สิงคโปร์ส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมัน ร่วงลง 25% ในเดือนม.ค. : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

สิงคโปร์ส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมัน ร่วงลง 25% ในเดือนม.ค. : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 40 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 19%
  • Publisher: 68%

สิงคโปร์ส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมัน ร่วงลง 25% ในเดือนม.ค. สิงคโปร์ เศรษฐกิจสิงคโปร์ อินโฟเควสท์

องค์การวิสาหกิจของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการค้าของสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมัน ของสิงคโปร์ ลดลง 25% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วงลงของยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้านอกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

ยอดส่งออกเดือนม.ค.ปรับตัวลงรุนแรงกว่าในเดือนธ.ค. 2565 ที่ลดลง 20.6% และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 22.0% นางเซเลนา หลิง นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร OCBC กล่าวว่า การร่วงลงดังกล่าวใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของ OCBC ที่ 24.6% แต่อาจจะย่ำแย่กว่านี้หากไม่มีการเติบโตในภาคเวชภัณฑ์ โดยยอดการส่งออกเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในเดือนม.ค. สู่ระดับ 1.76 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ข้อมูลเทียบเป็นรายเดือนที่ปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว พบว่า ยอดการส่งออกสินค้ายกเว้นน้ำมัน ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนม.ค. หลังจากที่ร่วงลง 2.9% ในเดือนธ.ค 2565 สำหรับการส่งออกไปยังประเทศจีนร่วงลง 41.1% เนื่องจากการขนส่งเครื่องจักรเฉพาะทาง ปิโตรเคมี และเวชภัณฑ์ปรับตัวลดลง ในขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐร่วงลง 31.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของยอดขายโครงสร้างเรือ เครื่องจักรเฉพาะทาง และผลิตภัณฑ์การเตรียมอาหาร

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

เงินเฟ้ออังกฤษลดลงติดต่อกันเดือนที่ 3 สู่ 10.1% ในม.ค. : อินโฟเควสท์เงินเฟ้ออังกฤษลดลงติดต่อกันเดือนที่ 3 สู่ 10.1% ในม.ค. : อินโฟเควสท์สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ (15 ก.พ.) ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของอังกฤษ ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ แต่ราคาอาหารและพลังงานที่อยู่ในระดับสูงยังคงสร้างแรงกดดันต่อภาคครัวเรือนอังกฤษอย่างต่อเนื่อง นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะลดลงแตะ 10.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังลดลงแตะ 10.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยดัชนี CPI ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ 11.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ด้านดัชนี CPI พื้นฐาน หรือ Core CPI ซึ่งไม่รวมราคาอาหาร พลังงาน แอลกอฮอร์ หรือยาสูบ อยู่ที่ 5.3% ในเดือนม.ค. เทียบกับ 5.8% ในเดือนธ.ค. โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 […]
อ่านเพิ่มเติม »

ดาวโจนส์ปิดร่วง 431.20 จุด หวั่นเฟดขึ้นดบ.แรงหลังเงินเฟ้อพุ่ง-จ้างงานแกร่ง : อินโฟเควสท์ดาวโจนส์ปิดร่วง 431.20 จุด หวั่นเฟดขึ้นดบ.แรงหลังเงินเฟ้อพุ่ง-จ้างงานแกร่ง : อินโฟเควสท์ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 6.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 194,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.5% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% […]
อ่านเพิ่มเติม »

ทองปิดบวก $6.5 เหตุดอลล์อ่อนหนุนตลาด : อินโฟเควสท์ทองปิดบวก $6.5 เหตุดอลล์อ่อนหนุนตลาด : อินโฟเควสท์สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนสัญญาทองคำปิดในแดนบวก หลังจากราคาสัญญาร่วงลงในระหว่างวัน จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงเกินคาด สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ 103.8780 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 6.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 194,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ […]
อ่านเพิ่มเติม »

