ส่อผิดหลายข้อหา!จี้ลงโทษ‘ศรีสวัสดิ์’ คิดดบ.เกินกม.-หักต้น-พ่วงขายประกัน-เรียกค่าไถ่โฉนด isranews สำนักข่าวอิศรา
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. สภาองค์กรของผู้บริโภค จัดงานแถลงข่าวในหัวข้อ ‘เปิดกลลวง บริษัทสินเชื่อ’ เพื่อเป็นการแจ้งเตือนภัยผู้บริโภคที่จะเข้าไปใช้บริการ ‘สินเชื่อบ้านและที่ดินโดยไม่จดจำนอง’
นายภัทรกร ยังระบุว่า จากใบเสร็จรับเงินกู้ดังกล่าวยังปรากฏข้อมูลว่า ผู้ให้กู้ ซึ่งเป็นคู่สัญญากับผู้บริโภครายนี้ กลับไม่ใช่บริษัทเจ้าของเว็บไซต์ที่โฆษณา คือ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอปอเรชัน แต่เป็น บริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 2014 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ บมจ.
นายภัทรกร กล่าวสรุปว่า บริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 2014 จำกัด มีการทำสัญญาไม่เป็นธรรมและเอาเปรียบผู้บริโภค รวม 8 ประเด็น ได้แก่ 1.ผู้ขอสินเชื่อไม่ได้รับเอกสารคู่สัญญาจากบริษัทฯ ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้บริโภคในการถูกฟ้องคดี 2.มีการขายประกันชีวิตและประกันวินาศภัยพ่วง โดยไม่ให้สิทธิผู้บริโภคในการปฏิเสธ และมีการเฉพาะเจาะจงบริษัทประกันที่กำหนด 3.
ส่วนกรณีที่ บริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 2014 จำกัด ไม่ส่งมอบคู่ฉบับสัญญาให้ผู้กู้ยืมเงิน ถือว่าฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่อง ให้ธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อผู้บริโภคของสถาบันการเงินเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2544 และฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 35 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายจิณณะ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการจำกัดการชำระเงินต้น หรือจ่ายเงินต้นให้น้อยที่สุด อีกทั้งยังกำหนดให้ผู้กู้ต้องชำระเงินให้ครบภายใน 12 เดือน นั้น สะท้อนว่าบริษัทฯไม่ได้มีธรรมาภิบาลหรือคุณธรรมเพียงพอในการประกอบธุรกิจ โดยมุ่งหาประโยชน์หรือกำไรจากผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรม และกรณีดังกล่าวก็เข้าข่ายเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และสื่อไปในทางไม่สุจริต
นายจิณณะ ยังระบุว่า ไม่ใช่เฉพาะแต่ บริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 2014 จำกัด เท่านั้น ที่มีพฤติการณ์แบบนี้ แต่เชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายบริษัทที่มีพฤติการณ์แบบนี้ ซึ่งพฤติการณ์เหล่านี้เป็นภัยต่อสังคม เพราะเป็นการเอารัดเอาเปรียบ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจแย่มาก อย่างไรก็ดี สภาองค์กรของผู้บริโภค จะเข้าไปตรวจสอบในทุกกรณีที่มีการกระทำความผิด เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค