หอการค้าฯ เชื่อมือเพื่อไทยหากเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล คาดเห็นโฉมรบ.ใหม่ไม่เกินก.ย. การเมือง พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พิธา พิธาลิ้มเจริญรัตน์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย แคนดิเดทนายก โหวตนายก อินโฟเควสท์
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ครั้งถัดไปในสัปดาห์หน้า ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนว่าจะเป็นในลักษณะใด แต่สิ่งที่ชัดเจนแล้วขณะนี้ คือ การเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว และไม่สามารถจะใช้ญัตติเดิมในการเสนอชื่อคนเดิมได้ ซึ่งหมายความว่าหมดสิทธิที่จะเสนอชื่อ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ซ้ำ
1. กรณี สว. ยืนยันไม่โหวตหากมีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ทั้ง 8 พรรคร่วมเดิม ยังจับมือเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอแคนดิเดทจากพรรคเพื่อไทยขึ้นมาแทน ก็จะต้องมาพิจารณาว่าสมาชิกรัฐสภา จะให้การสนับสนุนถึง 375 เสียงได้หรือไม่ นายสนั่น กล่าวว่า ภาคเอกชนไทยมีความเข้มแข็ง และพร้อมให้การสนับสนุนและทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และมองว่าหากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จภายใต้ระบบของประชาธิปไตย ก็จะได้คนที่มีประสบการณ์เข้ามาขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีคณะทำงานในด้านนี้อยู่แล้ว และเคยได้พิสูจน์ให้เห็นในครั้งที่ผ่านมา
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ม.หอการค้าฯ คาดปีนี้ส่งออกหดตัว -1.2 ถึง -2.5% จับตาตั้งรัฐบาลใหม่ช้าหรือเร็ว : อินโฟเควสท์นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วิเคราะห์ทิศทางการส่งออกไทยในปี 2566 ภายใต้การเมืองไทยที่ยังไม่แน่นอน โดยตั้งสมมติฐานไว้ 2 กรณี ดังนี้ กรณีแรก : ตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในเดือน ส.ค. 66 คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยไปตลาดโลกในปี 2566 จะมีมูลค่าราว 283,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือหดตัว -1.2% (ช่วงคาดการณ์ระหว่าง -1.8 ถึง 0.8%) กรณีสอง : ไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายในเดือน ส.ค. 66 คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยไปตลาดโลกในปี 2566 จะมีมูลค่าราว 279,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือหดตัว -2.5% (ช่วงคาดการณ์ระหว่าง -1.9 ถึง -3.1%) “หากภายในเดือนส.ค.นี้ เราได้รัฐบาลใหม่ ก็คาดว่าการส่งออกจะอยู่ที่ -1.2% ซึ่งถือว่าการส่งออกไทย ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี แต่หากยังไม่ได้รัฐบาลใหม่ภายในเดือน ส.ค. การส่งออกไทยก็จะหดตัวมากขึ้นไปอยู่ที่ -2.5%” […]
อ่านเพิ่มเติม »
ม.หอการค้าฯ คาดหากได้รัฐบาลทันส.ค.นี้ ส่งออกจะติดลบ 1.2% แต่หากยืดเยื้อจะติดลบ 2.5%สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -19 ก.ค. 66 11:45 น. ม.หอการค้า ประเมินหากได้รัฐบาลทันส.ค.นี้ ประเมินส่งออกจะติดลบ 1.2% แต่หากนานกว่านั้น จะติดลบ 2.5% พร้อมเปิด 7 ป...
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดบริษัทตั้งใหม่ H1/66 โต 17.33% จับตาธุรกิจแลกเงิน หลังท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก : อินโฟเควสท์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนมิ.ย.66 และครึ่งปีแรก 2566 (ม.ค.-มิ.ย.66) *ธุรกิจจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้ง 7,626 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 14.49% (มิ.ย.65 อยู่ที่ 6,661 ราย) โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 39,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 91.75% (มิ.ย.65 อยู่ที่ 20,744 ล้านบาท) โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 598 ราย คิดเป็น 8% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 591 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 338 ราย คิดเป็น 4% ขณะที่ ธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.66) มีจำนวน 47,286 ราย เทียบกับครึ่งปี 2565 […]
อ่านเพิ่มเติม »
ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้โต 3.5% : อินโฟเควสท์ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุในรายงาน Asian Development Outlook (ADO) ประจำเดือนก.ค. 2566 ที่เผยแพร่ในวันนี้ (19 ก.ค.) ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะขยายตัว 4.8% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา หลังขยายตัว 4.3% ในปี 2565 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งหนุนการฟื้นตัวของภูมิภาคดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รายงานระบุว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงแบบต่อเนื่องสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงและอาหารลดลง โดยเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียมีแนวโน้มอยู่ที่ 3.6% ในปีนี้ เทียบกับที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ 4.2% ส่วนเงินเฟ้อในปี 2567 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสู่ 3.4% จากที่เคยคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ 3.3% ADB ระบุว่า การเปิดประเทศอีกครั้งของจีนกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มขยายตัวที่ 5.0% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย. เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในภาคบริการ อย่างไรก็ตาม อุปสงค์สำหรับการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าการผลิตอื่น ๆ ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากการคุมเข้มนโยบายการเงินฉุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วขนาดใหญ่ โดยเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะขยายตัว 4.7% ในปี 2567 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากที่เคยประมาณการไว้ในเดือนเม.ย.ที่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
โบรกฯ มองบวก กขค.ไฟเขียวดีล BCP 'ซื้อ' ESSO คาดแล้วเสร็จ H2/66 : อินโฟเควสท์บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) อนุญาตรวมธุรกิจระหว่าง บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น(BCP) และบมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย)(ESSO) พร้อมกำหนด 6 เงื่อนไข โดยความเห็น กขค. เห็นว่าการรวมธุรกิจดังกล่าว มีความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม ทั้งนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ กขค. อนุมัติการที่ BCP เข้าซื้อ ESSO และเราคาดกระบวนการเข้าซื้อจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในครึ่งปีหลังนี้ เรายังคงคำแนะนำซื้อ BCP ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงปี 66 ที่ 36.00 บาท และ ESSO ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงปี 66 ที่ 9.50 บาท โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดลงทุนของจีนในต่างประเทศขยายตัวครึ่งแรกปีนี้แตะ 4.31 แสนล้านหยวน : อินโฟเควสท์กระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้บ่งชี้ว่า ยอดการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 รายงานระบุว่า ยอด ODI ที่ไม่ใช่ภาคการเงินเพิ่มขึ้น 22.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 4.3161 แสนล้านหยวนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อคำนวณในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ยอด ODI ครึ่งแรกของปี 66 แตะ 6.229 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.8% จากปีก่อนหน้า ข้อมูลระบุว่า การลงทุนที่ไม่ใช่ภาคการเงินในประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในโครงการร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road initiative) แตะ 1.157 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 66 เพิ่มขึ้น 15.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และคิดเป็น 18.6% ของ ODI ทั้งหมด ขณะเดียวกัน ยอดลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีน ลดลง […]
อ่านเพิ่มเติม »