ดาวโจนส์ปิดบวก 38.78 จุด หลังสหรัฐเผยยอดค้าปลีกสูงกว่าคาด : อินโฟเควสท์ดาวโจนส์ปิดบวก 38.78 จุด หลังสหรัฐเผยยอดค้าปลีกสูงกว่าคาด : อินโฟเควสท์ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (15 ก.พ.) หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 3% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.8% หลังจากดิ่งลง 1.1% ในเดือนธ.ค. โดยยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์และยอดขายน้ำมันในสถานีบริการน้ำมัน รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Baird ในรัฐเคนตักกีกล่าวว่า ในช่วงแรกนั้นนักลงทุนขานรับรายงานยอดค้าปลีกอย่างคึกคักเนื่องจากเป็นข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่หลังจากนั้น นักลงทุนเริ่มมองว่าความแข็งแกร่งของยอดค้าปลีก ประกอบกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.ที่ออกมาสูงเกินคาด จะทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค., พ.ค. และมิ.ย. สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยนายแพทริก ฮาเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่เหนือระดับ 5% หรืออาจจะสูงกว่านั้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ […]
อ่านเพิ่มเติม »

ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค. หลังส่งออกชะลอตัว : อินโฟเควสท์ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค. หลังส่งออกชะลอตัว : อินโฟเควสท์กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนม.ค.ขยับขึ้นเพียง 3.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนธ.ค.ที่พุ่งขึ้น 11.5% เนื่องจากความต้องการสินค้าญี่ปุ่นในตลาดจีนอ่อนแรงลง ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 17.8% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 20.7% โดยได้แรงหนุนจากการนำเข้าน้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเหลวที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3.49 ล้านล้านเยน (2.607 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศพบว่า ยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่นนั้น ลดลง 17.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยถูกฉุดจากยอดส่งออกรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์ผลิตชิปที่ปรับลงอย่างมาก ส่วนยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐพุ่งขึ้น 10.2% โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์รถยนต์, เครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และเครื่องจักรสำหรับการถลุงโลหะ การเปิดเผยข้อมูลการค้าในวันนี้มีขึ้นหลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2565 ขยายตัวเพียง 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะขยายตัว 2.0% และบ่งชี้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังเผชิญกับความท้าทายในการกระตุ้นอุปสงค์ภาคเอกชนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็ต้องพยุงเงินเฟ้อให้อยู่เหนือเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. […]
อ่านเพิ่มเติม »

สำนักงบประมาณคองเกรสเตือนสหรัฐจ่อผิดนัดชำระหนี้เดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้ : อินโฟเควสท์สำนักงบประมาณคองเกรสเตือนสหรัฐจ่อผิดนัดชำระหนี้เดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้ : อินโฟเควสท์สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) เตือนว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้ นอกเสียจากว่ากระทรวงการคลังจะสามารถตกลงกับสภาคองเกรสเพื่ออนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือยกเลิกเพดานหนี้ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ CBO เปิดเผยรายงานควบคู่กับรายงานแนวโน้มงบประมาณประจำปีในวันพุธ (15 ก.พ.) ระบุว่า CBO มีความกังวลว่าการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐอาจจะเกิดขึ้นก่อนเดือนก.ค.ปีนี้ หากรายได้ที่ไหลเข้าสู่กระทรวงการคลังในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นเดือนที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะต้องยื่นแบบชำระภาษีประจำปีนั้น อยู่ต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ เมื่อพิจารณาจากขนาดของรายได้ที่กำลังจะได้รับ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ทำให้เป็นเรื่องยากที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐจะสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่ากระทรวงการคลังจะเริ่มผิดนัดชำระหนี้หลายรายการเมื่อใด “หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือยกเลิกเพดานหนี้ก่อนที่มาตรการพิเศษจะหมดอายุ รัฐบาลก็จะไม่สามารถชำระหนี้ตามภาระผูกพันได้ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องเลื่อนการจ่ายงบประมาณสำหรับกิจกรรมบางอย่าง และนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้” CBO ระบุในรายงาน นอกจากนี้ CBO ระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณประจำปีของรัฐบาลสหรัฐโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2567- 2576 ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลให้สมาชิกพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดการใช้จ่าย ขณะเดียวกัน CBO คาดว่าอัตราว่างงานในปี 2566 จะอยู่ที่ 4.7% ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 3.4% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-31 19:26:00