯ ไม่เกิดผลขาดทุนในอนาคต และจะได้ไม่เป็นภาระต่อประชาชนในการขึ้นค่าน้ำ” นายอนุชา ระบุ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ญี่ปุ่นอาจเลื่อนการปรับขึ้นภาษีสนับสนุนงบประมาณกลาโหมเป็นปี 2568 : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาเลื่อนการปรับขึ้นภาษีเพื่อใช้เป็นงบประมาณด้านกลาโหมเพิ่มเติมออกไปเป็นปี 2568 ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว คณะรัฐบาลญี่ปุ่นเห็นพ้องที่จะปรับขึ้นภาษีเพื่อสนับสนุนงบประมาณด้านกลาโหม แต่ฝ่ายค้านต้องการให้รัฐบาลชะลอการตัดสินใจดังกล่าวออกไปก่อน แผนการปรับขึ้นภาษีตามความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะนั้น มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมขึ้นเป็น 2 เท่า สู่ระดับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปีงบประมาณ 2570 แต่แผนการดังกล่าวได้กลายเป็นข้อโต้เถียงในกลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติที่คัดค้านการขึ้นภาษีระยะสั้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังคงเปราะบาง ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของนายคิชิดะมองว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นภาษีคือปี 2567 หรือหลังจากนั้น แหล่งข่าวระบุว่า กรอบนโยบายระยะยาวของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะเผยแพร่ในปลายสัปดาห์นี้ จะรวมถึงการเลื่อนเวลาปรับขึ้นภาษีออกไปจนถึงปี 2568 หรือหลังจากนั้น ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ของสำนักข่าวเกียวโด ทั้งนี้ ความล่าช้าในการปรับขึ้นภาษีเพื่อสนับสนุนงบประมาณด้านกลาโหมจะกลายเป็นอุปสรรคสำหรับนายคิชิดะที่ต้องจัดลำดับความสำคัญกับการฟื้นฟูสถานะด้านการเงินของญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการรับมือกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ อันเนื่องมาจากอิทธิพลของจีนและเกาหลีเหนือที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »