ส่งออกข้าว ปี 65 ทะลุเป้า! ปีหน้าแววสดใส บาทอ่อน-ดีมานด์สูงหนุน อินโฟเควสท์
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวของไทยไว้ที่ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7 ล้านตัน แต่คาดว่าน่าจะส่งออกได้เกินเป้าหมาย เพราะตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ธ.ค. 65 มีผู้ส่งออกขอใบอนุญาตส่งออกแล้ว 8.58 ล้านตัน
สำหรับสาเหตุที่ส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 33% เป็นเพราะค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาข้าวไทยเพิ่มขึ้น รวมทั้งอิรักเริ่มกลับมาซื้อเข้าไทยเพิ่มขึ้นมากถึง 500% หรือนำเข้าแล้ว 1.3 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่นำเข้าเพียง 200,000 ตัน ขณะที่ตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ ยังเติบโตต่อเนื่อง
“ปี 66 ปริมาณการส่งออกจะสูงกว่าปี 65 แน่นอน แต่จะได้เท่าไร ต้องขอประเมินร่วมกับผู้ส่งออกในเดือนม.ค.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ดัน 5 โครงการแก้น้ำท่วม-น้ำแล้งเข้า กนช. ส่งท้ายปี 65 : อินโฟเควสท์พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำจำนวน 5 โครงการ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ โดยเป็นโครงการในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน 3 โครงการ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนหลักการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง 9 แผนงาน ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติเห็นชอบไว้แล้ว ได้แก่ – โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง มีแผนการดำเนินงาน 6 ปี (พ.ศ.2567-2572) เมื่อแล้วเสร็จจะเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเดิม 210 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที เป็น 400 ลบ.ม.ต่อวินาที สามารถป้องกันและลดปัญหาน้ำท่วมได้ 276,000 ไร่ ผลประโยชน์จากการบรรเทาอุทกภัยเฉลี่ยปีละ 5,085 ล้านบาท นอกจากนั้นยังสามารถเก็บกักน้ำในระบบช่วงฤดูแล้ง 18 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี เพิ่มผลประโยชน์ด้านน้ำอุปโภค-บริโภคเฉลี่ยปีละ 227.7 ล้านบาท – โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก มีแผนการดำเนินงาน 4 …
อ่านเพิ่มเติม »
เวิลด์แบงก์มองศก.ไทยฟื้นตัว คาดปี 66 โต 3.6% เตือนระวังหนี้ครัวเรือนเวิลด์แบงก์คาดการณ์เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ GDP ปี 65-65 คาดโต 3.4% และ 3.6% แม้ห่างไกลอันตรายเศรษฐกิจถดถอยแต่มี 'หนี้ครัวเรือน' เป็นเรื่องน่ากังวลที่สุด ฐานเศรษฐกิจ Gothailand2023 Thandigital
อ่านเพิ่มเติม »
BGRIM งบพ้นจุดต่ำสุด ...จับตา ! ปี 66 ฟื้นแรงกว่ากลุ่มหุ้น BGRIM กลับเข้าเรดาร์นักลงทุนอีกครั้ง หลังโบรกฯประเมินงบผ่านจุดต่ำสุดช่วง Q3/65 แล้ว มอง Q4/65 เป็นจุดเริ่มต้นฟื้นตัว หลังต้นทุนก๊าซฯเริ่มลด – รับรู้...
