หน่วยงานภาครัฐนำร่องจัดกิจกรรมเสริม ภาพลักษณ์ ท่องเที่ยว ในพื้นที่กรุงเทพฯ อินโฟเควสท์
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA ร่วมกับกรุงเทพมหานคร , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ นำร่องจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ UNFOLDING BANGKOK ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 12 พ.ย.65-5 มี.ค.
สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้ 3 แนวคิดหลัก ประกอบด้วย Hidden Temple ท่องวัดลับ, Greeting Benjakitti เที่ยวสวนป่ากลางเมือง และ Living Old Building’ ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ โดยแนวคิด “Hidden Temple ท่องวัดลับ” จัดขึ้นใน 3 กลุ่มวัดที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มีการจัดแสดงแสงสีติดตั้งบนสถาปัตยกรรม เพื่อให้เกิดมุมมองมิติของความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทยที่ทรงคุณค่า พร้อมจัดแสดงและการละเล่นของนักสร้างสรรค์และชุมชน เช่น การแสดงกระตั้วแทงเสือ การแสดงเชิดสิงโต ชมศิลปะการแทงหยวก การแสดงหุ่นกระบอกจีน รำกระบี่กระบอง เป็นต้น เริ่มจากวัดภุมรินทร์ราชปักษี และวัดดุสิดาราม ย่านบางกอกน้อย ระหว่างวันที่ 10-18 ธ.ค.
และแนวคิด Living Old Building ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ นำพื้นที่อาคารที่มีคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ มาปรับปรุงพื้นที่ในอาคารเก่า และอาคารอนุรักษ์ โดยการออกแบบแสงสี เพื่อจัดแสดงโชว์ความสวยงามของอาคาร พร้อมจัดกิจกรรมภายในอาคารและนอกอาคาร เพื่อให้อาคารเก่ากลับมามีชีวิต และใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง และใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น อาคารสถานีรถไฟหัวลำโพง สำนักงานประปาแม้นศรี เป็นต้น โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ก.พ.-5 มี.ค.
“พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มาพัฒนาระบบเศรษฐกิจ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์บนฐานขององค์ความรู้ การศึกษาวิจัยซึ่งเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สั่งสมความรู้ของสังคม รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อใช้ในการพัฒนาธุรกิจ การผลิตสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจหรือคุณค่าทางสังคม รวมถึงสร้างรายได้สร้างอาชีพให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืน”
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ทิพานัน ย้ำพระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีรถ EV มีผลบังคับใช้แล้ว ลดสูงถึง 80% : อินโฟเควสท์น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญให้ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน ที่จดทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ โดยภาษีประจำปีจะลดลงร้อยละ 80 ของอัตราที่กำหนดตาม (11) ของอัตราภาษีประจำปีท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และกำหนดให้ลดภาษีเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่รถนั้นจดทะเบียน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงกระตุ้นระบบเศรษฐกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้การลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นไปเพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้นที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศไว้ว่าจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2065 สอดคล้องกับที่ได้ประกาศไว้ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 เมื่อวันที่ 31 ต.ค. – 12 พ.ย. 2564 พร้อมกับรักษาความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ “รัฐบาลจึงออกมาตรการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้รถไฟฟ้า ใช้พลังงานที่สะอาด …
อ่านเพิ่มเติม »
สธ.ออกประกาศคุมเข้มช่อดอกกัญชาไม่ให้ใช้ผิดวัตถุประสงค์เพื่อทางการแพทย์ : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 โดยเป็นการปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 16 มิ.ย. 65 มีสาระสำคัญในการควบคุมการใช้ประโยชน์จากส่วนของช่อดอกกัญชาไม่ให้มีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของการคุ้มครองและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร “ก่อนที่รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขจะลงนาม ประกาศฉบับใหม่นี้ได้ผ่านการเห็นชอบของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ซึ่งได้รับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชน ซึ่งได้แสดงความกังวลต่อกรณีที่อาจมีการนำช่อดอกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จึงควรปรับปรุงข้อกฎหมายให้มีความชัดเจน เข้มงวดยิ่งขึ้น คุ้มครองกลุ่มเปราะบาง ขณะเดียวกันประชาชนยังสามารถใช้ประโยชน์กัญชาในการดูแลสุขภาพได้ กัญชายังคงได้รับการส่งเสริมให้เป็นพืชสำคัญทางการแพทย์และการผลิตในภาคอุตสาหกรรม” น.ส.ไตรศุลี กล่าว น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประกาศฉบับใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษานี้ กำหนดให้ส่วนของช่อดอกกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม ผู้ใดประสงค์จะศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปเพื่อการค้า จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา …
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดติดโควิดรายใหม่ในจีนพีกสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. : อินโฟเควสท์จีนรายงานในวันนี้ (12 พ.ย.) ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. หลังจากจีนเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดบางประการเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ซึ่งรวมถึงการลดระยะเวลาการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (zero-COVID policy) ที่เข้มงวดอย่างมาก มาตรการที่เข้มงวดได้ถ่วงเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยส่งผลกระทบต่อกิจกรรมด้านอุตสาหกรรม และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนด้วยมาตรการล็อกดาวน์, การกักตัว, การตรวจเชื้อบ่อยครั้ง และการจำกัดการเดินทาง ทั้งนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 11,950 รายเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) โดยมีอาการ 1,504 ราย และไม่มีอาการ 10,446 ราย เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รวม 10,729 รายเมื่อวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันศุกร์บรรดานักลงทุนเพิ่งขานรับการประกาศมาตรการผ่อนคลาย ซึ่งรวมถึงการลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ และผู้ที่สัมผัสติดต่อกับผู้ติดเชื้อ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ทำเนียบขาวรุดสอบกรณี FTX ล้มละลาย ย้ำชัดต้องคุมเข้มกฎระเบียบคริปโทฯ : อินโฟเควสท์ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันศุกร์ (11 พ.ย.) ว่า กำลังตรวจสอบการล้มละลายของ บริษัท เอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี โดยระบุว่า การยื่นขอล้มละลายของ FTX เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมคริปโทฯ ต้องการกฎระเบียบที่แข็งแกร่ง เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่า ทำเนียบขาวและหน่วยงานอื่น ๆ กำลังตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าว โดยระบุเสริมว่า ชาวอเมริกันเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย หากไม่มีการกำกับดูแลด้านคริปโทฯ ที่เหมาะสม ซึ่งการยื่นขอล้มละลายเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) ของบริษัทอลาเมดา รีเสิร์ช (Alameda Research) และบริษัทที่เกี่ยวข้องรวมถึง เอฟทีเอ็กซ์.คอม (FTX.com) และเอฟทีเอ็กซ์ ยูเอส (FTX US) ได้ตอกย้ำความวิตกดังกล่าวมากขึ้น การล้มละลายของ FTX ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ได้ส่งผลกระทบอีกครั้งต่อตลาดคริปโทฯ หลังเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงและการล้มละลายของบริษัทชั้นนำอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ อาทิ เซลเซียส เน็ตเวิร์ก และวอยเอเจอร์ ดิจิทัล ทั้งนี้ FTX รายงานว่า บริษัทมีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มมากกว่า 5 ล้านรายทั่วโลก …
อ่านเพิ่มเติม »
ไทยร่วมประชุมอาเซียน-ออสเตรเลียย้ำสร้างความร่วมมือภายใต้หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน : อินโฟเควสท์พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน – ออสเตรเลีย ครั้งที่ 2 โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจากทั้ง 9 ประเทศ เลขาธิการอาเซียน และนายแอนโทนี แอลบาเนซี (The Honourable Anthony Albanese MP) นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย ร่วมกล่าวถ้อยแถลง เพื่อทบทวนความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน – ออสเตรเลียในรอบปีที่ผ่านมา กำหนดทิศทางของการดำเนินความสัมพันธ์ให้มีพลวัต แน่นแฟ้น ครอบคลุม และยั่งยืน โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของถ้อยแถลง ดังนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมขับเคลื่อนความสัมพันธ์อาเซียน – ออสเตรเลียที่มีมายาวนานเกือบ 5 ทศวรรษ ให้มีพลวัต ครอบคลุม เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเกื้อกูลกับการเสริมสร้างประชาคมอาเซียน ท่ามกลางความท้าทาย ทั้งสองฝ่ายต้องเสริมสร้างความร่วมมือภายใต้หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน ผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อริเริ่มต่าง ๆ ภายใต้ความร่วมมืออาเซียน – ออสเตรเลีย และกลไกอื่น ๆ ที่อาเซียนมีบทบาทนำ …
อ่านเพิ่มเติม »
'โกลด์แมนแซคส์' คาดตลาดทุนจะกลับมาฟื้นตัวได้ในไม่กี่เดือนข้างหน้า : อินโฟเควสท์นายเดวิด โซโลมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ตลาดทุนจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ “ผมคิดว่าสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือการปรับคาดการณ์เกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ ผมคิดว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ตลาดทุนจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เมื่อนักลงทุนเริ่มคุ้นเคยกับการปรับมูลค่าสินทรัพย์” นายโซโลมอนให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) ที่ผ่านมานั้น แม้ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำจะเปิดทางให้มีบริษัทรายใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด และมูลค่าของบริษัทเหล่าปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด แต่จำนวนบริษัทที่เสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ดิ่งลงอย่างมากในปีนี้ ข้อมูลจากอีวาย (EY) และดีลโลจิก (Dealogic) ระบุว่า บริษัทที่จดทะเบียนในสหรัฐมีการระดมทุนผ่านการทำ IPO เพียง 4.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 1.55 แสนล้านดอลลาร์ สาเหตุที่ทำให้จำนวนบริษัทที่ทำ IPO ในปีนี้ลดลงนั้นมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งรวมถึงการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), การที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าทำสงครามในยูเครน และการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ซึ่งทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าลงทุนในหุ้นปลอดภัย อย่างไรก็ดี นายโซโลมอนกล่าวว่า แม้ปัจจัยลบดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่เขาเชื่อว่าตลาดกำลังปรับตัวรับความเป็นจริงใหม่ “ยังมีบริษัทอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ที่ผ่านมาตลาดทุนอาจเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นเวลา 3 ไตรมาส …
อ่านเพิ่มเติม »