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ เหตุวิตกเศรษฐกิจถดถอย : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ที่น่าผิดหวังของสหรัฐได้บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อกำลังส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่า การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,620.66 จุด ร่วงลง 431.04 จุด หรือ -1.54%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,386.70 จุด เพิ่มขึ้น 18.11 จุด หรือ +0.09% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,160.67 จุด ลดลง 7.98 จุด หรือ -0.25% ฮ่องกงมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขว่างงานสำหรับเดือนก.ย.-พ.ย.ในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทจีน เพื่อสกัดกั้นจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐที่จะนำไปพัฒนาด้านการทหารของจีนให้ทันสมัย โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงสองเดือนหลังคณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศจำกัดจีนจากการเข้าถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ก้าวล้ำ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ETF บิตคอยน์-อีเธอร์กองแรกของเอเชียประเดิมเทรดวันแรกที่ตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้ : อินโฟเควสท์กองทุน ETF สองแห่งของฮ่องกงที่ลงทุนในสัญญาบิตคอยน์และอีเธอร์ สามารถระดมทุนรวมกันเบื้องต้นได้ 79 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่รัฐบาลฮ่องกงกำลังผลักดันแผนการสนับสนุนให้ฮ่องกงก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านคริปโทเคอร์เรนซี แม้อุตสาหกรรมคริปโทฯ ทั่วโลกเผชิญกับความระส่ำระสาย อันเนื่องมาจากการล้มละลายของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ก็ตาม ทั้งนี้ กองทุน ETF ทั้งสองกองทุนคือ CSOP Bitcoin Futures และ CSOP Ether Futures จะเป็นกองทุน ETF สัญญาบิตคอยน์และอีเธอร์กองแรกของเอเชีย ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงในวันนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากกองทุนดังกล่าวสามารถระดมทุนได้เบื้องต้น 59 ล้านดอลลาร์ และ 20 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงต้นปีนี้รัฐบาลฮ่องกงได้เปิดเผยแผนการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางคริปโทฯ ของเอเชีย โดยจะอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยและกองทุน ETF สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถซื้อขายคริปโทฯ ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีเป้าหมายที่จะกอบกู้ฮ่องกงให้กลับมาเป็นศูนย์กลางการเงินได้อีกครั้ง ผลิตภัณฑ์ซื้อขายคริปโทฯ ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ราคาโทเคนทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 แต่อุปสงค์ได้อ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลทรุดตัวลง รวมทั้งบริษัทคริปโทฯ อาทิ FTX ซึ่งก่อตั้งโดยนายแซม แบงค์แมน-ฟรีด ประสบกับภาวะล้มละลาย รายงานล่าสุดระบุว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
ทวิตเตอร์แบนบัญชีนักข่าว 'อีลอน มัสก์' ลั่นถูกคุกคาม-เมินฟรีสปีช : อินโฟเควสท์ทวิตเตอร์ อิงค์ได้ทำการระงับบัญชีใช้งานของนักข่าวหลายคนเมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) รวมทั้งนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่างนิวยอร์กไทม์สและวอชิงตันโพสต์ โดยมีการขึ้นข้อความแจ้งว่า “บัญชีถูกระงับใช้งาน” (account suspended) นักข่าวทั้งหมดที่ถูกระงับการใช้งานบัญชีทวิตเตอร์นั้นต่างก็เคยเขียนข่าวเกี่ยวกับนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชื่อดังซึ่งเป็นเจ้าของคนใหม่ของทวิตเตอร์ และเขียนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มนับตั้งแต่นายมัสก์เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ นายมัสก์ได้ทวีตข้อความชี้แจงเกี่ยวกับบัญชีที่ถูกระงับดังกล่าวว่า “กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการคุกคามทางออนไลน์ (doxxing rules) มีผลบังคับใช้กับบรรดานักข่าว เช่นเดียวกับผู้ใช้งานทุกคน” โดยอ้างอิงถึงกฎที่เรียกว่า doxxing ของทวิตเตอร์ที่ห้ามการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล นายมัสก์ระบุอีกว่า “การวิพากษ์วิจารณ์ผมทั้งวันนั้นไม่เป็นไร แต่การเผยแพร่สถานที่อยู่ของผมแบบเรียลไทม์และสร้างอันตรายให้แก่ครอบครัวของผมนั้น ไม่ใช่เรื่องดี” สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) ทวิตเตอร์ได้ระงับใช้งานบัญชี elonjet ซึ่งติดตามการใช้งานเครื่องบินส่วนตัวของนายมัสก์ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ ซึ่งนับเป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากที่นายมัสก์กล่าวถึงความมุ่งมั่นของเขาที่มีต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและได้เลื่อนการแบนบัญชีดังกล่าว สำหรับบัญชีของบรรดานักข่าวที่ถูกระงับใช้งานประกอบไปด้วย นายไรอัน แมค (rmac18) นักข่าวของนิวยอร์กไทมส์, นายดรูว์ ฮาร์เวลล์ (drewharwell) นักข่าวของวอชิงตันโพสต์, นายโดนี โอ’ซัลลิแวน (donie) ผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็น และนายแมตต์ บินเดอร์ (MattBinder) ผู้สื่อข่าวของแมชเชเบิล (Mashable) นอกจากนี้ บัญชีของนายแอรอน รูพาร์ …
อ่านเพิ่มเติม »